ผลการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 5 เท่าใน 5 ปี

'ประยุทธ์' หารือ 'ปูติน' ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 5 เท่า ภายใน 5 ปี พอใจผลการประชุม BRICS วอนอย่าเพ่งเล็งคุยจีน-รัสเซียเฉพาะเรื่องซื้ออาวุธ http://winne.ws/n18593

3.8 พัน ผู้เข้าชม
ผลการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้า 5 เท่าใน 5 ปี

          เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS กับประเทศตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 4-5 ก.ย. ว่า นายกรัฐมนตรีได้พบปะทวิภาคีกับนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ที่ ศูนย์การประชุมระหว่างประเทศเซี่ยเหมิน โดยทั้ง 2 ฝ่าย เห็นพ้องถึงความสัมพันธ์ไทยและรัสเซีย ที่มีพัฒนาการมาตลอด 20 ปี โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 5 เท่า ภายใน 5 ปี ขณะเดียวกัน ไทยได้ผลักดันกระบวนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรีระหว่างกันให้ลุล่วงโดยเร็ว นอกจากนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังได้จัดตั้งคณะทำงานไทย-รัสเซีย เพื่อพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC 

          นายกรัฐมนตรี ได้เชิญชวนภาคเอกชนรัสเซียเข้ามาลงทุนในไทย และเชิญชวนให้พิจารณาจัดตั้งศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานในประเทศไทย เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน ทั้งในเชิงทหารและเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ยังย้ำคำเชิญให้ประธานาธิบดีรัสเซีย เดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในปี 2561 หลังการเลือกตั้งรัสเซีย

           ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าร่วมประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS ว่า การประชุมในครั้งนี้จีนให้ความสำคัญกับ5 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งการที่จีนเชิญไทยเข้าร่วม แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยและจีน และการให้ความสำคัญกับไทยในฐานะตลาดเกิดใหม่ และศักยภาพในการเชื่อมโยง โดยในที่ประชุมไทยได้เสนอประเด็นสำคัญที่ สร้างความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ส่วนการหารือทวิภาคีกับ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนนั้น ไทยได้ย้ำถึงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ รอบด้านขับเคลื่อนที่ดำเนินการอยู่ให้เป็นรูปธรรม ตลอดจนความคืบหน้าของโครงการความร่มมือรถไฟไทย-จีน ที่ต้องการดำเนินโครงการให้สำเร็จลุล่วง สำหรับการหารือกับประธานาธิบดีแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นการพูดคุยและติดตามความก้าวหน้าจากการประชุมที่เมืองโซชิ ปีที่แล้วซึ่งเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยรัสเซีย 120 ปี โดยในเร็วๆ นี้จะมีการเฉลิมฉลองที่ไทยจะจัดโขนชุดใหญ่ไปแสดงทีรัสเซียเพื่อกระชับความสัมพันธ์ นอกจากนี้มีการหารือเรื่องความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง ความร่วมมือการก่อการร้ายข้ามชาติ งานข่าวกรอง ก็จะมีการหารือกันในโอกาสต่อไป ซึ่งจะเปิดช่องทางใกล้ชิดกันให้มากขึ้น เพราะเป็นประเด็นที่อ่อนไหว 

          นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนตัวไม่อยากให้มองว่าการที่ไทยหารือกับจีนและรัสเซียจะหารือเฉพาะเรื่องการค้าขายและการซื้ออาวุธเท่านั้น ยืนยันว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการพูดคุย หากมองให้ดีอาวุธคือสินค้าประเภทหนึ่งที่ไทยไม่สามารถผลิตเองได้ ไทยมีแต่สินค้าการเกษตรการพูดคุยกัน มีการหารือทั้งสินค้าต่างตอบแทน อย่ามองว่าพูดกับใครหรือคบกับใครจะเป็นแค่การซื้ออาวุธ อย่างไรก็ตามรัสเซียยังให้ความสนใจเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งชาวรัสเซียมาเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก

          "ผมพอใจภาพรวมในการประชุมครั้งนี้ โดยเฉพาะการที่ไทยได้รับเกียรติที่เข้าร่วมประชุมโดยสมาชิกทั้ง 5 ประเทศ เห็นพ้องกัน เราไม่ได้ถือว่าเป็นตัวแทนของอาเซียน แต่เราเป็นตัวแทนของประเทศที่มีศักยภาพและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีน เป็นประเทศที่มีการพัฒนาการตลาดทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น นอกนั้นก็เป็นโอกาสที่ได้พูดคุยเจรจากับทุกประเทศ มีโอกาสคุยกับใครก็คุยทันที ทั้งส่วนตัวและทวิภาคี ส่วนในโอกาสหน้าไทยจะได้เข้าร่วมประชุม BRICS อีกหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับประเทศสมาชิกว่าจะเห็นชอบอย่างไร แต่ขณะนี้ต้องถือว่า เราเข้ามามีส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ BRICS แล้ว คือการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เรามีความเชื่อมโยงทางกายภาพ และอีกหลายเรื่องที่มีศักยภาพ ทั้งเศรษฐกิจดิจิทัลที่เราทำอยู่ ถึงแม้ว่าไทยจะไม่ได้เข้าประชุมครั้งหน้า แต่ก็ถือว่าไทยอยู่ในกระบวนการของ ได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน ขอให้คนไทยสบายใจว่าตนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำให้ประเทศต่าง ๆ ยอมรับประเทศไทยไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก็ตาม ครั้งนี้ถือว่าได้รับโอกาสจากทุกประเทศอย่างเท่าเทียมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

          ทั้งนี้ เวลา 17.45 น.ที่ท่าอากาศยานทหาร (2) บน 6 พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงกรุงเทพมหานคร โดยปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในประเด็นอื่นนอกเหนือจากการเดินทางเข้าร่วมประชุม


ขอขอบคุณภาพและแหล่งข่าวจาก https://news.voicetv.co.th

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://news.voicetv.co.th/thailand/521476.html

แชร์