"อาหาร" กับ"สุขภาพ" เป็นของที่มาคู่กัน การกินดี หมายถึง การกินอาหารให้ได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน พอเพียง และพอดี ซึ่งนั้นจะนำมาเพื่อสุขภาพที่ดีการกินอาหารเพื่อสุขภาพเราต้องเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับเสียก่อนเพื่อให้อาหารประเภทต่างๆเหล่านี้สามารถสร้างสุขภาพที่ดีได้ในที่สุด

แนวทางในการทานอาหารเพื่อสุขภาพ คือเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพจริงๆเช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช การทานผัก ผลไม้ เพราะผลไม้นั้นมีประโยชน์มากมายเพราะเป็นแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีคุณสมบัติของการเป็นแหล่งใยอาหารซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอลและไขมัน และยังช่วยทำให้ระบบการย่อยและระบบการขับถ่ายทำงานได้อย่างปกติ นอกจากนี้ผักและผลไม้บางชนิดยังมีสารพิเศษที่ช่วยทำหน้าที่คล้ายยาป้องกันและรักษาโรคบางชนิดอีกด้วยซึ่งอาหารเหล่านี้สามารถเพิ่มปริมาณการทานได้เลื่อยๆ

ส่วนธัญพืชนั้น คือแหล่งอาหารที่ดีของพลังงานและโปรตีน จะเป็นแหล่งให้ธาตุเหล็ก แคลเซี่ยม แมงกานีสสังกะสี และแมกนีเซี่ยม ซึ่งข้อได้เปรียบของธัญพืชคือ คาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นส่วนประกอบอยู่เป็นแบบเชิงซ้อน (โพลีแซคคาไรด์) จะต้องถูกย่อยช้ากว่าคือโครงสร้างจะต้องถูกย่อยให้แตกสลายก่อน อีกทั้งมีเส้นใยอาหารของธัญพืชเต็มรูปการดูดซึมก็จะช้าลง น้ำตาลจะไม่สูงแบบพรวดพลาดหรือค่อนข้างต่ำ

ทานอาหารเช้าทุกมื้อ เพราะอาหารเช้าจะช่วยพัฒนาสมองช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน การทำงาน ทำให้ระบบความจำ ทักษะการเรียนรู้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมโรคอ้วนและน้ำหนักลดความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคหัวใจ ช่วยลดโอกาสเกิดโรคนิ่ว การอดอาหารเช้าเป็นประจำอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอส่งผลให้ร่างกายไม่แข็งแรงการเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามเกณฑ์และยังส่งผลต่อสติปัญญา ทำให้ขาดสมาธิส่งผลเสียในระยะยาว

ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนร่างกายจะได้แข็งแรง มีการเจริญเติบโตที่ดี มีภูมิต้านทาน เกิดโรคต่างๆได้ยาก

ลดปริมาณการทานหรือละการทานน้ำตาล  น้ำตาลเป็นแค่เครื่องปรุงอย่างหนึ่่งที่ใช้ในการประกอบอาหารหรือปรุงรสเท่านั้นการเติมน้ำตาลเพิ่มลงในอาหารจึงมีประโยชน์เพียงแค่เพิ่มพลังงานที่ร่างกายจะได้รับไม่ได้เป็นการเพิ่มสารอาหารที่จำเป็นต่ำร่างกายและน้ำตาลยังเป็นปัจจัยเอื้อที่ทำให้สุขภาพแย่ลงมากที่สุดในประเทศที่มีอันจะกินทุกครั้งที่เติมน้ำตาลลงในอาหารจะทำให้สุขภาพร่างกายภายในเราแย่ลง

ลดอาหารรสเค็ม  จากการศึกษาพบว่าผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มเป็นประจำจะมีพฤติกรรมการกินของหวานและเครื่องดื่มที่มีรสหวานมากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานรสเค็มเนื่องจากเมื่อร่างกายได้รับโซเดียมซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในเกลือและสารที่ให้ความเค็มอื่นๆทำให้ร่างกายมีความเข้มข้นของของเหลวในร่างกายที่สูงขึ้นและส่งผลให้ร่างกายต้องการน้ำเพราะจะรู้สึกกระหายน้ำมากขึ้นและเครื่องดื่มที่ผู้คนส่วนใหญ่ที่ชอบรับประทานรสเค็มเลือกนั้น ก็คือเครื่องดื่มประเภทน้ำหวาน จึงทำให้ได้รับน้ำตาลสูงขึ้นเป็นสาเหตุให้ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารรสเค็มมีความเสี่ยงต่อการมีน้ำหนักตัวเกินและเป็นโรคอ้วนได้ง่าย

ทานปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ปลาเป็นมีโปรตีนสูงและคุณภาพดีเหมือนเนื้อสัตว์ทั่วๆไปโปรตีนในเนื้อปลาจะย่อยง่าย มีคุณค่าในแง่ของการบำรุงสมอง การพัฒนาสมองในเด็กโดยเฉพาะปลาทะเล นอกจากจะได้โปรตีนแล้ว ยังจะได้แร่ธาตุไอโอดีนจะมีบทบาทในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะป้องกันที่ไกลจากทะเลก็จะมีความเสี่ยงก็จะเกิดโรคคอพอกนอกจากนั้นยังมีไขมัน วิตามิน เกลือแร่ และคาร์โบไฮเดรต

ทานถั่ววันละ 1 กำมือ หรือดื่มนมที่ทำจากถั่ว เพราะถั่วมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวทั้งแบบ monounsaturated และ polyunsaturated ประกอบกับเส้นใยอาหารสารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินหลากชนิด ดังนั้นการกินถั่ววันละ 10 กรัม จะช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและระบบหัวใจและหลอดเลือดโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบประสาท โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งบางชนิดได้

ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย น้ำมีความจำเป็นร่างกายของเรามากเพราะน้ำเป็นตัวนำอาหารไปเลี้ยงกล้ามเนื้อต่างๆและก็เป็นตัวนำที่ช่วยในการขับของเสียออกมาจากร่างกายด้วยนอกจากนี้น้ำยังช่วยในการเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของกล้ามเนื้อช่วยหล่อไขข้อต่างๆของร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร ช่วยให้โลหิตไหลวนเวียนทั่วร่างกาย

เมื่อร่างกายของเราได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนแล้วการออกกำลังควบคู่ไปด้วยจะยิ่งทำให้สุขภาพดีเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก เพราะฉะนั้นอย่างลืมออกกำลังกันทุกวันด้วยนะแค่วันละ 30 นาที รับรองได้ว่า หุ่นดีๆไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน

ขอบคุณที่มา : serum-lyonesse.blogspot.com/2016/06/blog-post_24.html