คำสอนของคุณยายฯ"หนึ่งไม่มีสอง" ..จะสร้างบารมีให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร?

การที่เราจะได้สร้างบารมีกันอย่างตลอดรอดฝั่งนั้นจะต้องเป็นคนที่มี... บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง และก็รู้จักขยัน อดทนประหยัด มีระเบียบวินัยรักความสะอาด รักความประพฤติพรหมจรรย์ มีความอ่อนน้อม มักน้อย สันโดษ http://winne.ws/n16346

1.6 พัน ผู้เข้าชม
คำสอนของคุณยายฯ"หนึ่งไม่มีสอง" ..จะสร้างบารมีให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร?

 คุณธรรมความดีของคุณยายที่ให้ไว้กับลูกหลานได้สั่งสมบารมีกันอย่างตลอดรอดฝั่งนั้นมีอะไรบ้าง... 

         คุณยายท่านเคยได้สอนการที่เราจะได้สร้างบารมีกันอย่างตลอดรอดฝั่งนั้นจะต้องเป็นคนที่มี... บริสุทธิ์กาย วาจา ใจ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ ซื่อตรง และก็รู้จักขยัน อดทนประหยัด มีระเบียบวินัยรักความสะอาด รักความประพฤติพรหมจรรย์ มีความอ่อนน้อมมักน้อยสันโดษ เป็นคุณธรรมที่คุณยายบอกว่าเราควรจะมี

         สำหรับนักสร้างบารมี ความขยัน อดทน สะอาด อ่อนน้อม ของคุณยาย คุณยายท่านขยันมากคุณยายขยันสม่ำเสมอ เป็นคนที่รักความสะอาดมาก คุณยายสะอาดไม่เฉพาะแต่ข้างนอก มันบ่งถึงความสะอาดภายในจิตใจของคุณยาย เวลาคุณยายทำความสะอาด คุณยายจะสะอาดรอบทิศเลย เช่นว่า เวลาคุณยายจะเช็ดโต๊ะ คุณยายก็จะเช็ดข้างบน ข้างในโต๊ะ ใต้โต๊ะ ขาโต๊ะจะไม่มีฝุ่นเลย แล้วคุณยายก็จะขยันทำอย่างสม่ำเสมอ และไม่ปล่อยให้ฝุ่นขึ้นเลย 

         หรือว่าเวลาที่คุณยายพาไปทำความสะอาดห้องน้ำ คุณยายก็จะล้วงคอห่าน ล้วงลึกเลยทำให้ดู คือคุณธรรมที่คุณยายสอนไว้ จะทำให้ดูเป็นตัวอย่างว่าเป็นอุปนิสัยที่ คุณยายทำเองสอนโดยการทำให้ดู คุณยายท่านบอกว่าที่ทำให้สะอาด เพราะว่าเวลาที่เราปฏิบัติธรรมเวลาเราจะเข้ากลางเข้าไปในกลางกายจะเข้าได้คล่อง ญาณเราก็จะชัดเจนเพราะความสะอาดของใจเรามีผลต่อเนื่องถึงความสะอาดภายนอกด้วย

        คุณยายเป็นคนที่มีความอดทนมาก มีความขยันอดทน มันจะเป็นความเพียรออกมาด้วย ท่านบอกว่าเวลาที่เราทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ให้ตั้งใจทำ เช่น ท่านบอกว่าพื้นที่หน้ากุฏิท่านมีตะไคร้น้ำขึ้นถ้าเราถูทุกวัน ขัดมันทุกวันมันก็จะสะอาดวันแรกมันอาจจะไม่สะอาด ก็ทำมันทุกวัน เหมือนเหล็กนะคะ เขายังฝนเป็นทั่งจนกระทั่งเป็นเข็มได้ ก็เพราะความขยันความอดทนความเพียร ใครจะมาว่าท่านก็ตามท่านก็ปล่อยให้เขาว่า

       แต่ท่านก็จะหลับตาแล้วดิ่งธรรมะ เข้าไปข้างใน ความอ่อนน้อมเป็น สิ่งที่ทุกคนจะประทับใจมาก เมื่อได้พบท่าน พอได้พบท่านท่านก็จะยกมือไหว้ก่อน ไม่ว่าเราจะเป็นเด็กก็ตามท่านก็จะยกมือสวัสดีก่อนเลย แล้วคุณยายก็จะสอนว่าเวลาที่คุณยายจะไปอยู่บ้านใคร หรือไปอยู่ที่ไหนยายจะวางตัวอ่อนน้อม เหมือนกับผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้า ใครที่จะเช็ดเท้าให้สะอาดก็มาเหยีบผ้าขี้ริ้วเช็ดให้สะอาดเลย ใจของยายยายก็จะทำให้เหมือนผ้าขี้ริ้วเช็ดเท้า

         ท่านบอกว่าบุญจากการที่เราอ่อนน้อม จะทำให้เราเด่นขึ้นมาเองเลย แล้วท่านจะอ่อนน้อมต่อทุกคน มีอยู่วันหนึ่ง เคยพาท่านไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล ยามที่อยู่หน้าโรงพยาบาลจะเปิดประตูรถให้ พอเปิดประตูรถเสร็จท่านก็ยกมือไหว้ พอไปเจอพยาบาล พยาบาลจะนำท่านไปตรวจสุขภาพ นั่งรถเข็นไป คุณยายก็จะยกมือไหว้พยาบาล คุณสงสารยายนะยายเป็นคนแก่ ความที่ท่านมีคุณธรรมมาก ไม่เคยแสดงตัวว่าคุณยายเป็นคนที่มีคุณธรรมสูง ไม่อวดตัวเลยจะเป็นเหมือนผู้สูงอายุทั่ว ๆไป บางคนที่ไม่รู้จักคุณยายท่านก็จะไม่ทราบว่าคุณยายเป็นใคร แต่ผู้ที่มีปัญญา ผู้ที่ช่างสังเกต จะเห็นแววตาของคุณยาย ที่ต่างจากผู้สูงอายุทั่ว ๆไป

        เพราะแววตาของคุณยาย เป็นแววตาที่เป็นประกาย มีพลัง และมีความแจ่มใส มีพลังมาก ๆ อยู่ในดวงตาของท่าน คุณยายท่านจะเป็นคนที่เลี้ยงง่ายมาก เวลาที่ญาติโยมนำอาหารมาถวาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทไหนก็ตาม จะจืดจะเค็ม คุณยายทานอาหารแบบปกติ หน้าตาเฉย ๆเหมือนกันเลย ไม่เคยบ่นอะไรเลย นอกจากที่เราแอบไปชิม ตอนที่ท่านฉันเสร็จแล้วเรา จะรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเลย ท่านก็จะบอกว่ายายทาน เพื่อที่จะให้มีกำลังแล้วก็เอากำลังมาไว้ สร้างบารมีใจท่านจะจดจ่ออยู่กับบุญตลอดเวลา 

         ท่านถึงบอกว่าให้พวกเราทำใจให้บริสุทธิ์ เพราะว่าความบริสุทธิ์ของเราจะช่วยให้เราสร้างบารมีได้อย่างเต็มที่ และสะอาดท่านจึงรักการทำ สมาธิ (Meditation)มาก ท่านบอกว่าถ้าเรานั่งสมาธิ ใจเราจะสะอาดบริสุทธิ์ และการนั่งธรรมะเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการสร้างบารมีเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในชีวิตเรา คุณยายก็จะบอกว่าคุณยายรักการปฏิบัติธรรมนะ เวลายายมี ปัญหา ยายก็จะดิ่งธรรมะแล้วก็จะไปดู ว่าเราจะไปแก้ปัญหานั่นได้อย่างไร

         พอนั่งธรรมะเสร็จก็จะมีปัญญาเกิดขึ้น สอนตัวเราเองนี่คือหลักสำคัญ ในการสร้างบารมีที่เราจะได้สร้างไปตลอดรอดฝั่ง คุณยายท่านเคยบอกว่าพวกเรา ที่ได้ตั้งใจเข้ามาวัดเราตั้งใจเข้ามาเพื่อสร้างความดีเพื่อมาเอาบุญ เพื่อมาทำประโยชน์ให้ตัวเราเองเพราะฉะนั้นเราต้องตั้งใจ เลยว่า เราจะทำความดีจนสุดชีวิตของเรา เพราะว่า เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืน เพราะท่านบอกว่าคนเราจะดีไม่ใช่เพราะว่าคำชมของคนอื่น เราจะแย่ไม่ใช่เพราะว่าคนอื่นมาว่าเรา จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ตัวเราเอง

       เพราะฉะนั้นให้เราตั้งใจเอาบุญให้เต็มที่ หากเราไม่อดทนไม่ต่อสู้  เราก็จะไม่ได้บุญการสร้างบารมีต้องต่อสู้ ต้องอดทน ท่านบอกว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว ที่เราจะเอาบุญติดตัวให้เต็มที่ชาติต่อไปเราจะดีที่สุดเลยเนื่องจาก ผลบุญ ที่เราทำไว้ เพราะฉะนั้นให้อดทนให้ต่อสู้ถ้าเราคิดสู้ก็จะชนะ ถ้าเราไม่สู้ เรายอมแพ้เราก็จะแพ้ตั้งแต่ที่คิดแล้ว  ก็ให้ตั้งใจเอาบุญให้เต็มที่เพราะมันเป็นบุญของเราเอง ไม่มีใครทำให้ตัวเราเองได้ใครจะยังไงก็ตามเราก็จะสู้ด้วยบุญ  

        คุณยายเริ่มย้ายเข้ามาอยู่ศูนย์พุทธจักร เมื่อปี พ.ศ 2518  ก็จะมีอุบาสก อุบาสิกาที่เป็นเด็กวัดมีอยู่ด้วยกันไม่มาก ปกติคุณยาย ธรรมชาติของท่านจะเป็นคนที่พูดน้อย เวลาที่คุณยายพูดออกมาแต่ละคำพูดออกมา  เป็นคำพูดที่มีคุณค่าเป็นถ้อยเพชร ถ้อยพลอยเลย ลูกศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดเด็กวัดทั้งหลาย เราจะเงี่ยหูฟังกันเลย เราก็พยายามจำทุกถ้อยคำของคุณยาย พอกับไปที่บ้านไปที่พักก็จะจดเก็บไว้ใครจดอะไรได้บ้าง ก็กลายมาเป็นคำสอนของคุณยายปัจจุบันนี้

        คุณยายจะรักการนั่งธรรมะมาก คุณยายบอกว่าที่สร้างวัดพระธรรมกาย ขึ้นมาได้ด้วยการหลับตาเพราะฉะนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นทุกอย่าง เกิดจากการปฏิบัติธรรมทั้งสิ้น การนั่งธรรมะเป็นบุญละเอียดเป็นบุญที่สำคัญมาก ไม่ว่าเวลาเกิดปัญหาอะไรก็ตาม คุณยายจะนั่งธรรมะ การนั่งธรรมะจึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในชีวิต ของตัวเราเอง คุณยายบอกว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายที่ หลวงพ่อ และคุณยายได้มารู้เห็นสิ่งใดที่เป็นบุญ สิ่งใดที่เป็นบาปมาถึงอู่ทะเลบุญเลย 

       ท่านเป็นเนื้อนาบุญของเรา ท่านบอกว่าขนาดยายเอง ยายยังแก้ไขบกพร่องทุกอย่าง เอาแต่บุญอย่างเดียว ที่ติดตัวไปเป็นผังสำเร็จเป็นสิ่งที่ดีล้วน ๆ ติดตัวไปภพชาติ ต่อไปยายจึงสร้างความดีจนสุดชีวิตเลย เพราะว่าเดี๋ยวก็วันเดี๋ยวก็คืนเราก็จะละโลกไป แล้วสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ลูกพระธัมหลานคุณยายทั่วโลก อดทนและตั้งใจสร้างความดีให้สุดชีวิต อย่างที่คุณยายท่านได้ทำเพราะว่าเมื่อเราละโลกไปแล้ว เราจะภาคภูมิใจกับสิ่งที่เราทำไว้ ขณะที่เป็นมนุษย์อดทนต่อสู้เพื่อที่จะสร้างความดีให้เต็มที่ และการที่จะพ้นวิบากกรรมมีเพียงอย่างเดียว คือการเข้าถึงพระธรรมกาย

       คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านผู้เปี่ยมไปด้วยบุญญาบารมีตลอดชีวิตของท่านจะเป็นผู้ที่ชอบสั่งสมบุญบารมี  และด้วยดวงใจที่เด็ดเดี่ยวมุ่งเพียรปฏิบัติธรรม เพื่อต้องการใช้วิชาธรรมกายไปติดตามหาบิดาในสัมปรายภพ เพื่อขอขมาที่เคยล่วงเกินเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก   ท่านตั้งใจปฏิบัติจนประสบผลสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม เป็นที่ชื่นชมของครูบาอาจารย์ผู้ รื้อฟื้นวิชชา คือ พระเดชพระคุณมงคลเทพมุนี สด จนฺทสโร ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ถึงกับกล่าวว่า “ลูกจันทร์นี้เป็นหนึ่งไม่มีสอง”

ที่มา: https://www.dmc.tv/pages/scoop/กัลอารีพันธุ์-ตรีอนุสรณ์-อุปัฏฐากคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์-ขนนกยูง.html

แชร์