อองซานซูจีแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญาในรัฐยะไข่

อองซานซูจีกล่าวแถลงการณ์ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ต่อผู้เข้าร่วมฟังที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา นักการทูต และตัวแทนจากหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติหลายร้อยคน เป็นภาษาอังกฤษ http://winne.ws/n18986

800 ผู้เข้าชม
อองซานซูจีแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญาในรัฐยะไข่แหล่งภาพจาก ข่าวสด

อองซานซูจีแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญาในรัฐยะไข่ โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนทุกกลุ่มในประเทศและขอเชิญนานาชาติร่วมแก้ไขปัญหาในเมียนมา

อองซานซูจีกล่าวแถลงการณ์ที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ ต่อผู้เข้าร่วมฟังที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมียนมา นักการทูต และตัวแทนจากหน่วยงานในสังกัดของสหประชาชาติหลายร้อยคน เป็นภาษาอังกฤษ โดยเธอเริ่มต้นด้วยการชี้แจงว่าเมียนมาเป็นประเทศที่มีปัญหาสลับซับซ้อน และผู้คนยังคาดหวังว่าให้รัฐบาลใหม่ที่เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่ถึง 18 เดือน จะสามารถแก้ไขปัญหาที่สลับซับซ้อนของเมียนมาได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลของเธอกำลังพยายามดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศ

อองซานซูจีย้ำว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ มีจุดเริ่มต้นมากจากการที่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญา ได้ก่อเหตุโจมตีสถานีตำรวจสองครั้ง เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมปีที่แล้ว และวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลต้องเร่งปราบปรามกลุ่มติดอาวุธดังกล่าว และเธอได้แสดงความเห็นใจผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาวมุสลิมหรือคนกลุ่มน้อยกลุ่มต่าง ๆ อีกหลายกลุ่ม ซึ่งรัฐบาลเมียนมาได้เริ่มให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมเป็นต้นมา ซึ่งรัฐบาลเมียนมาก็ไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร คนบางกลุ่มถึงต้องหนีเข้าไปในบังกลาเทศ ถ้าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มติดอาวุธ

อองซานซูจียืนยันว่านับตั้งแต่ วันที่ 5 กันยายนเป็นต้นมา ก็ไม่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันเพิ่มเติมในรัฐยะไข่ และยืนยันว่าทางการเมียนมาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปฏิบัติการ ทางการทหารในการปราบปราบกลุ่มก่อการร้าย ไม่ให้กระทบกับประชาชน และได้เชิญนักการทูตและนักข่าวจากต่างชาติให้ลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ของเมียนมา เพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในรัฐยะไข่ ซึ่งแม้จะมีชาวมุสลิมจำนวนมากอพยพเข้าไป ยังฝั่งบังกลาเทศ แต่ก็มีชาวมุสลิมอีกจำนวนมากที่สามารถอยู่ร่วมกับคนในชุมชนได้อย่างสงบสุข เธอจึงขอเชิญนักการทูตและนักข่าวจากทั่วโลกเข้าพื้นที่เพื่อไปสอบถามชาวมุสลิมที่ยังคงอยู่ในพื้นที่ว่า เพราะอะไรพวกเขาจึงไม่หนีไปไหน

อองซานซูจีแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับวิกฤตโรฮิงญาในรัฐยะไข่แหล่งภาพจาก ข่าวสด

นางซูจียืนยันชาวมุสลิมในเมียนมาเข้าถึงการศึกษาและสวัสดิการอื่น ๆ ได้โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ โดยระบุว่ามีโครงการพัฒนาหลายอย่างเกิดขึ้นในรัฐยะไข่ มีการสร้างงานหลายพันตำแหน่ง รวมถึงโครงการสร้างเขตเศรษฐกิจ และสร้างที่อยู่ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และมีกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและเชื้อชาติเกิดขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งแม้จะมีบางชุมชนที่ไม่ต้องการเข้าร่วมในกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและเชื้อชาติ แต่รัฐบาลก็กำลังพยายามเกลี้ยกล่อม ขณะที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเมียนมายืนยันกับบังคลาเทศว่า เมียนมาพร้อมจะเริ่มกระบวนการพิสูจน์สัญชาติและจะรับตัวคนที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ลี้ภัยกลับมา

อองซานซูจียืนยันว่ารัฐบาลเมียนมาไม่เคยเพิกเฉยต่อปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน และขอให้ประชาคมโลกมองเมียนมาในภาพรวมทั้งประเทศที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านประชาธิปไตย เศรษฐกิจ การศึกษา และสาธารณะสุข โดยไม่มุ่งเป้าไปที่จุดเล็กๆในประเทศที่เกิดปัญหาซึ่งไม่ได้นำเสนอภาพรวมของเมียนมา และขอให้นานาชาติให้ความร่วมมือกับรัฐบาลเมียนมา เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆมากมายที่เมียนมากำลังเผชิญ ซึ่งเมียนมายินดีรับฟังคำแนะนำและประสบการณ์จากประเทศต่าง ๆ เพื่อนำเมียนมาไปสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ไม่มีการแบ่งแยกทางเชื้อชาติ, ศาสนา หรืออุดมการณ์ทางการเมือง

ขณะที่ นายถ่อง ทุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเมียนมา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยเรื่องวิกฤตผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ที่มีนายบอริส จอห์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษเป็นเจ้าภาพ ได้เปิดเผยต่อนักข่าวว่า เมียนมาอยากให้นานาชาติมั่นใจว่า ผู้ที่หลบหนีออกจากถิ่นฐานบ้านเกิด จะสามารถกลับคืนถิ่นได้อีกครั้ง โดยขั้นตอนและกระบวนการ ในการกลับเข้าประเทศเป็นสิ่งที่ต้องหารือร่วมกันต่อไป นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบร่วมกันว่า ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม จะต้องได้รับการช่วยเหลือ โดยไม่ถูกเลือกปฏิบัติ

ในระหว่างที่มีการเผยแพร่คำแถลงของนางซูจี พบว่ามีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในเมียนมา แสดงความคิดเห็นให้กำลังใจแก่นางซูจีกันเป็นจำนวนมาก โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนที่ระบุว่าตนเป็นชาวพม่าได้เปลี่ยนภาพโปรไฟล์และขึ้นข้อความระบุว่าพร้อมยืนเคียงข้างอองซานซูจี ขณะที่อีกหลายรายเปลี่ยนโปรไฟล์ เป็นภาพธงชาติเมียนมาเพื่อแสดงความสนับสนุนต่อรัฐบาล


อ้างอิง: https://news.voicetv.co.th/world/525115.html

แชร์