ขนมปัง บ้านนอก

ท่ามกลางความสับสนของสังคมเมือง ณ จุดที่เรียกว่าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อาจเป็นได้ว่าเป็นศูนย์รวมแหล่งรวมของคนทั่วประเทศก็ว่าได้ ที่นี่เราจะได้เห็น http://winne.ws/n18961

1.1 พัน ผู้เข้าชม
ขนมปัง บ้านนอก

ขนมปัง บ้านนอก

ท่ามกลางความสับสนของสังคมเมือง ณ จุดที่เรียกว่าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อาจเรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมของคนทั่วประเทศก็ว่าได้ ที่นี่เราจะได้เห็นคนมากหน้า หลายตา มากที่สุด ก็ตอนผมเองมากรุงเทพฯ ใหม่ๆ แบกกระเป๋าตามพ่อมาหาที่เรียน ตรงนี้เป็นเหมือนจุดรวมของรถเมล์เกือบทุกสายที่วิ่งในเมืองหลวง และคิดว่าหลายคนน่าจะเป็นเหมือนผม คิดไปไหนไม่ถูก ก็มาเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ชัย เส้นทางเท้าหรือ sky walk  ที่มีผู้คนเดินขวักไขว่จึงเป็นเหมือน cat walk ของการเดินล่าความฝัน

แรงบันดาลใจที่ให้กลับมาเขียนเรื่องนี้ เกิดจากสัปดาห์ก่อนผมได้กลับมาที่ตรงนี่อีกครั้ง โชคดีความเป็นบ้านนอกของผม ยังก็ไม่เปลี่ยนแปลง กลับมาหารถนั่งไปรังสิต รถเมล์หลายๆ สายได้วิ่งมาเทียบที่ป้ายจอด ผู้คนนับร้อยกำลังรอเมล์ บางกำลังวิ่งขึ้นรถ หลายคนจ้องมองรถเมล์สายที่ตนอยากจะขึ้น หลายคนเล่นโทรศัพท์รอเวลา ระหว่างนั้นผมก็ได้ขึ้นไปนั่งบนรถเมล์สายที่จะไปรังสิต รถจอดนิ่งรอคนซักพัก ท่ามกลางความสบสนยังมีเรื่องที่ประทับใจ เมื่อหลายๆ คนกำลังขึ้นมาเป็นรถ กลับมีน้องนักศึกษาคนหนึ่ง แต่งชุดนักศึกษา ยกขนมปังอบกระเทียมขึ้นมาบนรถ ยกมือไหว้โชเฟอร์ แล้วก็..

“สวัสดีค่ะ หนูเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงค่ะ วันนี้หนูมาขายขนมปังทอดกระเทียม ขอความเมตตาจากท่านได้ซื้อขนมของหนูเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาค่ะ” 

เอาล่ะ เมื่อกล้าขึ้นมาขาย ผมก็กล้าซื้อล่ะ เลยได้ซื้อขนมจากน้องมาหนึ่งห่อ ผมจำราคาไม่ได้แล้ว คิดว่าอยู่ที่ 10 บาท ขนมปังในห่อมีอยู่สองชิ้น แม้จะดูแห้งๆ แต่ถ้าเก็บไว้ทานเวลาหิวตอนเช้าก็ดีเลยจึงใส่ลงในกระเป๋า มาตรงนี้ไม่ใช่มาโอ้อวดตนเองว่าเป็นคนดีศรีสังคมนะครับ ผมคิดว่าผมได้อะไรมากกว่าการได้ซื้อตรงนั้น

 หลายคนที่ไม่เคยเรียนที่รามคำแหงอาจไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถานที่ของคนที่ตามล่าความฝันและต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของตนจริงๆ หลายคนที่นี่จากบ้านนอกมาเรียน แล้วต้องหาค่าที่พัก ค่าเทอม ค่ากิน และทุกอย่างด้วยตนเอง เวลาที่ผ่านไปแต่ละวันจึงเต็มไปด้วยความรับผิดชอบ โดยเฉพาะทำอย่างไรให้เรามีชีวิตรอด ผ่านวันนี้ไปให้ได้ และต้องเรียนให้รอดด้วย เพราะที่นี่ไม่มีการบังคับให้เข้าห้องเรียน น้องนักศึกษาคนนี้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งของยอดนักล่าความฝัน ที่กำลังทำภารกิจหน้าที่ของตนเองอยู่นั่นเอง

จากตรงนี้อยากให้เรากลับมามองตัวเราเองครับ หากเรายังเป็นคนหนึ่งที่กำลังทำตามความฝันอยู่ เราได้ทำมันอย่างเด็ดเดี่ยว หรือทำไปแค่วันๆ อย่างไม่มีจุดหมาย ประโยคหนึ่งที่อยู่กับผมเสมอมา อาจารย์ท่านหนึ่งเคยบอกว่า “ทุกคนที่ผ่านมาชีวิตเรา สามารถเป็นครูของเราได้ทั้งหมด อยู่ที่เราจะจับเอาแง่มุมไหน มาคิด ปรับ มาเตือนตนเอง เมื่อเราสามารถทำได้อย่างนี้ เราจะเติมเต็มชีวิตอย่างคนที่ประสบการณ์และไม่เสียดายกับกาลเวลาที่ผ่านมา”  ปัจจุบันของทุกคนจึงสำคัญที่สุด เพราะปัจจุบันก็คืออนาคตของเรา ทำให้เต็มที่ อย่างมีวินัย ทำด้วยความเพียร สักวันความสำเร็จจะเป็นของเรา

By นายริตะ

แชร์