"นักฆ่าบนตึกDSI"!!! โดยฉลามเขียว
เหตุและพฤติการณ์ที่นายธวัชชัย อนุกูล ตาย คือ สืบเนื่องมาจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกันกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอทำให้ตายโดยระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่ http://winne.ws/n17746
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยว่า เหตุและพฤติการณ์การตายเป็นอย่างไร ได้ความจาก นายชยพล หวานชะเอม, พ.ต.ท.ไพโรจน์ เล้ารัตนานุรักษ์ และนายสมมาส นาควงษ์ พยานผู้ใกล้ชิดเหตุการณ์ว่า ได้ควบคุมตัวผู้ตายมาโดยตลอด จนเวลาประมาณ 01.00 น. พบผู้ตายนั่งหมดสติอยู่ในห้องควบคุม มีถุงเท้ารัดบริเวณคอ และบานพับประตู จึงดำเนินการช่วยเหลือ และมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะมารับตัวทำการกู้ชีพ
แต่เมื่อพิจารณาสภาพศพผู้ตายตามเอกสาร มีสภาพเป็นรอยแดงผ่านลูกกระเดือก ซึ่งได้ความจาก พ.ต.อ.นพ.อนุราช จิตศิล ผู้ตรวจพิสูจน์สถานที่เกิดเหตุว่า ร่องรอยดังกล่าวจะพบในกรณีที่ผู้ตายถูกผู้อื่นกระทำ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ที่ผูกคอตายนั้น จะพบรอยแดงบริเวณเหนือลูกกระเดือกรัดใต้คางพาดผ่านไปทางหลังใบหูทั้งสองข้าง
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2559 ดีเอสไอ ร่วมกันจับกุม “นายธวัชชัย ผู้ตาย” ตามหมายจับของศาลอาญาในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และนำตัวไปควบคุมยังห้องควบคุมผู้ต้องหาที่ห้องควบคุมชั้น 6 อาคารดีเอสไอ
โดยในคืนแรกของการควบคุม ผู้ตายมีอาการหมดสติ มีถุงเท้ารัดอยู่ที่คอผูกติดกับบานพับประตูในห้องควบคุม ซึ่งเจ้าพนักงานที่ควบคุมอ้างว่าผู้ตายใช้ผูกคอ จึงทำการช่วยเหลือกู้ชีพเบื้องต้น และได้แจ้งโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ต่อมาผู้ตายถึงแก่ความตาย
โดยพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เจ้าหน้าที่นิติเวช เจ้าพนักงานอัยการ และพนักงานฝ่ายปกครอง ร่วมชันสูตรพลิกศพ พบว่า
สาเหตุการตายเกิดจากเลือดออกในช่องท้อง
ตับแตกจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก
ร่วมกับขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ
นอกจากนี้ นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้ตรวจชันสูตรพลิกศพ ได้เบิกความประกอบผลการตรวจพิสูจน์ พบบาดแผลช้ำบริเวณท้อง 3 แห่ง โดยบาดแผลดังกล่าวเกิดก่อนเวลาที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตาย และเกิดจากของแข็งไม่มีคมกระแทก โดยมีแรงกระทำมากพอสมควร โดยเฉพาะบาดแผลบริเวณกลางท้อง จนทำให้เกิดรอยช้ำที่ขั้วลำไส้ ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ตายมีอาการเจ็บจุกเป็นอย่างมาก
และพบว่า กล่องกระดูกเสียงหักทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดจากการกดรัดบริเวณคอด้านหน้าตำแหน่งลูกกระเดือก
และยัง พบบาดแผลกดรัดบริเวณคอด้านหน้าขนาดกว้าง 0.5 เซนติเมตร มีบาดแผลเฉียงขึ้นไปทางด้านหลัง น่าจะเกิดจาก มีวัตถุรัดคอผู้ตายในระยะเวลาเพียงเล็กน้อย
ซึ่งถุงเท้าของกลางไม่น่าสามารถทำให้เกิดรอยรัดดังกล่าวได้
และจากบาดแผลฟกช้ำบริเวณคอและที่กระดูกกล่องเสียงที่หักนั้น ซึ่งโดยทั่วไปการผูกคอส่วนใหญ่ไม่สามารถเกิดรอยบริเวณกลางลูกกระเดือกได้ แต่การที่พบผู้ตาย มีกระดูกซี่โครงด้านขวาและด้านซ้ายหัก นั้น จากการตรวจศพทำให้ทราบว่า เกิดก่อนที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตาย และอาจเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นและเข้ากับการปั๊มหัวใจในการกู้ชีพผู้ตาย
ส่วนที่พบว่ามีตับฉีกขาดมาก และมีเลือดออกในช่องท้องประมาณ 1,000 ซีซี ซึ่งอาการทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่สมดุลกัน การเลือกออกดังกล่าวทำให้ผู้ตายเกิดอาการช็อกหมดสติได้ และตับที่แตกอย่างรุนแรงก่อให้เกิดความเจ็บปวดมาก ซึ่ง จากการตรวจสอบกล้องจุลทรรศน์แสดงว่าอาการตับแตกเกิดขึ้นก่อนเวลา 01.00 น. และการที่ตับแตกแบบรุนแรงสามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายน่าจะไม่มีแรงกระทำอย่างอื่นต่อไปได้
และจากบาดแผลฟกช้ำบริเวณคอและที่กระดูกกล่องเสียงที่หักนั้น ซึ่งโดยทั่วไปการผูกคอส่วนใหญ่ไม่สามารถเกิดรอยบริเวณกลางลูกกระเดือกได้ แต่การที่พบผู้ตาย มีกระดูกซี่โครงด้านขวาและด้านซ้ายหัก นั้น จากการตรวจศพทำให้ทราบว่า เกิดก่อนที่ผู้ตายจะถึงแก่ความตาย และอาจเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นและเข้ากับการปั๊มหัวใจในการกู้ชีพผู้ตาย
ส่วนที่พบว่ามีตับฉีกขาดมาก และมีเลือดออกในช่องท้องประมาณ 1,000 ซีซี ซึ่งอาการทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่สมดุลกัน การเลือกออกดังกล่าวทำให้ผู้ตายเกิดอาการช็อกหมดสติได้ และตับที่แตกอย่างรุนแรงก่อให้เกิดความเจ็บปวดมาก ซึ่ง จากการตรวจสอบกล้องจุลทรรศน์แสดงว่าอาการตับแตกเกิดขึ้นก่อนเวลา 01.00 น. และการที่ตับแตกแบบรุนแรงสามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้ตายน่าจะไม่มีแรงกระทำอย่างอื่นต่อไปได้
พยานผู้ตรวจพิสูจน์ดังกล่าวเป็นพยานคนกลาง ไม่มีส่วนได้เสียในคดี และเบิกความตามหลักวิชาการ จึงมีน้ำหนักรับฟังประกอบกันแล้วสันนิษฐาน และมีคำสั่งว่า
สาเหตุการตายเกิดจากของแข็งไม่มีคมกระแทก ตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ
เมื่อจากการไต่สวนไม่ปรากฏว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาก่อเหตุโดยไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ จึงอาศัยเหตุผลดังคำวินิจฉัยมีคำสั่งว่า ผู้ตายคือนายธวัชชัย อนุกูล ตายที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2559 เวลา 04.43 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย คือ สืบเนื่องมาจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกตับแตก เลือดออกในช่องท้อง ร่วมกันกับการขาดอากาศหายใจจากการผูกคอทำให้ตาย โดยยังไม่ทราบว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำ โดยระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติตามหน้าที่
กระผม นายฉลามเขียว ก็ขอให้ท่านผู้อ่านชาวไทยอ่านคำสั่งศาล ผลการไต่สวนสาเหตุการตายของ “นายธวัชชัย อนุกูล” ซ้ำๆหลายๆรอบนะครับ ตัวผมอ่านหลายรอบมาก และตัวผมรอนานมากกว่าจะกล้าพาดหัวตั้งชื่อเรื่องว่า “นักฆ่าบนตึก DSI” สาเหตุที่ผมไม่กล้าก่อนหน้านี้เพราะกลัวเจ้าหน้าที่ของ DSI ฟ้องหมิ่นประมาท ไปหาว่าการฆ่าเกิดขึ้นบนตึกของท่าน แต่บัดนี้เมื่อมีคำสั่งของศาลออกมาเช่นนี้ก็เป็นที่ยุติแล้ว มีคนอื่นทำให้ตาย ผมก็ถือว่า เป็นการฆ่า
รอยแดงบนคอตรงกระเดือกเป็นเส้นเล็กๆมาก ขนาดแค่ 0.05 เซนติเมตร
ผมก็เชื่อว่า คนไทยหลายๆคนเคยดูหนังแอ็คชั่น ที่นักฆ่าจะถือลวดเส้นเล็กๆ แทบมองไม่เห็น ย่องเข้าไปด้านหลังเหยื่อ แล้วตวัดลวดรัดคอหอยตรงลูกกระเดือก ออกแรงรัดแป๊บนึง เหยื่อก็ชัดกระตุกและตาย รัดคอจากด้านหลังด้วยลวดหรือเส้นเอ็นขนาดเล็ก เหยื่อตายไวมาก
ผมจึงถือว่าคำสั่งศาลตรงที่ระบุว่า..มีวัตถุรัดคอผู้ตายในระยะเวลาเพียงเล็กน้อย... เป็นสาระสำคัญ ก็คือ รัดคอแป๊บเดียวก็ตาย
และในคำสั่งนี้ ทีมกู้ชีพ รวมทั้งหมอ ร.พ.มงกุฎวัฒนะ ที่เกือบพากันซวยที่ตอนแรกมีใครก็ไม่รู้พยายามชี้นำว่า ตับแตกเพราะปั๊มหัวใจ ซึ่งผลจากการไต่สวนตามกระบวนการยุติธรรมระบุชัดว่า ตับแตกก่อนตี 1 ซึ่งทีมกู้ชีพมาถึงข้องขังบนชั้น 6 ตึก DSI เมื่อเวลา 01.25 น. ก็หมายความว่า ตับแตก กับการรัดคอเกิดขึ้นก่อนทีมกู้ชีพมาถึง และเกิดบนตึก DSI นั่นแหละ เพราะนับแต่ถูกจับธวัชชัยไม่ได้ออกไปไหนเลย
คดีพลิกอย่างแผ่นดินถล่มฟ้าทลายครั้งนี้ขอยกให้เป็นความดีของ “ณรงค์ชัย อนุกูล” น้องชายของผู้ตาย ซึ่งผมยกยอดับเบิลให้เลยนะครับ ณรงค์ชัยพึ่งกระบวนการยุติธรรม ตั้งแต่ร้องให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลขอไต่สวน และศาลก็เปิดไต่สวน จนมีคำสั่งออกมาเมื่อ 4 ส.ค.2560 ทำให้การตายของธวัชชัย อดีตข้าราชการประจำกรมที่ดิน สำนักงานอ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2559 ชัดเจนว่า คนอื่นทำให้ตาย และเป็นการลงมือบนตึก DSI แน่นอนแล้ว ... ตับแตกก่อนตี 1
เพราะผมรู้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ชายที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศและ เพราะผมรู้จากที่ท่านบอก พล.อ.ประยุทธ์ อ่านเองทุกเรื่องราวที่มีคนเขียนอยู่ในโซเชียลออนไลน์ทุกรูปแบบ ผมจึงดีใจมากโดยเชื่อว่าข้อเขียนของผมนี้ท่านพล.อ.ประยุทธ์จะได้อ่านด้วยตัวเอง
คดี “บังฟัต” ถูกจับพร้อมทีมฆ่า โดยตำรวจกล่าวหาว่าฆ่าล้างครัว “ผู้ใหญ่วรยุทธ หลังสัง” แห่งหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.ท้ายเหลือง จ.กระบี่ ตายหมู่ 8 คน เป็นคดีอาชญากรรมร้ายแรงสะท้านกฎหมาย สะเทือนใจคนไทยทั้งประเทศ ท่านพล.อ.ประยุทธ์ ให้ความสนใจ และใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรัฐประหารของท่าน สั่งให้ทหาร ร.15 พัน 1 ไปจับพวกมันมา 9 คน กักตัวไว้ในค่าย 7 วันตามอำนาจ คสช.แล้วส่งต่อให้ตำรวจ ผู้คนทั้งแผ่นดินไทยสรรเสริญเยินยอพล.อ.ประยุทธ์ และให้คะแนน อย่างนี้สิมันถึงจะเรียกว่าในสถานการณ์รัฐประหาร
ซึ่งหากให้ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมปกติ จะต้องหาหลักฐานให้พร้อมจึงยื่นขอหมายจับ ก็ไม่รู้จะนานแค่ไหน เพราะมันคดีอิทธิพล ที่ผู้คนท้องถิ่นหวาดกลัว จึงยากมาก แม้การฆ่าหมู่รายนี้ทีมฆาตกรจะทิ้งหลักฐานไว้อย่างเรี่ยราดก็ตาม แต่เพราะประเทศไทยมี พล.อ.ประยุทธ์ ก็ชั้วะ วันนี้เอาตัวมาขังไว้ในเรือนจำได้ครบคนแล้ว
วันนี้ ฉลามเขียว จึงขอเขียนหนังเน้นๆให้ท่านพล.อ.ประยุทธ์อ่าน ดังนี้ครับ
อ่านเพิ่มเติมที่http://www.voicetv.co.th/blog/513286.html