พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้านเศรษฐกิจ ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กับผู้ว่าราชการจังหวัด 16 จังหวัดภาคกลาง  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอในการพัฒนาภาคกลาง ก่อนเริ่มการประชุม ครม. นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 กันยายนนี้ ที่จังหวัดสุพรรณบุรีและพระนครศรีอยุธยา  

           โดยที่ประชุม กรอ. เห็นชอบตามข้อเสนอของภาคเอกชน ให้เร่งรัดการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี พื้นที่ 2,900 ไร่  แต่เอกชนต้องการเช่าพื้นที่เฟสแรกก่อน 500 ไร่ จึงมอบหมายให้กรมธนารักษ์ นำพื้นที่ออกมาเปิดประมูลให้เช่าตั้งโรงงานอุตสาหกรรม รองรับท่าเรือน้ำลึกทวายของเมียนมา ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอเร่งจัดตั้งนิคมอุตสหากรรมรองรับการลงทุน และจะเสนอคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (คพน.) ครั้งต่อไป 

             นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)  กล่าวว่า ที่ประชุม กรอ. ยังได้เห็นชอบข้อเสนอแผนพัฒนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวนานาชาติเหมือนเช่นกรุงโตเกียว  โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันศึกษาแผนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เพราะต้องรายงานให้ 'ยูเนสโก้' รับทราบเนื่องจากเป็นมรดกโลก เพื่อปรับภูมิทัศน์ ระบบแสงสีแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน การจัดทำถนนคนเดิน เพื่อสร้างกำลังซื้อสินค้าเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ผ่านความร่วมมือแบบประชารัฐ เบื้องต้นมีข้อเสนอวงเงินลงทุน 8,000 ล้านบาท 
 
           ด้านนายเกรียงไกร ด่านชัยวิจิตร ประธานหอการค้าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า กรอ. ได้เห็นชอบข้อเสนอแนวทางบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ตำบลโผงเผง สร้างพนังกั้นน้ำถาวรริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระยะทาง 32 กิโลเมตร เงินลงทุน 400 ล้านบาท ป้องกันปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุ่งนาข้าว และการติดตามความคืบหน้าระบบโครงสร้างพื้นฐานตามแนวทางแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางของจังหวัดภาคกลางไปยังภาคเหนือและภาคอีสาน เพื่อพัฒนาอยุธยาให้เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรม จะใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีต้นแบบจากเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เคียงภูเก็ตราว 6 ล้านคน แต่รายได้จากการท่องเที่ยวเพียง 13,000 ล้านบาทต่อปี แตกต่างจากภูเก็ต ที่มีนับแสนล้านบาทต่อปี 

ขอขอบคุณภาพและแหล่งข่าวาจาก https://news.voicetv.co.th

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://news.voicetv.co.th/business/525070.html