โรคภัยไข้เจ็บ อยู่คู่กับมนุษย์เรามานานแสนนานจนเรียกได้ว่าเป็นคู่กัดคู่แข่งหรือศัตรูกับร่างกายของเราก็ว่าได้ ในปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่ก่อให้เกิด โรคร้ายแรงต่างๆนั้น ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากอาหารการกิน

แน่นอนว่า หากอาหารที่เราทานเข้าไป ก่อให้เกิดโรคที่ไม่มีความร้ายแรงมากนัก ก็คงจะไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่ในทางกลับกันหากอาหารการกินเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราเป็นโรคร้ายแรง หรือ โรคที่รักษาหายได้ยาก สิ่งต่างๆเหล่านี้ ย่อมส่งผลโดยตรงต่อร่างกายของเราแน่นอน

ท่านรู้บ้างหรือไม่ว่าเมนูอาหารบางชนิดที่เรารับประทานกันทุกวันนี้มี สารก่อมะเร็ง หนึ่งในโรคภัยไข้เจ็บที่น่ากลัวที่สุดของมนุษยชาติแอบแฝงอยู่ด้วย !! ตายแล้ว วันนี้เราเพิ่งทานเมนูก่อมะเร็งไปรึเปล่านะ มาดูกันเลยว่ามีเมนูอะไรกันบ้าง

1.เฟรนช์ฟราย / มันฝรั่งทอด

เริ่มต้นกันที่หนึ่งในอาหารที่คนทั่วโลกรวมถึงคนไทยชื่นชอบกันถ้วนหน้าอย่างมันฝรั่งทอดและเฟรนช์ฟราย ไม่ว่าจะเป็นเฟรนช์ฟรายจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ไม่ว่ามันฝรั่งทอดจะเป็นยี่ห้อแบบไหนต่างก็มีสารน้ำมันพืชไฮโดรเจน และเกลือจำนวนมากทั้งนั้น

แค่น้ำมันพืชไฮโดรเจนก็ว่าแย่แล้ว พอมีเกลือเยอะๆเข้ามาด้วยก็กลายเป็นคู่หูโคตรอันตรายไปในทันใด นอกจากนี้ทั้งเฟรนช์ฟราย และมันฝรั่งทอดยังมีสารก่อมะเร็งอย่าง อะคริลาไมด์ ที่พบในบุหรี่อีกด้วย กล่าวคือกินเฟรนช์ฟรายหรือมันฝรั่งทอด เหมือนเป็นการสูบบุหรี่กลายๆ เลยละ

2.เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์

ไม่ว่าจะไปที่งานสังสรรค์หรือกระทั่งงานนั่งเล่นชิวๆ ที่ไหน ก็ขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไม่ได้ ซึ่ง ณ จุดนี้ แอลกอฮอลล์อาจถือได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่อันตรายที่สุดชนิดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะทำให้ขาดสติ อีกทั้ง การดื่มแล้วขับ นำมาสู่อุบัติเหตุต่างๆแล้ว ยังพบว่าหากดื่มในจำนวนมากยังจะส่งผลให้เกิดมะเร็งในช่องปาก ตับ หลอดอาหาร และลำไส้ใหญ่อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ในระดับน้อยหรือปานกลางสามารถช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้นไม่ว่าจะชายหรือหญิงถ้าดื่มในระดับพอประมาณก็น่าจะโอเคเนอะ

3.เนื้อสัตว์สีแดงทั้งหลาย

เนื้อสัตว์สีแดงหลายชนิดถูกใส่ สารโซเดียมไนเตรท เพื่อทำให้เนื้อมีสีแดงสดทำให้ดูน่าซื้อมากขึ้น ทว่าเนื้อเหล่านี้ยังมีสารก่อมะเร็งคาร์ซิโนเจนแฝงตัวอยู่อีกด้วย โดยเฉพาะในเนื้อจำพวกรมควันยิ่งอันตรายหนักกว่าปกติ

หลายๆท่านอาจจะคิดว่าก็แค่ไม่ซื้อเนื้อสีแดงก็จบแล้ว แท้ที่จริงแล้ว เนื้อเหล่านี้แอบแฝงอยู่ในอาหารที่เรารับประทานกันแทบทุกวัน ตั้งแต่ ไส้กรอก เบคอน และฮอทดอก 

งานวิจัยยังระบุอีกว่าผู้ที่กินเนื้อเหล่านี้มากกว่า  160 กรัม หรือมากกว่าต่อวันมีโอกาสที่จะเสียชีวิตในอีก  12 ปีข้างหน้าเพิ่มขึ้นถึง  44% เลยทีเดียว

4.ป็อปคอร์นไมโครเวฟ

เคยบ้างไหม ไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ทีไร ต้องซื้อป็อปคอร์นมากินทุกที แต่แหมมันอร่อยเหลือเกิน ติดใจอะ เลยซื้อมาทำเองที่บ้านดูบ้าง แถมเป็นแบบใส่ไมโครเวฟก็ทำได้แล้ว ง่ายมากด้วย 

ทว่าป็อปคอร์นไมโครเวฟเหล่านี้มีสารก่อมะเร็งนาม คาร์ซิโนเจน แอบแฝงอยู่ นอกจากนี้ยังมี กรดเปอร์ฟลูออโรออกตาโนอิก หรือในอีกชื่อสั้นๆว่า C8 ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งไต กระเพาะปัสสาวะ และตับอ่อน อีกด้วย เห็นแบบนี้แล้ววางถุงป็อปคอร์นลงดีกว่านะ

5.น้ำอัดลม

ในปัจจุบัน น้ำอัดลม เป็นสิ่งที่เราดื่มกินกันแทบจะตลอดทั้งวัน ตื่นมาตอนเช้ามึนๆ ง่วงๆ ดื่มน้ำอัดลม ตอนเที่ยงกินข้าวแน่นอนว่าก็ต้องกินกับน้ำอัดลม ตอนเย็นก็มีอาหารมื้อเย็นก็น้ำอัดลมอีกแล้ว นี้ยังไม่นับถึงช่วงอื่นๆ ระหว่างวัน หรือสำหรับบางคนที่มีมื้อดึกยิ่งแล้วใหญ่ 

แต่รู้หรือไม่ว่า น้ำอัดลมคือตัวก่อมะเร็งชั้นดีเลยทีเดียวด้วยความที่มีกรดกำมะถันเป็นสารสำคัญ แถมยังมีน้ำตาลฟรุกโตสที่ช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ดื่มจะเป็นมะเร็งขึ้นมาอีก ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำอัดลมแต่พอดี หันมาดื่มน้ำเปล่ากันดีกว่าเนอะ นอกจากได้สุขภาพดีแล้ว ยังถูกกว่าน้ำอัดลมอีกจะบอกให้

6.อาหารลดความอ้วน (ไดเอท)

บางทีเราก็อยากจะลดหุ่นลดพุงบ้างอะไรบ้าง แต่ออกกำลังกายอย่างเดียวอาจจะไม่พอ เลยทานอาหารลดความอ้วนไปด้วยละกัน แต่ใครจะไปรู้ละว่าอาหารลดความอ้วนเองก็มีสารก่อมะเร็งเช่นเดียวกัน 

สารก่อมะเร็งเหล่านี้มักจะมีที่มาจากรสชาติของอาหาร ที่ต้องมีการแต่งเติม ปรุงแต่ง แทนที่ส่วนผสมที่หายไป ผลการทดลองยังพบอีกว่าสารแต่งสีในอาหารที่ใช้กันบ่อยๆ มีส่วนผสมของคาร์ซิโนเจน ซึ่ง ณ จุดนี้เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะทราบแล้วว่าเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรงแค่ไหน ดีไม่ดีแล้วการทานอาหารปกติอาจทำให้ท่านปลอดภัยจากสารก่อมะเร็งมากกว่าอารหารลดความอ้วนเหล่านี้เสียอีก

7.อาหารทะเลสด

ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู หรือปลา ต่างก็เป็นอาหารทะเลสดที่มีโอกาสจะมีสารก่อมะเร็งอยู่ในอาหารเหล่านี้ โดยสารดังกล่าวก็ดันเป็น สารฟอร์มาลีน ที่ใช้แช่หรืออาบศพอีกด้วย 

แม้จะเป็นสารต้องห้ามแต่ปัจจุบันก็ยังคงพบว่ามีแอบแฝงอยู่ในอาหารทะเลสดอยู่ดี เพราะจะทำให้อาหารคงความสดได้ดี แถมยังไม่เน่าเสียง่ายอีกด้วย ดังนั้นจะไปทานอาหารทะเลร้านไหนก็ดูกันดีๆ นะจ๊ะไม่งั้นเดี๋ยวได้สารก่อมะเร็งแถมกลับบ้านไปฟรีๆ

8.ปลาจากฟาร์มเลี้ยง

รู้หรือไม่ว่า ปลาทั้งหลายที่มาจากฟาร์มเลี้ยง มักจะถูกใส่ยาปฏิชีวนะ ยากำจัดศัตรูพืช และสารก่อมะเร็งอื่นๆ อีกมากมายเพื่อป้องกันไม่ให้ปลามีโรค ซึ่งเป็นผลมาจากการเลี้ยงปลาจำนวนมากในที่แคบ

และหนึ่งในปลาที่เจอสารก่อมะเร็งมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นปลาแซลมอน นอกจากนี้ปลาเหล่านี้ยังมีสารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างโอเมก้า 3 น้อยกว่าปลาแซลมอนที่ไม่ได้เลี้ยงอยู่ในฟาร์มปกติอีกด้วย

9.โดนัท

เชื่อว่าไม่ว่าท่านจะเป็นใครก็คงจะชื่นชอบโดนัทกันแทบจะทุกคน โดนัทอาจเรียกได้ว่าเป็นของหวานที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็ว่าได้ แต่ดูเหมือนว่าสารก่อมะเร็งจะแอบแฝงในอาหารโปรดของเราแทบจะทุกที่ทีเดียว แม้กระทั่งโดนัทเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

เพราะโดนัทมีส่วนผสมของการทอด ระดับน้ำตาลที่สูงปรื้ดปรอทแตก และแป้งคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 50% ของปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน พอเอาทั้งสามอย่างมารวมกันก็ระเบิดตูมกลายเป็นของกินชวนให้เป็นมะเร็งชั้นดีนั่นเอง

เพราะโดนัทมีส่วนผสมของการทอด ระดับน้ำตาลที่สูงปรื้ดปรอทแตก และแป้งคาร์โบไฮเดรทมากกว่า 50% ของปริมาณที่แนะนำให้รับประทานต่อวัน พอเอาทั้งสามอย่างมารวมกันก็ระเบิดตูมกลายเป็นของกินชวนให้เป็นมะเร็งชั้นดีนั่นเอง

10.ขนมปัง

ใครจะไปคิดว่าอาหารหน้าตาสะอาดเอี่ยมอย่างขนมปังจะมีสารก่อมะเร็งซ่อนตัวอยู่เสียได้ ผลการทดลองล่าสุดพบว่าขนมปังบางชนิดมีส่วนผสมของ โบรมีน (Brominated flour) ที่ช่วยทำให้ขั้นตอนการผลิตเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมยังทำให้ขนมปังขาวและใหญ่มากกว่าปกติ ทว่าแป้งตัวนี้กลับถูกพบว่ามีส่วนผสมของคาร์ซิโนเจนอยู่ด้วย พร้อมยังมีโอกาสทำให้เกิดความผิดปกติต่อระบบประสาท 

ฉะนั้น ครั้งต่อไปที่คุณซื้อขนมปัง อย่าลืมเช็คดูให้มั่นใจว่ามีส่วนผสมของแป้งโบรมีนหรือไม่ ถ้ามีก็ให้เปลี่ยนไปเลือกยี่ห้ออื่นแทนจะดีกว่า

เพราะสุขภาพสำคัญกว่า

ไม่ว่าอาหารจะมีรสชาติเอร็ดอร่อยและมีหน้าตาน่ากินแค่ไหน สุดท้ายแล้วก็คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพร่างกายของท่านอีกแล้ว ดังนั้นอาหารหรือเครื่องดื่มเหล่านี้ กินเฉพาะพอประมาณ หลีกเลี่ยงได้เลี่ยง และหันไปออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ  เพื่ออายุที่ยืนยาวของเราในอนาคตดีกว่าเนอะ

ที่มา https://finance.rabbit.co.th/blog/top-10-menu-hit-to-carcinogens/?utm_source=facebook&utm_medium=post&utm_campaign=Social_Campaign&utm_content=Bl_Carcinogens_2017.07.13_RF_audience_b_25-45_Thai