ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สอนเรื่องเหตุและผล มีหลักคำสอนที่เป็นความดีและสร้างความสุขความสำเร็จอย่างเป็นสากล วอร์เรน บัฟเฟตต์ ดำเนินชีวิตและทำธุรกิจแบบพิเศษมาก ๆ สิ่งที่เขาปฏิบัติ ตรงตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา http://winne.ws/n18056

2.4 พัน ผู้เข้าชม

ไบรอัน ฟอลชุค ผู้บริหารการเงินและนักเขียนชาวอเมริกา ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์” ว่าดำเนินชีวิตตรงตามหลักพระพุทธศาสนา

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

พุทธศาสนา เป็นศาสนาที่สอนเรื่องเหตุและผล มีหลักคำสอนที่เป็นความดีและสร้างความสุขความสำเร็จอย่างเป็นสากล ผู้ใดปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธหรือไม่ใช่ชาวพุทธ จะประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรม มีทั้งความมั่งคั่งและความสุข

มหาเศรษฐีอันดับสี่ของโลกและอันดับสองของอเมริกาวัย86ปี ท่านนี้บริจาคเงินจำนวนมากให้กับองค์กรเพื่อการกุศล ติดต่อกันทุกปีเป็นเวลา 12 ปีแล้ว ในปี2560นี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยังสร้างสถิติใหม่ ด้วยการบริจาคเงินสูงถึง 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.1 แสนล้านบาท ภายในวันเดียว

เขาไม่ต้องการให้ลูกได้รับการเลี้ยงดูอย่างลูกมหาเศรษฐีที่จะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการ ในการทำไร่ข้าวโพดลูกของเขาต้องจ่ายค่าเช่าที่ดินให้เขา  เขาให้เงินลูกสามคนเท่ากันคนละ 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 31,000 ล้านบาท แต่มีข้อแม้ว่าต้องใช้เงินจำนวนนี้เพื่อการกุศล!!!

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

ลูกทั้งสามคนของวอร์เรน บัฟเฟต์ กลายเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญของโลกทันที เมื่อพ่อของพวกเขาให้เงินทุกคนจำนวนมาก และให้ใช้เพื่อการกุศลเท่านั้น

ไบรอัน ฟอลชุค ผู้บริหารการเงินและนักเขียนชาวอเมริกา ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์” ว่าดำเนินชีวิตตรงตามหลักพระพุทธศาสนา จึงประสบความสำเร็จด้านธุรกิจอย่างมั่นคง โดยเริ่มจากเรื่องของจิตใจ

ไบรอัน ฟอลชุค ผู้บริหารการเงินและนักเขียนชาวอเมริกา ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์” ว่าดำเนินชีวิตตรงตามหลักพระพุทธศาสนา

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

โดยไบรอัน ฟอลชุค ซึ่งเป็นไลฟ์โคชและผู้เชี่ยวชาญด้านการเปลี่ยนพฤติกรรมด้วย ได้เขียนลงในเว็บไซต์ www.inc.com โดยกล่าวถึงพุทธศาสนาว่า พุทธศาสนาสอนให้ปล่อยวาง ไม่ยึดติด กับพฤติกรรม ผู้คน สถานการณ์ สิ่งของ ไม่ว่าชีวิตจะเจอเรื่องดีหรือแย่ ให้ทำใจเป็นกลางๆ ไม่หวั่นไหวกับสิ่งเหล่านั้น โดยชาวพุทธจะมีสติอยู่กับปัจจุบัน และใช้ชีวิตบนแนวคิดที่ว่า ที่สุดของมนุษย์ทุกคนนั้นต้องการความสุขและเราควรสนับสนุนภารกิจนี้ของทุกชีวิต

ฟอลชุคระบุอีกว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ ดำเนินชีวิตและทำธุรกิจแบบพิเศษมากๆ  สิ่งที่เขาปฏิบัติ ตรงตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา  โดยบัฟเฟตต์ จะมีชื่อเสียงเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน ใช้ชีวิตเรียบง่าย อาศัยในบ้านหลังเดิมซึ่งไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่ซื้อครั้งแรกตั้งแต่ปี 1956 ขับรถราคาไม่แพงซึ่งคันหนึ่งก็ใช้หลายปี ไม่ได้แต่งตัวเหมือนยาจกหรือใส่ชุดแพงๆตามแฟชั่น

วอร์เรน บัฟเฟตต์ อาศัยในบ้านหลังเดิมซึ่งไม่ได้เปลี่ยนไปจากที่ซื้อครั้งแรกตั้งแต่ปี 1956 ขับรถราคาไม่แพงซึ่งคันหนึ่งก็ใช้หลายปีและแต่งกายสะอาดสุภาพ

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

เขามีชื่อเสียงเรื่องปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า โดยลงทุนและถือไว้เป็นระยะเวลานานๆ  เป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นคนใจดี มีฉายาว่า “คุณปู่ใจดีแห่งอเมริกา” ขณะที่คนระดับเดียวกับเขามักเป็นคนมักโกรธ อารมณ์ร้อน เขาไม่ได้สนใจที่จะตัดสินใจในเรื่องชีวิตและธุรกิจแบบคนคิดสั้นๆ เขาคิดยาว มองไกล นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงสำเร็จ

เขาเป็นคนใจดี มีฉายาว่า “คุณปู่ใจดีแห่งอเมริกา”

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

บัฟเฟต์อาจไม่ใช่ชาวพุทธ แต่ปฏิบัติตัวเหมือนกับชาวพุทธทั้งหลาย บัฟเฟตต์ ไม่ได้หมกมุ่นกับการได้ประโยชน์อย่างรวดเร็ว  เขาไม่ได้มุ่งว่าจะประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น เขาโฟกัสในเรื่องการทำงานให้ดี และสนใจคนที่ตั้งใจทำสิ่งต่างๆให้ดี ความผิดพลาดในอดีตไม่จำเป็นต้องมาควบคุมเหตุการณ์ปัจจุบันมากไปกว่าการได้เรียนรู้จากเหตุการณ์นั้น ปรับวิธีการเมื่อจำเป็น และมุ่งไปข้างหน้า

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

ในการลงทุนและการทำธุรกิจของวอร์เรน บัฟเฟต์ มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว แต่เขาไม่ปล่อยให้ความล้มเหลวนั้นหยุดยั้งเขาที่จะก้าวต่อไป

ความสามารถของเขาที่เป็นตัวของตัวเองเสมอ มีเหตุผล เข้าใจชีวิตอย่างดี และมีสติอยู่กับปัจจุบันโดยไม่ยึดติดกับอดีตหรือปรารถนาอะไรในอนาคต เป็นหัวใจของความสำเร็จของเขา ซึ่งทำให้เขานั่งอยู่ริมทางในช่วง

ปี1990 ขณะที่นักลงทุนคนอื่นทุ่มเงินลงทุนกับสตาร์ทอัพ พวกดอทคอม และเรียกเขาว่า เป็นนักลงทุนที่หมดยุคแล้วเพราะเขาไม่ได้กระโดดไปร่วมวงธุรกิจเทคโนโลยีในตอนนั้น  เราทั้งหมดก็รู้ว่า ผลเป็นอย่างไร เขายังคงจริงกับปรัชญาที่มีเหตุผล เข้าใจชีวิต สงบ และ ประหยัด ในขณะที่คนอื่นดูสัญญาณเงินดอลล่าห์และทิ้งกลยุทธ์ที่ไม่ใช่วัตถุนิยม

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

อาจมีคนบอกว่าบอกว่า จริงๆแล้วเขาตัดสินใจเรื่องการลงทุนได้อย่างชาญฉลาดและมีเซนส์ในการแสวงหาการจัดการทางธุรกิจที่ดีที่สุด เรื่องนี้ก็จริง แต่ที่เหนือกว่านั้นคือ เขายังนิ่ง มั่นคง สงบ และมีสมาธิจดจ่อ โดยไม่มีความตื่นเต้นหรือแสดงอารมณ์ซึ่งทำให้นักลงทุนรอบข้างหวั่นไหว  ไม่ได้หมายความว่า เขาก็แค่ชนะ  แต่มันหมายถึง เขาเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง

ยกย่อง“วอร์เรน บัฟเฟต์”ชีวิตสำเร็จอย่างมั่นคง เพราะใช้ชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง..?

เวลาที่ได้ฟังเขาพูด จะเห็นได้ชัดเจนว่า เขาเป็นบุคคลที่มีความสุขอย่างแท้จริง และชัดเจนมากว่า เขาแสวงหาสิ่งนี้เพื่อผู้อื่นด้วย การนำหลักการทางพระพุทธศาสนามาใช้กับธุรกิจไม่ได้ทำให้คุณมีความสุขเท่านั้นแต่ทำให้คุณประสบความสำเร็จในอาชีพด้วย


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก cheerfulpeace.blogspot.com/2017/08/blog-post_17.html

แชร์