แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน

ผลบุญจากการบวชพระ แม้จะบวชไม่นาน ขอเพียงตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์ บุญนั้น ก็สามารถยอยกผู้บวชให้บังเกิดในสุคติภูมิตลอดไป หากไปเกิดใน สวรรค์ก็จะเป็นเทพผู้มีอานุภาพมาก จนท้าวสักกะต้องเสด็จไปชื่นชมบารมีกันเลยทีเดียว http://winne.ws/n16773

851 ผู้เข้าชม
แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน

   เรื่องมีอยู่ว่า นับถอยหลังไป 30,000 กัป ในยุคของพระสุเมธพุทธเจ้า มีชายหนุ่มคนหนึ่ง เป็นคนมี ศรัทธาในพระศาสนา เห็นพ่อแม่เป็นต้นแบบที่ดีในการทำบุญใส่บาตรพระเป็นประจำตั้งแต่เด็ก เขาก็ตื่นขึ้นมาใส่บาตรพระด้วย วันพระก็ไปฟังธรรมที่วัดเป็นประจำ พอเติบโตเป็นหนุ่มก็ขอลาบวช เพื่อจะได้ บำเพ็ญสมณธรรมอย่างเต็มที่ พ่อแม่ก็อนุโมทนาบุญด้วย ท่านได้บวชเป็นภิกษุผู้มี ศีลาจารวัตรงดงาม และตั้งใจบำเพ็ญไตรสิกขาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ตั้งใจ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ นั่งสมาธิ(Meditation)เจริญภาวนา และหมั่นฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แต่ครั้นบวชได้เพียง 7 พรรษา เนื่องจากเป็นลูกชายคนเดียว ท่านจำต้องลาสิกขาเพื่อไปดูแลพ่อแม่ผู้ชราภาพทั้งสอง

แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน

     เมื่อลาสิกขาแล้ว ท่านก็ไม่ได้ประมาทในชีวิต เหมือนชาวโลกทั่วไป ยังมีความอาลัยในผ้าเหลือง และยังพอมีสมณสัญญาติดมาบ้าง จึงสมาทานรักษาศีล 5 เป็นปกติ และยังรักษาอุโบสถศีลในวันพระอีกด้วย ท่านได้ทำหน้าที่ลูกกตัญญูปรนนิบัติ ดูแลพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าผู้เป็นดุจพระอรหันต์ในบ้านได้อย่างสมบูรณ์ พอว่างเว้นจากการงานทางโลก ก็ยังหาโอกาสกลับไปที่วัดเดิม คอยอุปัฏฐากดูแลพระสงฆ์ ไปปัดกวาดและดูแลศาสนสมบัติที่ลานพระเจดีย์ ด้วยจิตเลื่อมใส

        บุญ พิเศษอีกอย่างหนึ่งที่ท่านได้ทำตลอดชีวิต คือ ได้ชักชวนสาธุชนให้มาบูชามหารัตนเจดีย์ของพระพุทธเจ้า โดยท่านชักชวนด้วยคำพูดง่าย ๆ ว่า "ท่านทั้งหลาย พระพุทธเจ้าเป็นผู้มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ ขอเชิญท่านผู้มีบุญจงบูชาพระบรมสารีริกธาตุของ พระพุทธเจ้าผู้ควรบูชาเถิด หากพวกท่านละจาก โลกนี้แล้ว จะได้ไปสวรรค์" ท่านทำอยู่อย่างนั้น เป็นอาจิณจนตลอดชีวิต ผลบุญอันยิ่งใหญ่ที่แม้แต่ ตัวเองก็คาดไม่ถึง ทำให้เมื่อท่านละโลกแล้วได้ไป เสวยสุขอันเป็นทิพย์ ได้เป็นเทพบุตรมีศักดิ์ใหญ่ มีอานุภาพมาก เป็นผู้ที่เหล่าเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่

แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน
แม้บวชช่วงสั้น แต่บุญตามส่งผลยาวนาน

แม้กระทั่งท้าวสักกเทวราชก็ยังต้อง มาชื่นชมบารมี ท่านบันเทิงอยู่ในท่ามกลางหมู่ทวยเทพในสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เป็นเวลายาวนานมาก จนเมื่อครบอายุ ของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็จุติไปอุบัติในสวรรค์ชั้นสูง ๆ ขึ้นไป

     ครั้นมาใน สมัยพุทธกาล ท่านย้อนกลับมาบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์อีกครั้งหนึ่ง พวกทวยเทพ ต่างเรียกเทพบุตรท่านนี้ว่า อเนกวรรณเทพบุตร หมายถึง เทพบุตรผู้มีรัศมีกายเปล่งปลั่งสว่างไสว เวลาจะท่องเที่ยวไปไหน รัศมีกายของท่านจะกลบรัศมีของเทพองค์อื่น ๆ แม้กระทั่งพระอินทร์ยังต้อง หลบเข้าไปอยู่ในเวชยันตปราสาทของตัวเอง จนกว่า เทพบุตรท่านนี้จะผ่านไป ด้วยเกิดความละอาย ที่ตนเองเป็นถึงจอมเทพ แต่มีรัศมีกายน้อยกว่าอเนกวรรณเทพบุตร


ขอบคุณข้อมูลจากกลุ่มไลน์

ภาพจาก www.dmc.tv

แชร์