เปลี่ยน 9 ไลฟ์สไตล์ ช่วยลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม
สิ่งที่ดีต่อสุขภาพหัวใจก็ดีต่อสมองด้วย เช่น งดสูบบุหรี่ ออกกำลัง ควบคุมน้ำหนัก การควบคุมความดันโลหิต และรักษาโรคเบาหวาน จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะสมองเสื่อมได้ เช่นเดียวกับการลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง http://winne.ws/n17402
ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมสามารถป้องกันได้ หากคนเราหันมาดูแลสมองกันมากขึ้น
ผลการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างในระดับสากล ที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการเดอะ แลนเซท ระบุว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมสามารถป้องกันได้ หากคนเราหันมาดูแลสมองกันมากขึ้น
รายงานผลการศึกษาดังกล่าว กำลังถูกนำเสนอต่อที่ประชุมโรคอัลไซเมอร์นานาชาติ Alzheimer's Association International Conference ในกรุงลอนดอน ระบุปัจจัยเสี่ยงต่อโรคความจำเสื่อมไว้ 9 ข้อ ในจำนวนนี้คือการขาดการศึกษา การสูญเสียการได้ยิน การสูบบุหรี่ และการไม่ออกกำลังกาย
ปัจจุบัน ทั่วโลกมีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมประมาณ 47 ล้านคน และคาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 ตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นเป็น 131 ล้านคน
ศ.กิลล์ ลิฟวิงสตัน จากยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอน หัวหน้าทีมผู้เขียนรายงานกล่าวว่า แม้ภาวะสมองเสื่อมมักถูกตรวจพบในผู้ที่มีอายุมาก แต่ที่จริงแล้วการเปลี่ยนแปลงในสมองพัฒนาขึ้นหลายปีก่อนหน้านั้น การลงมือทำตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ชีวิตของผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมและครอบครัวดีขึ้นได้ และจะช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคตของสังคมด้วย
รายงานฉบับนี้เขียนขึ้นจากการรวบรวมผลงานวิจัยและศึกษาของผู้เชี่ยวชาญ 24 ฉบับจากทั่วโลกได้ข้อสรุปว่า ปัจจัยเกี่ยวกับการใช้ชีวิต มีบทบาทหลักในการเพิ่ม หรือลดความเสี่ยงจากโรคสมองเสื่อมได้
ปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีผลต่อความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม แค่ไหน?
- ภาวะสูญเสียการได้ยิน 9%
- เรียนไม่จบมัธยม 8%
- การสูบบุหรี่ 5%
- ภาวะซึมเศร้า 4%
- การไม่เคลื่อนไหวร่างกาย 3%
- การตัดขาดจากสังคม 2%
- ภาวะความดันโลหิตสูง 2%
- โรคอ้วน 1%
- โรคเบาหวานชนิดที่สอง 1%
- ปัจจัยเสี่ยงซึ่งเชื่อว่าสามารถแก้ไขได้ รวมแล้วคิดเป็น 35% ส่วนปัจจัยเสี่ยง อีก 65% อยู่นอกเหนือการควบคุม
"คลังการรับรู้"
รายงานยังศึกษาประโยชน์ที่เกิดจากการสร้าง "คลังการรับรู้" หมายถึงการเสริมความแข็งแกร่งของเครือข่ายการรับรู้ในสมอง เพื่อให้สามารถทำงานต่อไปได้ในช่วงที่ผู้ป่วยอายุมากขึ้น แม้มีสมองบางส่วนได้รับความเสียหายก็ตาม
ผลการศึกษาที่ชี้ว่าการเรียนไม่จบมัธยมเป็นปัจจัยเสี่ยงโรคสมองเสื่อมอันดับต้นๆ ทำให้ผู้เขียนรายงาน เสนอแนวคิดที่ว่าการพยายามเรียนรู้ตลอดทั้งชีวิต จะมีโอกาสสร้างคลังการรับรู้ได้มากขึ้น
อีกปัจจัยเสี่ยงคือการสูญเสียการได้ยินในช่วงวัยกลางคน ซึ่งจะมีผลทำให้การรับรู้ลดลง และนำไปสู่การถูกโดดเดี่ยวจากสังคม รวมถึงภาวะซึมเศร้าได้
นอกจากนี้ สาระสำคัญของรายงานยังรวมถึงข้อคิดที่ว่า สิ่งที่ดีต่อสุขภาพหัวใจก็ดีต่อสมองด้วย เช่น งดสูบบุหรี่ ออกกำลัง ควบคุมน้ำหนัก การควบคุมความดันโลหิต และรักษาโรคเบาหวาน จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะสมองเสื่อมได้ เช่นเดียวกับการลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจและมะเร็ง
ที่มา : คณะกรรมการป้องกันภาวะสมองเสื่อม การช่วยเหลือแต่เริ่มแรก และการ ดูแลผู้ป่วย, วารสารแลนเซท (Lancet Commission on dementia prevention, intervention and care)
โดย : BBC ไทย / 20 กรกฎาคม 2560