จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

ทำไม...!! ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวพุทธในประเทศไทย ส่วนหนึ่งจึงปักใจเชื่อว่า ประเทศไทย มีขบวนการ “นารีพิฆาต” อันโด่งดังในอดีต สู่ “กลุ่มหรือขบวนการจับพระสึก” ในปัจจุบัน http://winne.ws/n18007

5.0 พัน ผู้เข้าชม
จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

“น้องหญิง คำอันเจ้ากล่าวแล้ว จะจริงหรือไม่ เราและเจ้าเท่านั้น ย่อมรู้” ท่อนคำนี้ หากใครเคยอ่านพุทธประวัติคงทราบว่าเป็นพระดำรัสที่ สมณโดคม ตรัสต่อ “นางจิญจมาณวิกา” ผู้รับจ้างจาก “คนนอกศาสนา” มาใส่ร้ายพระองค์ ต่อหน้าประชาชนด้วยข้อกล่าวหาว่าทำให้เธอท้อง จนทุกท้ายชีวิตเธอจบลงด้วย “ตายโหง”

 หากใครที่เคยอ่าน “หนังสือสามก๊ก”  คงทราบบทบาท “แม่นางเตียวเสี้ยน” หญิงเดียวที่ใช้ “มายาหญิง” กำจัด “ตั๋งโต๊ะ - ลิโป๊” ขุนพลนักรบสองพ่อลูกได้อย่างน่าเศร้าใจ และหากใครชอบดูละครแบบไทย ไม่ว่าจะเป็นจักรๆ วงศ์ๆ หรือละครก่อนนอนทั้งหลาย คงทราบว่า “พลานุภาพสตรี” มีศักยภาพทำลายเมืองได้

 ทำไม...!! ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวพุทธในประเทศไทย ส่วนหนึ่งจึงปักใจเชื่อว่า ประเทศไทย มีขบวนการ “นารีพิฆาต” อันโด่งดังในอดีต สู่ “กลุ่มหรือขบวนการจับพระสึก” ในปัจจุบัน

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

 คนที่มีอายุเลยเลข 40 ไปแล้ว คงเคยได้ยินคำว่า “นารีพิฆาต” บ่อยๆ ในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือจากปากต่อปากในแวดวงพระพุทธศาสนา เพราะในอดีต “พระภิกษุ” ไม่ว่าจะดังแค่ไหน มีคนห้อมล้อมติดตามระมัดระวังปานใด “มักจบชีวิตสมณะด้วยสตรี” ทุกรูปนามไป 

 จนทำให้ชาวพุทธเชื่อว่ามีขบวนการ “นารีพิฆาต” จากคนต่างศาสนามา “ทำลาย” พระภิกษุที่ชาวพุทธให้ “ความเคารพ” ทั้งๆ ที่สตรีเหล่านั้น ทุกรายล้วนเป็น “ชาวพุทธที่ใกล้ชิด” พระภิกษุรูปนั้นๆ ทั้งสิ้น ความจริงชาวพุทธน่าจะสืบต่อว่า “นารี” เหล่านี้หลังจากพิฆาต “พระ” แล้ว ชีวิตเป็นอยู่กันอย่างไรต่อ?

 ยกตัวอย่าง “พระดัง” ที่มีชื่อและถูกสึกเพราะ  “นารี” ที่ลูกศิษย์ลูกหา และคนศรัทธาเชื่อสนิทว่านี้คือ “แผนนารีพิฆาต

หลวงตาจันทร์”  หรือ “พระเทพสิทธิญาณรังสี”  อดีตเจ้าอาวาส วัดป่าชัยรังสี จังหวัดสมุทรสาคร สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย “หลวงตาจันทร์” สมัยเป็นพระมีคำกล่าวขวัญถึงอิทธิฤทธิ์ของท่านว่า สามารถเสก “สมณศักดิ์”  หรือเสกตำแหน่ง “อธิบดี นายพล” ให้ใครก็ได้ หาก “ใจถึง พึ่งได้” 

สาเหตุการสึกท่านอ้างว่า เพราะ “สตรี” ที่ตัวเองหลงรักและหวังออกมาแต่งงานด้วย พร้อมกับอ้างว่าสร้างเรือนหอราคาหลาย 10 ล้านบาทรอไว้แล้ว พร้อมกับจะใช้ “คฤหาสน์” ของนักการเมืองใหญ่ผู้ล่วงลับคนหนึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่ง จนท้าย “สตรีคนนั้น” ไม่เล่นด้วย จึงทำให้ “หลวงตาจันทร์” ต้องหลบหนีความอายเคี้ยวหมากปากแดงจิ๊บๆ อยู่แบบหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดายครองโสดคนเดียว ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

“พระภาวนาพุทโธ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพราน จังหวัดนครปฐม  สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย อดีตพระภาวนาพุทโธ มีลูกศิษย์ลูกหามาก มีสาขาวัดในไทยหลายแห่ง สุดท้ายถูกจับสึกและขังคุก ในข้อหาหลอกข่มขืนเด็กชาวเขาอายุต่ำกว่า 15 ปี  ต้องรับโทษติดคุกยาวนานถึง 50 ปี แม้ติดคุกแต่ก็มีลูกศิษย์ไปเข้าคิวรอพบจนเป็นที่เลื่องลือ เพราะบรรดาศิษย์เชื่อว่า “พระภาวนาพุทโธ” ถูกใส่ร้ายและถูกแผน “นารีพิฆาต” เผด็จสึก ปัจจุบันได้ข่าวว่าท่านพ้นคุกแล้วใช้ชีวิตแบบเงียบๆ 

 “พระวินัย อมโร” หรือที่เรียกติดปากว่า “พระยันตระ” สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย พระหนุ่มรูปงาม มีแม่ยก พ่อยกทั่วประเทศ สมัยยังครองสมณะเพศ จำวัดอยู่ที่ วัดป่าสัญญาตาราม เกริงกระเวีย จังหวัดกาญจนบุรี มีผู้คนศรัทธารถจอดเรียงสองข้างทางหลายกิโลเมตร เพื่อไปพบไปฟังธรรมจากท่าน ลูกศิษย์ศรัทธามากถึงขนาด “ดื่มฉี่” เพราะเชื่อว่าเป็นยาสามารถ “รักษาโรค” ได้ 

 ลูกศิษย์ “อดีตพระยันตระ” เชื่อว่าท่านถูกแผน “นารีพิฆาต” เพราะถูกสีกากลุ่มหนึ่งออกมาแฉจนเป็นข่าวโด่งดังสะเทือนใจชาวพุทธมาก หลังถูกกล่าวหาว่าล่อลวงสีการายหนึ่งไปเสพเมถุนจนตั้งครรภ์ และคลอดเด็กออกมา และมีแฉตามมาอีกหลายคน ทำนองว่า “ตัวเองเป็นหลวง” และ “เป็นน้อย”  ปัจจุบันยังใช้ชีวิตเยี่ยงพระในประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนสตรีบางรายก่อนตายมีข่าวซุบซิบว่ายอม “สารภาพบาปว่าใส่ความพระ”  เพราะโกรธคนใกล้ชิด ที่ไม่ยอมให้เข้าใกล้ 

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""
จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""
จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

“พระครูใบฎีกานิกร ธรรมวาที” วัดสันปง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นพระนักเทศน์ที่พุทธศาสนิกชนเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง ได้เสพเมถุนกับหญิงรายหนึ่งตั้งท้องและมีลูกด้วยกัน แต่ด้วยความศรัทธาของผู้คน ต่างไม่เชื่อคำครหาดังกล่าว เพราะเชื่อว่ามีขบวนการใส่ร้ายท่านตามแผน “นารีพิฆาต” ปัจจุบันได้เสียชีวิตลงแล้ว

 อันนี้ไม่นับพระภิกษุอีกหลายรูปไม่ว่าจะเป็น “สมีเจี้ยบ”  “พระเณรคำ”  “พระอิสระมุนี”  หรือแม้กระทั้งอดีต “พระมิตซูโอะ คเวสโก” ก็ล้วนจีวรกระเด็นเพราะ “นารี” มาแล้วแทบทั้งสิ้น แต่ก็อย่างว่าเรื่องเหล่านี้ ไม่รู้ว่าท่านถูก “นารีพิฆาต” หรือท่าน “พิฆาตนารี” กันแน่

 จาก “นารีพิฆาตสู่กลุ่มจับสึกพระ” ชาวพุทธกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า “แผนนารีพิฆาต” อันโด่งดังในอดีตเป็นเพียงแค่ “เด็ดหัว” เฉพาะพระภิกษุบางรูปที่มีชื่อเสียงเท่านั้น

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

ปัจจุบันชาวพุทธกลุ่มหนึ่งเชื่อปักใจว่า “พระพุทธศาสนามีภัย” ยังน้อย บรรดาสาวก วัดพระธรรมกาย บางท่านเชื่อสนิทใจว่า พระพุทธศาสนากำลังมีภัย ชนิดถูกถอนรากถอนโคน โดยมี “ขบวนการ” คอยทำลาย “พระ” และมีแผนทำลายล้าง “พระพุทธศาสนา” ในไทยโดยตรง โดยอาศัยกฎหมาย องค์กร ทุนและบุคคลที่เตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพ และมีการรับลูก รับช่วงเป็นทอด ๆ   

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

 เริ่มจากขบวนการจ้องทำลาย วัดพระธรรมกาย “รถโบราณ” เพื่อไปกระทบชิ่ง “สมเด็จช่วง” วัดปากน้ำ ในฐานะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ในฐานะพระอุปัชฌาย์ พระธัมมชโย และอาศัยจุดอ่อนระหว่างนิกายในช่วงตำแห่ง “สังฆราช” ว่างลง อันเป็นรอยแผลเดิม “ระหว่างนิกาย” แล้วทะลวงทุบเพื่อยุบ “มหาเถรสมาคม” เมื่อสำเร็จก็จะร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ใหม่ แล้วเข้าไปจัดการกับ “สถาบันสงฆ์”  

 เป้าหมายแรก คือ “ทรัพย์สินของวัด”  และผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับวัดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น วัดหลวงพ่อโสธร วัดไร่ขิง วัดพระพุทธชินราช และอีกหลายวัดที่มีผลประโยชน์มหาศาล เพราะคนกลุ่มนี้เชื่อว่า “เงิน” คือต้นตอสำคัญที่ทำให้สังคมสงฆ์ “เน่าเฟะ” อยู่ ณ ตอนนี้ และคนธรรมกายเชื่อว่าหากล้ม “วัดธรรมกาย” ได้ ก็ล้ม “วัดอื่น” ได้เช่นกัน

จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""
จาก "นารีพิฆาต"...สู่กลุ่มจ้องจับ'พระ'สึก บทความคุณภาพจาก"คอลัมน์ริ้วผ้าเหลือง""

ในขณะเดียวกันคนกลุ่มเดียวกันนี้พยายามสร้างกระแส โดยมีทีมชง ตี ทุบ ทำลาย ลดเครดิตพระผู้ใหญ่ให้คนไทยพุทธเชื่อว่า “มหาเถรสมาคมล้มเหลว” แล้วล้มศูนย์กลางการปกครองคณะสงฆ์ คือ มหาเถรสมาคม เพื่อเข้าไปจัดการโครงสร้างการปกครองคณะสงฆ์ใหม่ ซึ่งขบวนการนี้มีแนวคิดจะปัดฝุ่น พ.ร.บ.การปกครองคณะสงฆ์ 2484 ขึ้นมาใช้ใหม่ หรือแม้กระทั้งมีแนวคิด “เก็บภาษีพระ” ล๊อคเป้าเปลี่ยน “เจ้าอาวาส”  ทุกๆ5 ปี บางคน “บังอาจ" ขนาดขอยกเลิก “สมณศักดิ์” ด้วยซ้ำไป  ซึ่งกระแสนี้นับว่ามีคน “สนับสนุน” มิใช่น้อย ในขณะที่ทีมงานประชาสัมพันธ์ของ “มหาเถรสมาคม” กลับอ่อนปวกเปียก 

 เมื่อแนวคิดนี้หากบรรลุเป้าหมาย อนาคตพระภิกษุสงฆ์ ก็จะทำหน้าที่ของความเป็น “พระ” ได้อย่างสมบูรณ์ คือบำเพ็ญตน เพื่อความหลุดพ้นสู่ “แดนพระนิพพาน” ประเทศไทยก็จะเหลือแต่ “พระดี” และ “คนดี” เหมือน “สังคมยูโทเปีย” ที่ทุกประเทศในโลกนี้ไม่มี โอ้...!! น่าอัศจรรย์นัก...

 คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง

โดย “เปรียญ10” [email protected]


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://www.dailynews.co.th/article/504057

www.google.co.th

แชร์