นายกฯ เหงียนซวนฟุก ของเวียดนาม พบประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว ภาพเอเอฟพี

นายกฯ เหงียนซวนฟุกของเวียดนาม เยือนทำเนียบขาว เจรจาความร่วมมือการค้ากับสหรัฐ ขณะสองฝ่ายลงนามข้อตกลงธุรกิจมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชื่นชมดีลเวียดนามสร้างงานในอเมริกาหลายหมื่นตำแหน่ง

นายกรัฐมนตรีเวียดนามกลายเป็นผู้นำประเทศในภูมิภาคอาเซียนคนแรกที่ได้มาเยือนทำเนียบขาวนับแต่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อต้นปีนี้ หลังเข้ารับตำแหน่งทรัมป์ตัดสินใจถอนสหรัฐออกจากความตกลงหุ้นส่วนข้ามแปซิฟิก (ทีพีพี) ที่เวียดนามร่วมลงนามไว้ด้วย โดยอ้างว่าความตกลงการค้าเสรีกับอีก 11 ประเทศเป็นตัวทำลายการจ้างงานในสหรัฐ พร้อมประกาศจะผลักดันการเจรจาทำความตกลงการค้าระดับทวิภาคีก่อน

ระหว่างการมาเยือนของเหงียนและคณะ กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐประกาศเมื่อวันพุธว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงการค้า 13 ฉบับ มูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์สหรั (ราว 2.73 แสนล้านบาท) ซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐมูลค่า 3,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะสร้างงานมากกว่า 23,000 ตำแหน่ง

ข้อตกลงที่ลงนามกันเมื่อวันพุธ รวมถึงข้อตกลงจัดซื้อเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, เครื่องยนต์อากาศยานและบริการต่างๆ จากบริษัทเจเนอรัลอีเล็กทริก ของสหรัฐ มูลค่า 5,580 ล้านดอลลาร์

ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวชื่นชมเวียดนามว่า เวียดนามเพิ่งสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากในสหรัฐ และสหรัฐรู้สึกซาบซึ้ง กับคำสั่งซื้อมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์นี้ ซึ่งหมายถึงการจ้างงานในสหรัฐ และเครื่องมือเครื่องไม้ที่ดีเยี่ยมสำหรับเวียดนาม

ก่อนหน้านี้ เวียดนามเคยเป็นหนึ่งในหลายประเทศที่ทรัมป์กล่าวโจมตีว่าขโมยการจ้างงานของคนอเมริกัน และยังเป็นประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐจำนวนมหาศาล เมื่อปีที่แล้วสหรัฐขาดดุลการค้าต่อเวียดนามสูงถึง 32,000 ล้านดอลลาร์ เปรียบเทียบกับ 10 ปีก่อน สหรัฐเคยขาดดุลเพียง 7,000 ล้านดอลลาร์

วิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจำเป็นต้องลดการขาดดุลการค้ากับเวียดนามลง เวียดนาม ซึ่งจีดีพีเมื่อปีที่แล้วโตถึง 6.2% ได้กลายเป็นตลาดสำหรับสินค้าส่งออกของสหรัฐที่เติบโตเร็วที่สุด เพิ่มขึ้น 77% นับแต่ปี 2557 เป็นมูลค่า 4,400 ล้านดอลลาร์

นอกจากการหารือเรื่องการค้า ทรัมป์บอกว่าเขาและเหงียนยังได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นอื่นๆ รวมถึงเกาหลีเหนือด้วย ส่วนเหงียนแสดงความยินดีที่ทรัมป์เตรียมมาเยือนเวียดนามเพื่อร่วมประชุมเอเปกเดือนพฤศจิกายนปีนี้.

ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.thaipost.net/

วิดิโอจาก Dhammakaya Benelux วัดพระธรรมกายเบเนลักซ์