ประสบการณ์วินาทีแห่งความตาย : ภัทรวดี องค์สกุล

รอดได้ด้วยการปฏิบัติธรรม ตัวเราเองเท่านั้นที่จะช่วยตัวเราได้ เหตุอัศจรรย์อะไรก็คงไม่เกิดถ้าตัวเราไม่ได้สะสมสร้างบุญกุศลเอาไว้... http://winne.ws/n18265

1.8 พัน ผู้เข้าชม
ประสบการณ์วินาทีแห่งความตาย : ภัทรวดี องค์สกุลแหล่งภาพจาก https://www.google.co.th

       ดิฉันเป็นอาจารย์ประจำสถาบันราชภัฏสงขลา(วิทยาลัยครูสงขลา) พักอาศัย ณ บ้านพักข้าราชการภายในบริเวณวิทยาลัยตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลาห่างจากตัวบ้านของดิฉันไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๕-๖ เมตร มีต้นตาลอายุหลายสิบปี ๒ต้น ถ้าลากเส้นตรงจากต้นตาลต้นแรกมายังตัวบ้านก็จะตรงกับกึ่งกลางบ้านส่วนต้นที่สองจะตรงแนวชายคาบ้าน ความสูงตลอดต้นประมาณ ๑๘-๒๐ เมตรและเนื่องจากต้นตาลนี้อยู่ทางทิศตะวันออกหากถึงฤดูฝนหรือฤดูมรสุมของภาคใต้อันเกิดจากอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือโอกาสที่ต้นตาลจะล้มมาโดนตัวบ้านมีทางเป็นไปได้มาก ไม่ว่าจะล้มในแนวตรงหรือแนวเฉียง

           เมื่อ ๕ ปีที่แล้วดิฉันได้ทำบันทึกถึงวิทยาลัยขอความอนุเคราะห์ตัดต้นตาลทั้งสองต้นนี้แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ชี้แจงว่า จากประสบการณ์และความรู้ในชีวิตจริงของเขาไม่เคยมีต้นตาลล้ม การเจรจาเรื่องนี้ดำเนินมาเป็นระยะ ๆ ตลอดเวลา ๕ ปี จนอาจสร้างความรำคาญขึ้นบ้างก็ได้ที่ดิฉันไม่ละความพยายามแม้จะเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่แล้วก็ตาม

           ดังนั้นในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๓๖ (๓ สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุร้าย)จึงมีการคุยกันเรื่องนี้ โดยดิฉันได้รับคำยืนยันว่าถึงต้นตาลจะสูงแค่ไหนและมียอดหนักปานใด ก็จะไม่ล้มเด็ดขาดเพราะมันมีเนื้อไม้ที่เหนียว เมื่อมีลมแรง ๆ มันจะเอนตามและคืนตัวกลับได้เรื่องที่ดิฉันวิตกนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นก็ได้ผลคือดิฉันเลิกคิดกังวลเรื่องนี้ไปเลยเพราะเชื่อสนิทแต่ทั้งนี้ทางวิทยาลัยไม่ทราบว่าในระหว่าง ๕ ปีที่ผ่านมา ต้นตาลทั้งสองเคยถูกหยอดน้ำมันก๊าดตรงยอดของมันจนมันตายซากไประยะหนึ่งแล้วกลับฟื้นตัวแตกยอดออกผลใหม่อีกดิฉันเองก็ไม่ทราบว่าต้นตาลทั้งสองจะมีเนื้อไม้เสียไปไม่เหมือนเดิมจึงไม่ได้แจ้งรายละเอียดส่วนนี้เพิ่มเติมให้ทางวิทยาลัยทราบต้นตาลที่เปรียบเสมือนผีดิบนี้เจริญเติบโตลวงตาว่าเป็นต้นตาลปกติทั้งที่ข้างในของมันกลวงตลอดแนวเนื่องจากน้ำมันก๊าดดังนั้นวันหนึ่งเมื่อมีลมพายุพัดผ่านมันจึงหักทับบ้านของดิฉันโดยที่ตอและรากของมันยังคงอยู่ในดินเปิดเผยสภาพความจริงของลำต้นที่กลวงให้ได้เห็น

คืนวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๓๖ ล่วงเข้าวันที่ ๑๖ เวลาเกือบสองนาฬิกา ก็เกิดเหตุการณ์วินาทีแห่งความตาย

            ในตอนกลางวันของวันที่ ๑๕ ธันวาคม กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกเตือนเป็นระยะ ๆ ว่าพายุชื่อแมนนี่ จะขึ้นฝั่งที่จังหวัดสงขลาครั้นถึงเวลาสี่ทุ่มก็มีประกาศยืนยันแน่นอนว่าพายุจะขึ้นฝั่งเวลาประมาณหนึ่งนาฬิกาเป็นต้นไปอาจจะเร็วหรือช้ากว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับตัวแปรต่อการเคลื่อนตัวของพายุดิฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องต้นตาลว่าอาจจะโค่นเพราะแรงลมพายุครั้งนี้กลับไปกังวลเกรงว่าน้ำจะท่วมวิทยาลัยและบ้านคุณแม่ที่อำเภอหาดใหญ่

           ก่อนเข้านอนคืนนั้น ตั้งแต่สามทุ่มเศษ ดิฉันรู้สึกจิตใจมันแปลก ๆจะว่าเศร้าหรือหดหู่ก็ไม่ใช่ แต่ทราบว่าไม่เบิกบานสดใสเหมือนตอนหัวค่ำเป็นสภาพจิตที่เปลี่ยนไปทันที ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเพราะเมื่อเหตุการณ์ผ่านพ้นไปแล้วพี่สาวของดิฉันได้เตือนดิฉันให้เชื่อมโยงเรื่องนี้เข้ากับคำสอนกรรมฐานของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล เรื่องการดูจิตของตนเองเช่น ให้สังเกตว่าตื่นมาจิตเป็นอย่างไร แล้เกิดเหตุการณ์เช่นไรได้เงินหรือเสียเงิน ให้ศึกษาสังเกตและจดจำ แล้วเราจะรู้เหตุการณ์ต่อไปได้ด้วยสภาพจิตของเราเอง นั่นก็คือ หมั่นฝึกฝนแล้วจะเกิดปัญญาแก้ไขปัญหาชีวิตได้ด้วยตัวเราเองดังหลวงพ่อได้ขมวดคำสอนเป็นหลักจำง่ายๆ ว่า

         “อ่านตัวออกบอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น เห็นตัวตาย จะคลายทิฏฐิ จะดำริชอบ จะกอร์ปกุศล ได้ผลอนันต์”

        เมื่อดิฉันรู้สึกเช่นนั้นโดยค้นหาสาเหตุไม่พบ ดิฉันจึง สวดมนต์คาถาพาหุงมหากาฯและบทพระพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบตามปกติ แล้วเข้านอนเวลาประมาณ ๔ ทุ่มดิฉันหลับสนิทจนมาสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยเสียงที่ดังสนั่น ลุกขึ้นมานั่งทันเห็นส่วนหนึ่งของแผ่นเรียบที่ดิฉันใช้กรุห้องนอนหลุดล้มลงมาทั้งแผ่นเหนือแผ่นเรียบนี้ขึ้นไปคือ กระจกฝ้าแผ่นใหญ่ยาวติดหลังคาเพื่อให้ห้องมีแสงสว่างดิฉันสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นถึงขนาดทำให้แผ่นเรียบที่ตอกไว้แน่นหนาหลุดล้มจึงรีบลุกออกจากห้องนอนเพื่อจะไปเปิดประตูหน้าบ้านดูเหตุการณ์ห้องนอนดิฉันอยู่ส่วนด้านหน้าของตัวบ้านเมื่อดิฉันก้าวออกจากห้องนอนเข้าไปในห้องรับแขก ก็ต้องยืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้นเพราะภาพที่เห็นเป็นภาพที่ดิฉันไม่ได้คาดคิดมาก่อน ห้องรับแขกส่วนหนึ่งพังฝาบ้านเปิดโล่งด้านนอกมีท่อนไม้สีดำสนิทพาดทะมึนตรงมุมห้องขณะเดียวกันลมก็พัดอื้ออึง สายฝนกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาและสาดเข้ามาในบ้านจนชุ่มโชกไฟฟ้าดับ ทุกอย่างมืดไปหมด

           ดิฉันได้แต่พึมพึมว่า บ้านเราพัง ๆมันเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกรุนแรงเหลือเกินเพราะเหตุร้ายเกิดขึ้นที่ห้องติดกันกับห้องที่ดิฉันนอนและกำลังหลับสนิทไม่ใช่ที่อื่นดังที่คิดในตอนแรกเมื่อรู้สึกตัวตื่นขึ้น ดิฉันละล้าละลัง และชั่วขณะนั้นดิฉันก็ควบคุมสติได้ทราบว่าจะต้องตะโกนเรียกเพื่อนบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือโดยแจ้งว่าต้นตาลต้นหน้าบ้านหักทับบ้านเมื่อพวกเขาเข้ามาแล้วก็ขอให้ดิฉันรีบออกจากบ้านเพราะนอกจากน้ำฝนรั่วนองในห้องนอนแล้วพวกเขากลัวบ้านจะยุบลงมาเพราะคานบ้านชั้นล่างฉีกหัก แต่บ้านยังทรงตัวอยู่ได้เพราะอาศัยแนวกำแพงโรงรถรองรับอีกทั้งต้นตาลหลังบ้านกำลังเอนโอนตามแรงลม อาจะล้มลงมาอีกต้นก็ได้ดิฉันเปิดประตูโรงรถซึ่งข้างบนคือส่วนห้องรับแขกที่พังมีต้นตาลพาดทับอยู่ประตูก็ทำงานได้ลื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับตัวบ้านเลย ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันถอยรถออกมาได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องรบกวนเพื่อนบ้านผู้มีน้ำใจให้ต้องเปียกฝนด้วยการรื้อเศษซากปรักหักพังเลยเพราะสิ่งของเหล่านั้นไม่ได้หล่นกระจัดกระจายกลับกองรวมกันอยู่มุมหนึ่งของบริเวณบ้านหน้าโรงรถมีเพียงเสาอากาศทีวีหล่นขวางอยู่ เพียงแค่ยกออกบริเวณทางเข้าออกนั่นก็โล่งสะดวก

            เมื่อสว่างเต็มที่สภาพบ้านที่ปรากฏแก่สายตา คือต้นตาลหักเหลือแต่ตอแล้วล้มทับลงตรงเสาหน้าบ้านด้านทิศตะวันออกพอดิบพอดีเสาบ้านจึงรับน้ำหนักเต็มที่ ส่งผลให้คานบ้านด้านบนฉีกแตกส่วนคานบ้านด้านล่างหักและเมื่อเวลาผ่านไป รอยแตกก็ขยายแนวยาวออกไปเรื่อย ๆ ทำให้ประตูโรงรถเริ่มเปิดไม่ออกปิดไม่เข้าความยาวของต้นตาลพาดไปถึงปลายจั่วหน้าบ้านหลังคาแตกหมดซึ่งบริเวณนี้ตรงกับห้องรับแขก ฝาห้องรับแขกด้านทิศตะวันออกฉีกหลุดออกไปเป็นแนวแต่ที่ฝาด้านนี้ไม่พังยุบลงมาเพราะแรงรับของเหล็กดัดที่หน้าต่างซึ่งดิฉันเพิ่งติดได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนเพราะฉะนั้นความเหนียวของเนื้อเหล็กยังคงอยู่ในสภาพ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์กระนั้นเส้นเหล็กดัดบริเวณที่ติดกับกรอบหน้าต่างด้านล่างยังบิดงอเรื่องติดเหล็กดัดนี่ก็น่าสนใจ ตรงที่ทำไมดิฉันจึงเพิ่งจะติดทั้ง ๆที่อยู่บ้านนี้มาก็นานกว่าสิบปี และเมื่อดิฉันมีความคิดจะติดเหล็กดัดดิฉันก็ร้อนรนจะต้องรีบทำเสียให้ได้

           เมื่อเรียนถามหลวงพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ได้รับคำอธิบายว่า สติ บอกให้ทำหากไม่มีเหล็กดัดใหม่ ๆ ที่ติดไว้ ความเสียหายคงจะรุนแรงกว่านี้แน่นอนเมื่อฝาบ้านยุบ หน้าต่างยุบ หลังคาก็น่าจะยุบลงมาด้วยและเมื่อน้ำหนักที่กดลงมากเกินกว่าที่คานบ้านล่างและแนวกำแพงโรงรถจะรับได้บ้านก็คงพังลงมาทั้งแถบแน่นอนที่สุดรถยนต์ของดิฉันซึ่งเพิ่งถอยออกจากอู่มาไม่ถึงปีคงจะยับเยินและอาจรวมถึงชีวิตดิฉันและทรัพย์สินอื่นด้วยก็เป็นได้

           ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ปลายต้นตาลได้ล้มฟาดลงมาบนจั่วบ้าน ฉะนั้นยอดตาลคือส่วนที่เป็นใบและลูกควรจะฟาดลงมาตรงห้องนอนดิฉันพอดี การณ์กลับปรากฏว่ายอดตาลบิดหักกระเด็นผ่านหลังคาห้องนอนลงไปที่พื้นเป็นแนวเฉียง ๔๕องศาจากแนวลำต้นที่ล้มลง ตกไปกองบริเวณบันไดหน้าบ้านซึ่งทอดอยู่หน้าห้องนอน

            การบิดหักของยอดตาลมีข้อน่าสังเกตอยู่ ๒ประการ คือ หนึ่ง ไม่น่าจะบิดหักด้วยแรงหมุนของพายุ แต่จะเกิดจากอะไรเล่าถ้าเป็นด้วยแรงพายุบ้านของดิฉันน่าจะพังพินาศด้วยเพราะอยู่ในแรงหมุนของพายุเดียวกัน ความรุนแรงของพายุหมุนทำให้ต้นไม้ล้มแต่ยอดมักไม่ขาด ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์ครั้งพายุเกย์เข้าที่จังหวัดชุมพรพื้นที่บริเวณที่ศูนย์กลางพายุผ่าน จะเห็นภาพต้นไม้ล้มเป็นแถว ๆแต่ไม่มีต้นไหนยอดขาดเลย ทั้ง ๆ ที่ได้รับฤทธิ์เดชของพายุเต็มที่

           ประการที่สอง เมื่อยอดตาลหักจากลำตาลแล้ว ควรตกลงในแนวดิ่งตามแรงดึงดูดของโลกนั่นคือ หล่นลงทับหลังคาห้องนอน และคงจะเป็นบนตัวดิฉันด้วยการตกผ่านหลังคาเบี่ยงจากแนวลำต้นเกิดขึ้นได้อย่างไร

           สภาพอื่น ๆ ทั่วไปในบริเวณบ้าน คือ เศษกระเบื้องที่แตกเศษไม้ที่ฉีกหักต่างกองรวมกันราวกับมีใครจัดกวาดเป็น ๒ กอง คือกองตรงเสาบ้านที่ต้นตาลพาดอยู่และกองตรงเชิงบันไดที่ยอดตาลหักตกลงมาเห็นประตูหน้าบ้านขึ้นไปจะเป็นกระจกฝ้าจนติดหลังคากระจกนี้จะติดตลอดแนวห้องหน้าบ้านทั้งหมด คือห้องรับแขกและห้องนอน

           ปรากฏว่ากระจกนี้ไม่แตกเลย เพียงแต่เคลื่อนออกจากกรอบไม้เท่านั้นเพื่อนดิฉันเล่าให้ฟังว่า บ้านของเขาอยู่ห่างจากสนามซ้อมยิงปืนใหญ่ประมาณ ๓-๔กิโลเมตร กระจกที่บ้านเขายังแตกเพราะแรงสะเทือนและเมื่อฝ่ายเทศบาลซึ่งมีผู้ชำนาญการตัดต้นไม้สูงมาดำเนินการตัดต้นตาลอีกต้นที่เหลือก็ยังแสดงความประหลาดใจในเรื่องนี้ จากประสบการณ์ของเขาจะพบว่า เมื่อมีเหตุรุนแรงใดๆ เกิดขึ้นกับตัวบ้าน สิ่งแรกที่เสียหาย คือกระจกจะแตกเป็นเบื้องต้นหากว่าเกิดกรณีกระจกแตกหรือหล่นลงมาเช่นนั้น ดิฉันคงตายอย่างอนาถเพราะดิฉันนอนหันศีรษะชิดฝาบ้านด้านที่มีกระจก และกว่าผู้คนจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้นก็คงจะเป็นเวลาที่ออกไปทำงาน เพราะคืนเกิดเหตุไฟฟ้าดับ อายุฝนก็กระหน่ำไม่ขาดสายคงจะไม่มีใครออกมาหรือได้ยินเสียงเป็นแน่

           สิ่งที่น่าประหลาดใจอีกประการ คือ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลยข้าวของที่เป็นทรัพย์ส่วนตัวไม่เสียหาย แม้แก้วน้ำสักใบก็ไม่แตกมีเพียงหนังสือจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่เปียกฝนยิ่งไปกว่านั้นวิทยาลัยก็บังเอิญมีบ้านพักว่างหนึ่งหลังในวันนั้นพอดีทำให้ดิฉันได้มีที่พักอาศัยชั่วคราวในระหว่างที่วิทยาลัยดำเนินการซ่อมบ้านซึ่งเป็นทรัพย์สินทางราชการนอกจากนี้แล้วช่วงที่ขนของใช้ที่จำเป็นไปยังที่อยู่ใหม่ฝนที่ตกมาตลอดคืนก็หยุดตกพอดี ทำให้ทุกอย่างสะดวกราบรื่นอย่างเหลือเชื่อ

อานิสงส์จากการปฏิบัติธรรม

ปจฺจตฺตํ เวทิตพฺโพ วิญฺญูหิ” สิ่งอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนมิใช่เรื่องที่จะพูดให้คนอื่น ๆเข้าใจกันได้ทุกคน ต้องเกิดขึ้นกับตนจึงจะรู้เอง 

           ดิฉันได้มาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เป็นเวลา ๗ วันเมื่อปี ๒๕๓๕ ที่นี่เป็นโรงเรียนกรรมฐานแห่งแรกที่สอนให้ดิฉันรู้จักเดินจงกรมนั่งสมาธิ แผ่เมตตาและอื่น ๆ อีกมาก เมื่อกลับไปทำงานช่วงแรก ๆดิฉันก็พยายามปฏิบัติตอนก่อนเข้านอนเสมอ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ดิฉันก็พลัดหลงเข้าไปในวังวนชีวิตการทำงานเหมือนที่เคยเป็นมาแล้วมีข้อแก้ตัวให้ตัวเองว่าเหนื่อยเพลีย

           ดิฉันเริ่มปฏิบัติได้ไม่สม่ำเสมอ จึงหันมาสวดมนต์ โดยสวดคาถาพาหุงมหากาฯและบทพระพุทธคุณเกินอายุ ๑ จบ แทนการนั่งหลับในขณะกำลังนั่งสมาธิขณะเดียวกันก็พยายามปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อว่าในขณะทำงานก็ให้ปฏิบัติกรรมฐานไปด้วย คือ ดูจิตดูใจดูตัวให้ทั่วพร้อมระวังให้มั่นและให้มาก มีสติและสัมปชัญญะ ดิฉันทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ทันกิเลสบ้างไม่ทันบ้าง แต่ทั้งนี้จะมีกำลังใจตลอดเวลา โดยยึดเอาคำพูดของหลวงพ่อที่ว่า ปฏิบัติธรรมคือ การฝืนใจ ต้องฝืนใจ ต้องพยายาม ดิฉันก็ต้องเริ่มต้นอยู่เรื่อยพยายามอยู่เรื่อย

           จะเห็นได้ว่า ดิฉันยังไม่เก่งในการปฏิบัติแต่ประการใด ยังเป็นผู้ฝึกหัดอยู่ที่กล่าวเช่นนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติธรรมที่เริ่มท้อแท้โปรดอย่าทิ้งแนวทางนี้เลย เดี๋ยวจะเป็นดังคำหลวงพ่อ ของจริงให้ยังไม่เอาหากเราตั้งใจปฏิบัติอยู่เสมอจะเป็น การสะสมหน่วยกิต เกิดบุญกุศลได้คุ้มครองตัวลองพิจารณาเหตุการณ์วินาทีแห่งความตายของดิฉันดูเถิด เหตุการณ์นี้พิสูจน์ว่าตัวเราเองเท่านั้นที่จะช่วยตัวเราได้ เหตุอัศจรรย์อะไรก็คงไม่เกิดถ้าตัวเราไม่ได้สะสมสร้างบุญกุศลเอาไว้อย่ามัวไปหลงติดกับอิทธิปาฏิหาริย์อยู่เลย ขอให้ใช้ประโยชน์จากการอ่านเรื่องนี้เตือนใจตนให้เร่งหาทุนบุญกุศลด้านภาวนามัยไว้ใช้เมื่อประสบวินาทีแห่งความตายเข้าบ้าง

ขอขอบคุณข้อมูล : ธรรมทาน

https://sites.google.com

แชร์