"ออมสิน"เผย!ยังไม่กำหนดวันปิดเข้าสักการะพระบรมศพและเคยเตือนผอ.พศ.ให้ทำงานอย่างระมัดระวัง

ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดถึงกำหนดวัน เข้ากราบวันสุดท้าย กรณีพระผู้ใหญ่บางรูปและวัดบางวัดแสดงความไม่พอใจ การทำงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. โดยเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการ พศ. http://winne.ws/n17212

757 ผู้เข้าชม
"ออมสิน"เผย!ยังไม่กำหนดวันปิดเข้าสักการะพระบรมศพและเคยเตือนผอ.พศ.ให้ทำงานอย่างระมัดระวังแหล่งภาพจาก สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

"ออมสิน" เผย ยังไม่สรุปวันปิดเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ไม่รู้มีการเสนอเปลี่ยน ผอ.พศ. รับเป็นห่วง เคยเตือนแล้วทำงานต้องระมัดระวัง รอบคอบ ตรวจสอบบัญชีวัดแล้วร้อยละ 96

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าในวันที่ 30 ก.ย.นี้จะเป็นวัดสุดท้ายจะที่เปิดโอกาสให้ประชาชน เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า วันที่ 30 ก.ย. เป็นเพียงเรื่องที่ได้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรี เรื่องการประกอบอาหารภายในที่ท้องสนามหลวง ขององค์กรต่าง ๆ และจิตอาสาที่ได้ให้การสนับสนุนวัตถุดิบให้ โดยจะขออนุมัติงบประมาณจำนวน 4 ล้านบาท เนื่องจากขณะนี้กระทรวงต่าง ๆ เริ่มมีปัญหาที่จะดำเนินการในเรื่องนี้ จึงได้ของบประมาณจากรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ายังไม่มีการพูดกันถึงการกำหนดวัน เข้ากราบวันสุดท้าย เพียงแต่ระบุว่างบประมาณดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ถึงวันที่ 30 ก.ย. ส่วนกำหนดวันต้องหารือกันและถามนายกรัฐมนตรี เพื่อนำความกราบบังคมทูลอีกครั้ง  

นายออมสิน ยังกล่าวถึงกรณีพระผู้ใหญ่บางรูปและวัดบางวัดแสดงความไม่พอใจ การทำงานของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. โดยเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้อำนวยการ พศ.ว่า ยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงต้องดูก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และส่วนตัวเป็นห่วงการทำงานของผู้อำนวยการ พศ. และเคยพูดไปแล้วว่าการทำงานกับคนหมู่มาก ต้องใช้ความระมัดระวัง รอบคอบ และรัดกุม แต่จะต้องให้ผู้อำนวยการ พศ.ทำงานต่อไปตามกฏหมาย แต่ใครผิดใครถูกต้องว่ากันไป โดยยืนยันว่า ไม่อยากให้มีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้น เพื่อให้การทำงานเกิดความราบรื่น และอาจจะต้องเข้าไปกราบพูดคุยกับพระผู้ใหญ่ด้วย 

ทั้งนี้ นายออมสิน ยังกล่าวว่า ในการประชุมกับพระผู้ใหญ่เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ได้มีการแสดงความเป็นห่วงในการทำงานโดยไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะในวงการสงฆ์ต่างตกใจกับการทำงานของ พศ. ในลักษณะเชิงรุกมากเกินไป ซึ่งที่ประชุมได้ตกลงว่าหากมีปัญหาอะไรให้เข้ามาหรือกัน ซึ่งยืนยันว่า ผู้อำนวยการ พศ. ได้ทำงานตามลักษณะบุคลิกของตนเองเท่านั้น แต่นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความเป็นห่วงกับเรื่องดังกล่าว และเน้นย้ำให้ดำเนินการตามกระบวนการกฏหมาย คาดว่าในเร็ว ๆ นี้หากมีข้อมูลและข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ตามที่พูดก็จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาพูดคุย 

นอกจากนี้ นายออมสิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายวัดว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบไปแล้วกว่าร้อยละ 96 ซึ่งมีวัดทั่วประเทศทั้งหมด 400,700 วัด และเข้ามารายงานแล้ว 390,000 วัด โดยสำนักงานคณะกรรมกรรพัฒนาระบบราชการ หรือ กพร. มีตัวชี้วัดและแบบฟอร์มให้กรอกรายละเอียด ซึ่งพศ.ต้องเข้าไปชี้แจงกับพระสงฆ์และไวยาวัจกรทั่วประเทศว่า ไม่ได้แตกต่างจากการกรอกบัญชีรายรับรายจ่ายเดิม แต่เพียงกรอกในแบบฟอร์มเท่านั้น ซึ่งหากวัดใดที่ยังดำเนินการผิด ก็ต้องปรับปรุงแก้ไขต่อไป ขณะเดียวกัน ยืนยันว่ายังคงเดินหน้าตรวจสอบต่อไปตามขั้นตอนอย่างรอบคอบและรัดกุม หากหยุดตรวจสอบก็จะโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ 

ที่มา: http://www.innnews.co.th/shownews/show?newscode=797611

แชร์