กระทรวงการคลัง เล็งปรับบัตรคนจน โยก "ค่าเดินทาง รถไฟฟ้า-บขส.-รถไฟ" ไปใช้ร้านธงฟ้า

กระทรวงการคลัง เตรียมปรับเงื่อนไขบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่โยก "ค่าเดินทาง รถไฟฟ้า-บขส.-รถไฟ" ไปเพิ่มใช้จ่ายร้านธงฟ้าแทนเป็น 700-800 บาท หลังพบว่ามีประชาชนจำนวนมากไม่ได้ใช้ http://winne.ws/n19717

669 ผู้เข้าชม
กระทรวงการคลัง เล็งปรับบัตรคนจน โยก "ค่าเดินทาง รถไฟฟ้า-บขส.-รถไฟ" ไปใช้ร้านธงฟ้า

          หลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังหาแนวทางเพิ่มวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เนื่องจากพบว่าวงเงินที่ให้สำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 200-300 บาทต่อเดือนอาจไม่เพียงพอจึงให้พิจารณาหาเงินงบประมาณจากส่วนอื่นมาใช้จ่ายเพิ่มเติม  
 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง บอกว่าหากเป็นนโยบายของรัฐบาลก็พร้อมจะรับไปศึกษา ทบทวนความเป็นไปได้ของการเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเบื้องต้นอาจใช้วิธีปรับเปลี่ยนวงเงินภายในบัตรแทน เช่น ประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดและไม่จำเป็นต้องเดินทางหรือใช้บริการรถไฟ รถบขส. ก็สามารถนำวงเงิน 500 บาทตามวงเงินในบัตรมาใช้ซื้อสินค้าได้ ซึ่งจะทำให้มีวงเงินซื้อสินค้าเพิ่มเป็น 700-800 บาท เป็นต้น 

          ปลัดกระทรวงการคลังยอมรับว่าการใช้บัตรครั้งแรกอาจจะมีปัญหาต้องแก้ไข โดยจะเร่งหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว พร้อมยืนยันว่าจะไม่เป็นการเพิ่มภาระด้านงบประมาณเพราะเป็นการโยกหรือปรับวงเงินในบัตรเท่านั้น 

          ส่วนการแจกบัตรสวัสดิการในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอีก 6 จังหวัดกว่า 1.3 ล้านคนในวันที่ 17 ต.ค.นี้จะเป็นบัตรที่ใช้ร่วมกับบัตรแมงมุมได้แต่ในระยะแรกจะใช้บริการได้เพียงรถไฟและรถเมล์เท่านั้น ส่วนรถไฟฟ้ายังไม่สามารถใช้บริการได้ทัน ส่วนวงเงินที่ไม่สามารถใช้ได้หมดในเดือนต.ค.จะผ่อนผันให้นำไปใช้ได้ในเดือนพ.ย.อีก 1 เดือน 

          ปัจจุบันสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย จะได้รับวงเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ในระบบขนส่งมวลชน ในสามกลุ่ม คือ รถเมล์และรถไฟฟ้า ให้วงเงิน 500 บาทต่อราย , ค่าใช้จ่ายเดินทางโดยรถ บขส. วงเงิน 500 บาทต่อราย และค่าเดินทางโดยรถไฟ 500 บาทต่อราย 

          สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับซื้อสินค้าร้านธงฟ้าในปัจจุบัน ผู้มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนละ 300 บาท ส่วนคนที่มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาทแต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะได้วงเงินเดือนละ 200 บาท 
 
          นายสมชัย กล่าวว่า การปรับปรุงรายการค่าใช้จ่าย โดยโยกค่าใช้จ่ายบางรายการที่ไม่ได้ใช้ ไปเป็นวงเงินค่าใช้จ่ายที่ประชาชนต้องการใช้จ่ายแทนนั้น จะไม่เป็นการเพิ่มงบประมาณของโครงการบัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ที่กำหนดวงเงินงบประมาณไว้ 4.19 หมื่นล้านบาท สำหรับคนที่ได้รับสิทธิ์ในปีนี้ จำนวน 11.67 ล้านคน 
 
          สำหรับคนในกทม.ที่มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการดังกล่าว จำนวน 1.3 ล้านคนนั้น กระทรวงการคลัง จะเริ่มแจกบัตรดังกล่าวให้แก่คนในกทม.ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป 
          อย่างไรก็ตาม วงเงินค่าใช้จ่าย รถเมล์ และรถไฟฟ้า ยังไม่สามารถใช้ได้ จนกระทั่งเดือนพ.ย.นี้ เนื่องจาก ต้องรอการลงระบบตั๋วร่วมของ รถเมล์และรถไฟฟ้า ส่วนรายจ่ายอื่นคือการซื้อสินค้าในร้านธงฟ้าสามารถใช้จ่ายได้ 

          ปัจจุบัน ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ มีร้านธงฟ้ากระจายอยู่ในประเทศแล้ว 1 หมื่นแห่ง โดยกระทรวงพาณิชย์ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มเป็น 2 หมื่นแห่งภายในปีนี้ ส่วนจะขยายการใช้บัตรในร้านค้าอื่นที่ไม่ใช่ร้านธงฟ้าหรือไม่นั้น เรื่องนี้อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อขยายไปร้านอื่นๆด้วย แต่เบื้องต้น จำกัดให้ใช้กับร้านธงฟ้าไปก่อน เพราะต้องการส่งเสริมร้านค้าขนาดเล็กให้มีรายได้ 
 
          สำหรับการติดตั้งเครื่องอีดีซีนั้น ทางธนาคารกรุงไทยก็เร่งดำเนินการติดตั้งเครื่องอย่างเต็มที่ คาดว่า จะสามารถติดตั้งได้ราวหนึ่งหมื่นเครื่องภายในเดือนพ.ย. นี้ 
 
          นายบุญฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ยอดผู้สมัครเข้าร่วมโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐล่าสุดมีจำนวน 33,969 ร้าน สะท้อนถึงความสนใจของร้านค้าที่สมัครเข้ามาจำนวนมาก หลังจากที่เปิดดำเนินโครงการไป จากก่อนหน้าที่ยังไม่สนใจนัก ขั้นตอนต่อไปจะต้องคัดเลือกร้านค้าธงฟ้าเพื่อเข้าไปติดตั้งเครื่องอีดีซีให้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ 8,000 ร้านภายในสิ้นเดือนต.ค.นี้ 

          ทั้งนี้ ต้องเริ่มนำร่องจากร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ และตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมชนหนาแน่นเป็นหลักก่อน เพื่อให้การใช้บัตรเข้าถึงกลุ่มประชาชนผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด อีกทั้งต้องเลือกร้านค้าที่มีศักยภาพการบริการประชาชน ซึ่งต้องดูความต้องการสินค้าและการบริการประชาชนให้เพียงพอเป็นหลัก เมื่อครบถ้วนสมบูรณ์แล้วจึงขยายความต้องการไปสู่ร้านค้าปลีกขนาดเล็กเพื่อให้กระจายการเข้าถึงประชาชน 

          "ร้านค้าที่สมัครเข้ามา แรกๆสมัครเข้ามาน้อย ตอนหลังๆ สมัครมาเยอะ แต่ไม่ใช่ว่าจะเลือกทั้ง 3 หมื่นร้านค้า ที่สมัครเข้ามา เพราะมีหลักเกณฑ์การคัดเลือกให้ดูความพร้อมและพื้นที่เป็นหลัก ทางภาครัฐไม่ได้ต้องการเน้นการเลือกรายใหญ่และเอื้อรายใหญ่เป็นหลัก เพียงแต่เริ่มต้นต้องดูความพร้อมของกำลังการขายของให้จำนวนคนมาก แล้วค่อยขยายไปรายเล็กต่อไป " 

          ทั้งนี้ มีแผนจะขยายเลือกซัพพลายเออร์ (ผู้ผลิตสินค้า) ที่ไม่ใช่เพียงผู้ผลิตรายใหญ่ที่เข้าไปจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยการรวบรวมรายชื่อของกลุ่มผู้ผลิตสินค้าชุมชน สินค้าเกษตร และวิสาหกิจชุมชนเข้ามาให้ร้านค้าปลีกธงฟ้าที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่กระทรวงพาณิชย์คัดเลือกมาประสานการจับคู่ซื้อขายระหว่างผู้ผลิตและร้านค้าปลีก ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ทางกรมการค้าภายในมีรายชื่ออยู่แล้ว อาทิ โรงสี และร้านสินค้าเกษตรในย่านชุมชนต่างๆ


ขอขอบคุณภาพและแหล่งข่าวจาก https://news.voicetv.co.th

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://news.voicetv.co.th/business/532417.html

แชร์