อันตรายใกล้ตัว กับ "ฟองน้ำ" ล้างจาน ใช้เสร็จตากแดดทุกครั้ง ช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้

“กรมอนามัย” กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชน ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุกครั้ง หลังใช้งานเสร็จ เพื่อป้องกันแหล่งสะสมของเชื้อโรค http://winne.ws/n17963

710 ผู้เข้าชม
อันตรายใกล้ตัว กับ "ฟองน้ำ" ล้างจาน ใช้เสร็จตากแดดทุกครั้ง ช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้

“กรมอนามัย” กระทรวงสาธารณสุข แนะประชาชน ทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานทุกครั้ง หลังใช้งานเสร็จ เพื่อป้องกันแหล่งสะสมของเชื้อโรค

นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ทุกครัวเรือนจะมีการใช้ฟองน้ำสำหรับล้างจานเป็นประจำ เพื่อทำความสะอาดล้างคราบสกปรกของจาน ชาม และอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ ที่ใช้งานเสร็จแล้ว โดยฟองน้ำที่ผ่านการใช้งาน หากไม่ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ให้หมดไป ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของ เชื้อจุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียก่อโรค เช่น เชื้อซัลโมเนลล่า ที่ติดมากับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาจสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วงได้หากใช้ฟองน้ำล้างจานซ้ำๆ โดยไม่ล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรค

หลังการใช้งานทุกครั้ง ควรนำฟองน้ำล้างจานหรือแผ่นใยขัดมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด และนำไปตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หรือใช้น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเปล่าครึ่งลิตร แล้วนำฟองน้ำหรือแผ่นใยขัดแช่ไว้ 1 คืน และต้องเปลี่ยนน้ำส้มสายชูทุกวัน หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรียล้างทำความสะอาดฟองน้ำได้เช่นกัน สิ่งสำคัญ คือควรแยกฟองน้ำที่จะใช้ล้างภาชนะให้เหมาะกับแต่ละประเภท อาทิ จาน ชาม กระทะ แก้วน้ำ

“สำหรับจาน ชาม และภาชนะต่างๆ ที่ผ่านการใช้งาน ควรล้างทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันแหล่งสะสมของเชื้อโรค ก่อนล้างควรกวาดเศษอาหารทั้งหมดทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด แล้วล้างภาชนะด้วยน้ำผสมน้ำยาล้างจาน เพื่อล้างคราบไขมัน เศษอาหาร และสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ โดยใช้ฟองน้ำหรือแผ่นใยสังเคราะห์ช่วยในการทำความสะอาด

จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง เพื่อล้างน้ำยาล้างจานและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ออกให้หมดแล้วคว่ำให้แห้ง หรือผึ่งตากในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเพื่อฆ่าเชื้อโรค และบริเวณที่คว่ำต้องไม่มีฝุ่นหรือแมลงวัน โดยคว่ำบนตะแกรงหรือตะกร้า หรือจุดวางภาชนะที่สูงจากพื้น 60 เซนติเมตร ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดเพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกที่ติดมากับผ้าได้” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ, สสส.

แชร์