เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ที่บริเวณใต้ทางด่วนแจ้งวัฒนะ ซอยแจ้งวัฒนะ 38 นายสมชาย หมื่นเดช เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ อำเภอ และ นายพีรชา ญัติติพร นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เทศบาลนครปากเกร็ด นำทีมโดยสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด สำนักงานปศุสัตว์อำเภอปากเกร็ด และเทศบาลนครปากเกร็ด กว่า 30 นาย นำกำลังลงพื้นเข้าปิดล้อมจับหมูป่า ตามจุดต่าง ๆในพื้นที่ดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้ นำตัวยา “นำสลบ” มาฉีดหมูป่าเพื่อให้จับได้ง่ายขึ้น

ด้านนายสมชาย กล่าวว่า วันนี้ตนนำกำลังมาลงพื้นที่จับเป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นกว้าง ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลาในการจับพอสมควรซึ่งหมูป่าจำนวนดังกล่าวเป็นหมูป่าที่ชาวบ้านเลี้ยงไม่ไหว และไม่มีการตั้งคอกขัง ซึ่งเป็นการเลี้ยงและปล่อยให้กระจายอยู่ตามป่า จนขยายพันธุ์ไปเป็นจำนวนมาก

ด้านนายพีรชา กล่าวว่า ในส่วนของหมูป่านั้นแรงเยอะมาก เจ้าหน้าที่ต้องใช้กรงขนาดใหญ่ดักและใช้เข็มฉีดยานำสลบไล่แทง ทั้งนี้พื้นที่ในการไล่จับหมูนั้นซึ่งเป็นป่าทึบ และรกร้าง มีหนองน้ำและโคลนเป็นแอ่ง ซึ่งบางจุดเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปได้ อย่างไรก็ตามวันนี้ก็เป็นอีกวันที่จับยากขึ้นเนื่องจากฝนนั้นตก ทำให้พื้นเปียก และหมูนั้นได้เข้าไปหลบในป่าจึงทำให้หายากมากขึ้นอีกด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำลูกกรงมาทำการปิดล้อมให้เป็นปากขวด โดยทางเจ้าหน้าที่จำนวน 4-5 นาย เข้าต้อนจากภายในป่าซึ่งมีชาวบ้านเข้าช่วยเหลือในการปิดล้อมจับครั้งนี้ด้วย ซึ่งระหว่างที่รอนั้นเจ้าหน้าที่ชุดต้อน ได้ส่งสัญญาณกับเจ้าหน้าที่ที่เฝ้ารอบบริเวณประตูที่เป็นปากขวด ก่อนจะพบว่ามีหมูป่าจำนวน 5 ตัว วิ่งเข้ามาที่ประตูบริเวณปากขวด เจ้าหน้าที่จึงปิดขังกรงโดยทันที ก่อนที่จะใช้ยานำสลบ ลุมกันฉีดหมูป่าทั้ง 5 ตัวจนอ่อนแรงก่อนมีชาวบ้านเข้ามาขอไปดำเนินการเลี้ยงกันต่อไป

ด้านนายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามวันนี้เป็นการจับเป็นวันที่ 2 ซึ่งวันนี้สามารถจับมาได้จำนวนกว่า 10 ตัวซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทุกนายตนอาจจะให้หยุดการจับหมูป่าไปก่อน 1-2 วัน เนื่องจากตอนนี้หมูป่าส่วนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่นั้นไหวตัวหนีเข้าไปในป่าลึกจนตามตัวจับยาก ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาให้กลุ่มหมูป่านั้นออกจากป่าก่อนและมาหาอาหาร ซึ่งจะดำเนินการจับให้หมดโดยไว ในส่วนหมูป่าที่จับได้นั้นจะนำไปแจกจ่าย ให้กับเกษตรกรที่มีความสนใจเอาไปเลี้ยง ต่อไปในส่วนนี้ก็จะมีการติดตามดูแลหมูทุกตัวที่แจกจ่ายว่าเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะไม่ให้นำไปฆ่าอย่างแน่นอน

ที่มา: https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_530039