สอนลูกชายให้มีความรับผิดชอบ...ต้องทำอย่างนี้!!!!
“หยุดก่อน! ถ้าคุณจะนำอาหาร หนังสือ การบ้าน อุปกรณ์ ฯลฯ มาส่งให้ลูกละก็ กรุณาหันหลังกลับ แล้วเดินออกไปจากอาคารเสียเถิด ลูกของคุณจะได้เรียนรู้การแก้ปัญหาเวลาคุณไม่อยู่” http://winne.ws/n16287
พอเปิดเทอม ผู้ปกครองที่รร. Catholic High School for Boys รัฐ Arkansas ก็ได้รับแจ้งเตือนให้รับทราบนโยบายที่รร. ปฏิบัติมาหลายสิบปีแล้ว ที่ไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองนำการบ้าน อาหาร หรืออุปกรณ์กีฬาที่นักเรียนลืมไว้ที่บ้านมาส่งให้ที่โรงเรียน นอกเหนือจากการติดป้ายเตือนไว้หน้าโรงเรียนว่า “หยุดก่อน! ถ้าคุณจะนำอาหาร หนังสือ การบ้าน อุปกรณ์ ฯลฯ มาส่งให้ลูกละก็ กรุณาหันหลังกลับ แล้วเดินออกไปจากอาคารเสียเถิด ลูกของคุณจะได้เรียนรู้การแก้ปัญหาเวลาคุณไม่อยู่”
มีคนแชร์โพสต์นี้ไปเป็นแสน กลายเป็นที่โจษขานกันไปทั่ว บางคนเห็นว่ารุนแรงเกินไป ถึงแม้เสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วยว่า “นี่เป็นการสอนให้เด็กหนุ่ม ๆ เป็นผู้ใหญ่ สามี และพ่อที่มีความรับผิดชอบต่อไป โดยผ่าน ‘ความล้มเหลวขั้นเบาะ ๆ ’” Margaret Barsocchi Willis ผู้ปกครองคนหนึ่งแสดงความเห็น การลืมของเหล่านี้เป็นความผิดพลาดเล็กน้อยที่ไม่มีผลสืบ เนื่องร้ายแรงอะไร
“นี่เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจของเราเพื่อช่วยให้นักเรียนรู้จักพึ่งพาตัวเองและรับผิดชอบด้วยตัวเอง” ผู้อำนวยการ Steve Straessle ชี้แจง “เราต้องการให้เด็กรู้จักคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพ่อหรือแม่ไม่อยู่คอยช่วยเหลือ... เด็กมักโทรบอกพ่อแม่ให้มาช่วยแก้ปัญหาให้ แต่เราพยายามให้นักเรียนของเราต้านทานแนวโน้มนี้ คิดหาทางแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
"เป้าหมายอีกประการหนึ่งคือเพื่อสอนเด็กถึง 'ความล้มเหลวขั้นเบาะ ๆ ' เช่น ลืมของ เข้าทีมไม่ได้ หรือเผชิญกับผลจากพฤติกรรมผิดพลาดของตน ความล้มเหลวขั้นเบาะ ๆ เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะเป็นพื้นฐานในการเป็นผู้ใหญ่ ความล้มเหลวขั้นเบาะ ๆ ไม่เคยทำลายชีวิตใคร แต่การขาดความล้มเหลวขั้นเบาะ ๆ ไปนี่สิทำลายชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว... นี่ไม่ใช่เรื่องโหดร้ายอะไรหรอก เป็นบทเรียนที่ไม่มีในตำรา แต่สำคัญพอ ๆ กับแคลคูคัสหรือเขียนเรียงความทีเดียว”
Catholic High School ไม่ใช่โรงเรียนเดียวที่มีนโยบายนี้ ก่อนหน้านั้นก็เคยมีข่าวฮือฮาเมื่อโรงเรียน Lake Mary และ Oviedo High School ที่ฟลอริดาใช้นโยบายเดียวกันนี้ตั้งแต่หลายปีก่อน เนื่องจากผู้อำนวยการรำคาญตาที่เห็นห้องธุรการชักจะกลายเป็นห้องล็อคเกอร์ไปเสียแล้ว ที่โรงเรียนส่วนใหญ่ต่างก็มีผู้ปกครองนำของที่ลูกลืมมาส่งให้ที่โรงเรียนมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเมื่อมีโทรศัพท์มือถือให้ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ง่าย ๆ ประกอบกับทัศนะของพ่อแม่ก็เปลี่ยนไป
ใหม่ ๆ ผู้ปกครองก็ไม่พอใจ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครบ่นกันแล้ว ส่วนใหญ่จะเข้าใจในเจตนาของโรงเรียน “ตอนเข้ามาใหม่ ๆ หนูรู้สึกตกใจ” Caroline Smith นักเรียนม. 5 เล่า เธอเท็กซ์ให้แม่เอาการบ้านมาให้เหมือนที่เคยทำมาที่โรงเรียนก่อน แต่แม่ตอบมาว่าผิดระเบียบ เดี๋ยวนี้เธอใส่ใจในการเตรียมของมาโรงเรียนมากขึ้น “มันสอนให้หนูรู้จักรับผิดชอบ หนูว่านักเรียนเคยชินแล้วค่ะ ถ้าเกิดลืมก็เป็นความผิดของเรา เราได้แต่โกรธตัวเองว่าลืมได้ไง ไม่ได้โกรธโรงเรียนหรอกค่ะ”
Patrick Wingfield นักเรียนม. 6 ที่ Catholic High School ก็เคยชินกับระเบียบของโรงเรียนแล้วเช่นกัน “ใหม่ ๆ ผมตกใจ แต่หลังจากผ่านไป 2 ปี ผมก็เข้าใจว่าทำไมจึงมีกฏเช่นนี้.. มันทำให้ผมคิดได้ด้วยตัวเอง ไม่พึ่งพาให้คนอื่นคอยทำให้ และถ้าผมทำผิดพลาดไป ผมก็ต้องเรียนรู้และพยายามแก้ไข”
Rob McCue ผู้อำนวยการโรงเรียน South Lake High School เห็นว่าการที่พ่อแม่นำของที่ลูกลืมมาให้ที่โรงเรียน สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วย สมัยที่เขาเรียนไฮสคูลอยู่นั้น ไม่สามารถโทรติดต่อพ่อแม่ได้ง่าย ๆ และถึงอย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าพ่อแม่ของเขาจะรีบเอาของมาส่งให้ที่โรงเรียนหรอก
การรีบนำของที่ลูกลืมไว้ไปส่งให้ที่โรงเรียนเป็นตัวอย่างอันดับต้น ๆ ของการที่พ่อแม่พยายามขจัดความไม่รื่นรมย์ออกไปจากชีวิตของลูก Jessica Lahey ครูและแม่ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “The Gift of Failure” ให้ความเห็น เป็นธรรมดาที่เด็กจะลืมของ แต่ก็เป็นการดีที่เขาจะคิดหาวิธีป้องกันความผิดพลาดทำนองนี้ในอนาคต วัยเด็กเป็นกระบวนการต่อเนื่องระยะยาวในการเรียนรู้การกรุยทางชีวิตของตนในโลก การที่เยาวชนสมัยนี้ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองได้ เป็นผลจากการที่พ่อแม่มีส่วนเกี่ยวข้องในชีวิตลูกมากเกินไป คอยเข้ามาปกป้องช่วยเหลือเมื่อลูกเผชิญกับความท้าทาย ทั้ง ๆ ที่การทำเช่นนั้นกลับจะเป็นผลร้ายต่อลูก เพราะทำให้ลูกต้านทานอุปสรรคต่าง ๆ ได้น้อยลง ความสามารถในการเผชิญกับความล้มเหลวลดลง
จาก 'Exit the building': School tells parents to let kids problem solve on their own