โฆษกก.กลาโหมย้ำ!สัญญาประชาคมช่วยนำประเทศออกจากความขัดแย้ง ต้องรับรู้ข่าวสารอย่างรอบคอบ

วันที่ 14 ส.ค. 60 พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เปิดเผยว่า “สัญญาประชาคม” ประกอบผนวก 15 ข้อ ที่จัดทำขึ้นจากความคิดเห็นร่วมของประชาชนและผลการศึกษา http://winne.ws/n17937

662 ผู้เข้าชม
โฆษกก.กลาโหมย้ำ!สัญญาประชาคมช่วยนำประเทศออกจากความขัดแย้ง ต้องรับรู้ข่าวสารอย่างรอบคอบ

"คงชีพ" บอกสัญญาประชาคมเป็นการนำประเทศออกจากความขัดแย้ง ชี้ ต้องรับรู้ข่าวสารอย่างรอบคอบ ไม่บิดเบือน จะทำให้สังคมเรียบร้อย

วันที่ 14 ส.ค. 60 พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ เปิดเผยว่า “สัญญาประชาคม” ประกอบผนวก 15 ข้อ ที่จัดทำขึ้นจากความคิดเห็นร่วมของประชาชนและผลการศึกษาที่ผ่านมา เป็นความตระหนักร่วมกันของสังคมที่สะท้อนถึงความพยายามในการนำพาประเทศชาติออกจากปัญหาความขัดแย้งที่มีมากว่า 10 ปี ซึ่งขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนของการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในสาระของสัญญาประชาคมกับสังคม เพื่อร่วมกันปฏิบัตินำสู่เป้าหมายร่วม คือ ความสงบ สันติสุขของบ้านเมืองที่ทุกคนคาดหวัง

การส่งเสริมกระบวนการยุติธรรมและการเคารพกฎหมาย เป็นประเด็นหนึ่งในสัญญาประชาคม ที่ทุกคนเห็นตรงกันว่า มีความสำคัญและจำเป็นยิ่งต่อการอยู่ร่วมกัน ปัญหาการไม่เคารพกฎหมายและขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมา เป็นบทเรียนความเสียหายทางสังคมที่ได้รับร่วมกัน จึงเป็นที่มาของข้อยึดมั่นร่วมกัน คือ …. “ พึงเคารพ เชื่อมั่นและปฏิบัติตามกฏหมาย รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมกระบวนการยุติธรรม เพื่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ” …โดยมีข้อปฏิบัติร่วมกัน ที่ทุกคนต้องเคารพเชื่อมั่นและปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด โดยกลไกกระบวนการยุติธรรมต้องทำงานอย่างอิสระ รวดเร็ว ไม่เลือกปฏิบัติ มีความเสมอภาค เป็นธรรม เท่าเทียมกันและมีการลงโทษอย่างเด็ดขาดในทุกกรณี

ขณะเดียวกัน สังคมเห็นตรงกันว่า การครอบงำสังคมด้วยวาทกรรม ยั่วยุปลุกปั่น กระตุ้นให้โกรธ เกลียดชังกัน การให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน บิดเบือนและเป็นเท็จ โดยใช้สื่อเป็นเครื่องมือขยายผลสร้างการรับรู้แก่ประชาชน เป็นส่วนสำคัญที่สร้างรอยแยกของสังคมไทยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน. วันนี้ จึงร่วมกันเสนอข้อยึดมั่นร่วมกัน คือ ….. “ ใช้ความรอบคอบในการรับรู้ข่าวสารจากสื่อต่างๆ และร่วมกันสอดส่องดูแล ไม่ให้มีการบิดเบือนเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม ”. โดยมีข้อปฏิบัติร่วมกัน ในการสนับสนุนจัดให้มีกลไกป้องกันการแทรกแซงและการคุกคามการทำงานของสื่อมวลชน เพื่อให้สื่อมวลชนนำเสนอข้อมูลอย่างมีอิสระ ขณะเดียวกันสื่อมวลชนต้องรับผิดชอบต่อสังคมตามกรอบจริยธรรมและหลักวิชาชีพ ไม่ชี้นำ บิดเบือน สร้างความเกลียดชังหรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้ ทุกคนก็ต้องใช้ดุลยพินิจและรอบคอบในการรับรู้ข่าวสาร รู้เท่าทันผู้ให้ข้อมูลบิดเบือนหรือ ชี้นำให้เกิดความเข้าใจผิด อันนำมาซึ่งความแตกแยกทางสังคม

พล.ต.คงชีพ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความตระหนักร่วมกันต่อปัญหาและบทเรียนความเสียหายของสังคม จากความขัดแย้งที่ผ่านมา ประกอบกับความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกคน ที่จะพากันเดินหน้าออกจากความขัดแย้ง ที่หลุดพ้นจากการชี้นำ ยั่วยุ ปลุกเร้าให้เกิดความแตกแยกของคนไทยด้วยกัน จำเป็นต้องใช้ความพยายามร่วมกันอย่างมากจากทุกคน. การเปิดใจกว้าง รับฟังความจริงกันรอบด้านด้วยใจเป็นกลาง เรียนรู้และเข้าใจกันด้วยเหตุผล ที่มุ่งผลประโยชน์ของประเทศชาติ จะนำพาให้เราผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกันในที่สุด

ที่มา: http://www.siamrath.co.th/n/21341

แชร์