บริษัท คาสเปอร์สกี แล็บ ซึ่งเป็นบริษัทที่รักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์ของรัสเซียเปิดเผยว่า เกิดการโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า 2,000 ครั้งในยุโรป โดยบริษัทที่ถูกโจมตีส่วนมากอยู่ในยูเครนและโปแลนด์ และเหยื่อการโจมตียังมี บริษัท ดับเบิลยูพีพี ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาชั้นนำของอังกฤษ, บริษัทรอสเนียฟ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันอันดับ 1 ของรัสเซีย , บริษัท เอพี โมลเลอร์ แมร์ส ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งสินค้าทางทะเลของเดนมาร์ก และบริษัทควบคุมพลังงานและท่าอากาศยานในยูเครน

              ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าแหล่งที่มาของไวรัสที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ล่มมาจากที่ไหน โดยไวรัสที่ก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ หยุดการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์จนกว่าจะมีการจ่ายค่าไถ่ด้วยสกุลเงิน "บิทคอยน์" ที่ติดตามแหล่งที่มาไม่ได้ โดยสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่าขณะนี้ บัญชีบิทคอยน์ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีครั้งนี้ มีผู้โอนเงินเข้าไปแล้วจำนวน 3.3 บิทคอยน์ หรือราว 270,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าเป็นเงินค่าไถ่ของบริษัทที่ถูกโจมตีเพื่อขอกู้ข้อมูลคืนกลับมา 

             ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์มองว่าลักษณะการโจมตีของไวรัสตัวนี้ คล้ายคลึงกับ "วานนาคราย" ซึ่งเป็นมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ที่โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ใน 150 ประเทศทั่วโลก เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเชื่อว่าจะเกิดการโจมตีลักษณะนี้ขึ้นอีกเรื่อยๆ เนื่องจากบริษัทหลายแห่งยินยอมที่จะจ่ายเงินค่าไถ่ข้อมูล

            ขณะนี้องค์กรตำรวจสากล กำลังร่วมมือกับรัฐบาลของแต่ละประเทศที่ถูกโจมตี เพื่อสอบสวนเหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://news.voicetv.co.th

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/world/502591.html