รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

การที่จะกินมันนั้นไม่สามารถกินได้แบบข้าวโพดหวานทั่วไปด้วยเพราะความแข็งของผิวด้านนอกของเม็ดข้าวโพด และด้วยความที่มันมีความเป็นแป้งอย่างมาก เหตุผลหลักของมันจริงๆ แล้วนั้นคือการมีไว้เพื่อความสวยงาม http://winne.ws/n18017

2.7 พัน ผู้เข้าชม

ข้าวโพดอัญมณีแก้ว

                   ข้าวโพดที่เราเห็นกันทั่วไปตามท้องตลาดนั้นเราก็คงจะจำได้ว่ามันออกเป็นสีเหลืองนวลๆ ก็เหมือนผักผลไม้หลากหลายชนิดที่มักจะมีอยู่เพียงสีเดียว แต่ในครั้งนี้เราลองมารับรู้ความสวยงามจากข้าวโพด ที่จะช่วยให้คุณได้เปลี่ยนความจำเกี่ยวกับข้าวโพดที่เคยเห็นกันมา

                   มารู้จักกับข้าวโพดอัญมณีแก้วที่เคยเป็นที่โด่งดังอย่างมากในโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อปี 2012 จากที่มีคนได้นำรูปฝักอันเปล่งประกายของมันไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก

                   จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทจำหน่ายเมล็ดพันธุ์หายากที่มีชื่อว่า  Native Seeds/SEARCH ในรัฐแอริโซนา ประเทศอเมริกา รับรู้ว่าผู้คนมีความต้องการในข้าวโพดสายพันธุ์นี้ จึงได้ทำการขายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดอัญมณีแก้วในเว็บไซต์ของตัวเอง

                                                                                                                                                                        

เรื่องราวที่มาและความโดดเด่นของข้าวโพดอัญมณีแก้วมาเป็นข้าวโพดสีสายรุ้ง

                   แต่เรื่องราวที่มาของเจ้าข้าวโพดชนิดนั้นมีความโดดเด่นอยู่อย่างมากเมื่อมันเกิดจากคนคนเดียวคือชายหนุ่มที่ชื่อว่า Carl Barnes ปัจจุบันอายุประมาณ 80 ปี และเรื่องราวนี้ถูกบอกเล่าผ่านลูกบุญธรรมของเขา Greg Schoen เกี่ยวกับเรื่องราวที่มาของข้าวโพดชนิดนี้

                   เรื่องราวเริ่มจากที่ Barnes ผู้ที่มีสายเลือดเป็นลูกครึ่งชนพื้นเมือง และเป็นชาวไร่ในรัฐโอคลาโฮมาที่คอยปลูกข้าวโพดสายพันธุ์เก่าแก่มาตั้งแต่สมัยยังเป็นวัยรุ่น เพื่อเป็นมรดกให้กับชีวิตของตัวเอง

                   เขามีความสามารถในการแยกแยะสายพันธุ์อันเก่าแก่ต่างๆ จากการที่เขาเป็นชนพื้นเมืองของอเมริกามาก่อน และมีการแลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ต่างๆ มากมายกับคนที่เขาได้พบเจอหรือเพื่อนเขาที่อยู่กันทั่วประเทศ ในช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานซึ่งในปัจจุบันสถานที่สุดท้ายที่เขาเลือกก็คือโอคลาโฮมานั่นเอง

                    ในเวลาเดียวกันนั้น เขาได้เริ่มที่จะคัดเลือก ดูแลรักษา และเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ทั้งหลายโดยเฉพาะซังข้าวโพดที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา จนเมื่อเวลาผ่านไปจากการปลูกข้าวโพดสีต่างๆ ผลลัพธ์จึงออกมาเป็นข้าวโพดที่มีสีสายรุ้ง

                    ต่อมา Schoen ก็ได้มาเจอกับเขาในปี 1994 ตอนที่กำลังเก็บเกี่ยวพืชพื้นเมืองจึงได้โชว์ข้าวโพดสีรุ้งให้ผู้มาเยือนดู จนทำให้ต้องประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในปีต่อมาเขาจึงมอบเมล็ดพันธุ์ให้ลูกบุญธรรมในอนาคตของเขา

                   ด้วยเวลาที่ผ่านไปก็ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันและ Schoen ก็ได้รับตัวอย่างข้าวโพดสีสันสดใสมามากมาย จนเมื่อได้ย้ายไปยังเม็กซิโกก็ยังคงปลูกข้าวโพดพันธุ์นี้อยู่แต่ได้ผลผลิตในจำนวนที่น้อยในช่วงแรกตอนปี 1999 

                   จากนั้นก็ได้มีการผสมสายพันธุ์ข้าวโพดสีรุ้งเข้ากับสายพันธุ์ดั้งเดิมทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ในปี 2005 และในแต่ละปีก็จะได้ข้าวโพดที่มีสีสันและรูปแบบที่สดใสมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

                   จากการบอกเล่า Barnes ได้บอกกับเขาว่าแรกเริ่มเดิมทีข้าวโพดสีรุ้งนั้นคือการข้ามสายพันธุ์ของข้าวโพดถึงสามสายพันธุ์เลยทีเดียวดังนั้น Schoen จึงตั้งชื่อให้กับสีสันที่เกิดขึ้นต่างๆ นั้นไว้ว่า วงเวียนของสี สายรุ้งที่แท้จริง น้ำเงินเข้ม และอีกมากมายเพื่อให้มันมีเอกลักษณ์

                   ภาพที่เป็นที่ฮือฮากันในตอนปี 2012 ที่เขาได้ผสมระหว่างสองสายพันธุ์ในปี 2007 จนในปี 2009 เขาก็ได้ส่งต่อสายพันธุ์มากมายให้กับ Bill McDorman ผู้ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารของบริษัท Native Seeds/SEARCH ที่ได้ทำการเปิดขายข้าวโพดอัญมณีในโลกออนไลน์ 

                  ถุงเมล็ดพันธุ์นั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 260 บาทประกอบด้วย 50 เมล็ดได้ผลผลิตอยู่ที่ 100 ถึง 150 ฝักโดยมันสามารถปลูกได้ในทุกที่ที่มีสภาพอากาศอันอบอุ่นสามารถรับแสงแดดได้เต็มที่ และแนะนำให้ปลูกในช่วงหลังจากที่ผ่านฤดูใบไม้ผลิไป

                                                                                                                                                                      

ความสวยงามคือเหตุผลหลักของข้าวโพดสายพันธุ์ใหม่

                  แต่การที่จะกินมันนั้นไม่สามารถกินได้แบบข้าวโพดหวานทั่วไปด้วยเพราะความแข็งของผิวด้านนอกของเม็ดข้าวโพด และด้วยความที่มันมีความเป็นแป้งอย่างมาก จึงมักจะถูกนำไปทำแป้งข้าวโพดหรือแผ่นแป้งกินคู่กับอาหารอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังถูกนำมาทำป็อปคอร์นกันอีกด้วย

                 แต่เหตุผลหลักของมันจริงๆ แล้วนั้นคือการมีไว้เพื่อความสวยงาม เหล่าคนสวนทั้งหลายยังคงจะต้องตกใจกับสีสันอันสวยงามของมัน และหากใครอยากได้สีสันใดๆ ก็สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์จากฝักที่ปลูกในตอนแรกมาปลูกกันใหม่ได้

                 นี่คงจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กับหลายคนที่อาจไม่เคยเห็นเจ้าข้าวโพดชนิดนี้ แต่อย่างว่า… เอามากินจริงๆ ก็คงยากเนอะ!!

ข้าวโพดอัญมณีแก้วที่เคยเป็นที่โด่งดังอย่างมากในโลกอินเทอร์เน็ตเมื่อปี 2012

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

Carl Barnes ปัจจุบันอายุประมาณ 80 ปี เพาะพันธ์สายข้าวโพดที่มีสีสายรุ้ง

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

Carl Barnes ได้เจอกับ Schoen ในปี 1994 เขาจึงมอบเมล็ดพันธุ์ให้ผสม เกิดสายพันธุ์ใหม่เป็นข้าวโพดสีรุ้ง ในปี 2005

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

จากนั้นมีการผสมสายพันธุ์ข้าวโพดสีรุ้งเข้ากับสายพันธุ์ดั้งเดิมทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ในปี 2005 ในแต่ละปีก็จะได้ข้าวโพดที่มีสีสันและรูปแบบที่สดใสมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

ข้าวโพดอัญมณี ภาพที่เป็นที่ฮือฮากันในตอนปี 2012 เขาได้ผสมระหว่างสองสายพันธุ์ในปี 2007 จนในปี 2009

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

ความแข็งของผิวด้านนอกของเม็ข้าวโพด มันมีความเป็นแป้งอย่างมาก จึงมักจะถูกนำไปทำแป้งข้าวโพด ทำป็อปคอร์นกัน

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

ถุงเมล็ดพันธุ์นั้นมีราคาอยู่ที่ประมาณ 260 บาทประกอบด้วย 50 เมล็ดได้ผลผลิตอยู่ที่ 100 ถึง 150 ฝัก

รู้จักไหม ? “ข้าวโพดสีรุ้ง” ที่เมื่อก่อนเป็นภาพตัดต่อ ถูกพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็นจริง

ที่มา          :           thisisinsider 

โดย           :          CatDumb.com     /    บทความน่าอ่าน    /   15 สิงหาคม 2560

By             :           เหมียวตะปู พนักงานฝึกหัด 

แชร์