'หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ' ผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

พระพรหมมังคลาจารย์ 'หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ' ผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 มีพิธีสลายสรีระสังขาร พระราชทานเพลิง ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จังหวัดนนทบุรี http://winne.ws/n20192

2.0 พัน ผู้เข้าชม
'หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ' ผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

เสียงของพระพรหมมังคลาจารย์ หรือ หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ทุกคนจะได้ยินทางวิทยุทุกวันอาทิตย์ ผ่านรายการปาฐกถาธรรมวันอาทิตย์ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุทั่วประเทศ และด้วยเสียงการเทศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทุกคนที่ได้ยินปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นเสียงของหลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ความโดดเด่นของท่านคือการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างตรงไปตรงมาตามพระธรรมวินัย อันเป็นเหตุให้ท่านได้ชื่อว่าเป็นนักเทศน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดรูปหนึ่งที่สังคมไทยเคยมีมา 

เนื้อหาที่หลวงพ่อปัญญา หยิบยกมา ส่วนใหญ่จะเป็นงานเผยแผ่ธรรมะ และออกมาเตือนสติ ชี้แนะหนทางที่ถูกต้องให้กับพุทธศาสนิกชน 

ตายแล้วไปไหน ประโยคนี้ หลวงพ่อปัญญาบอกว่า เป็นคำถามยอดฮิต ที่มีพุทธศาสนิกชนถามเข้ามามาก เมื่อหลวงพ่อปัญญา เดินทางไปบรรยายธรรมตามสถานที่ต่างๆ 

“ต้องสอนลูกสอนหลานให้เข้าใจในเรื่องนี้ ให้เข้าใจว่าอย่าอยู่อย่างคนตาย ให้อยู่อย่างมีชีวิต การอยู่อย่างคนตายคืออยู่อย่างคนที่ไม่มีธรรมะประจำใจ คิดเรื่องชั่ว คบหาสมาคมกับเพื่อนชั่ว ๆ คนไม่ทำงานก็ถือว่า อยู่อย่างคนตาย” 

หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ เป็นพระนักเทศน์ที่ใช้คำพูดที่ตรงไปตรงมา เข้าใจง่ายไม่ให้พุทธศาสนิกชนมีความเชื่อไปในทางที่ผิด แม้แต่พระราชธรรมนิเทศน์ (พระพยอม กัลยาโณ) เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ยังเคยพูดว่า “กระดูกคนละเบอร์” ซึ่งหมายถึงการเทศน์ของพระพยอมที่ไม่อาจเปรียบเทียบ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุได้ 

'หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ' ผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ตลอดเวลาอันยาวนานหลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ได้ทำคุณประโยชน์ต่อวงการพระพุทธศาสนาอย่างมหาศาล

หลวงพ่อเป็นพระสงฆ์รูปแรกที่ปฏิรูปพิธีกรรมทางศาสนาของชาวไทยที่ประกอบพิธีกรรมหรูหรา ฟุ่มเฟือย โดยเปลี่ยนเป็นประหยัด มีประโยชน์และเรียบง่าย เพื่อรณรงค์ให้ชาวพุทธไทยได้เป็นชาวพุทธที่แท้จริง ให้ละทิ้งจากความเชื่องมงาย ตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง

หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ นามเดิม ปั่น เสน่ห์เจริญ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11พฤษภาคม พ.ศ. 2454 ณ ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ พ.ศ.2472 ศึกษาพระปริยัติธรรมจนจบชั้น น.ธ.เอก อุปสมบทเมื่อ พ.ศ.2474 ณ วัดนางลาด ต.เขาเจียก อ.เมือง จ.พัทลุง ได้รับฉายาว่า "ปัญญานันทะ"

จากนั้นศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีจนสอบได้ชั้น ป.ธ.4 และเริ่มงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจังด้วยการเทศน์ นอกจากนี้ หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ได้ร่วมเป็นสหายธรรมกับพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) 

'หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ' ผู้อุทิศชีวิตให้กับการเผยแผ่ศาสนาจนวาระสุดท้ายของชีวิต

โดยเมื่อปี พ.ศ. 2477 หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ได้เดินทางไปจำพรรษากับพระธรรมโกศาจารย์ (พุทธทาสภิกขุ) ที่สวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และร่วมเป็นสหายธรรมดำเนินการเผยแพร่หลักธรรมที่แท้จริงตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา 

ปี 2503 หลวงพ่อปัญญา นันทภิกขุ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส "วัดชลประทานรังสฤษดิ์"อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และเป็นองค์อุปถัมภ์วัดปัญญานันทาราม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พระพรหมมังคลาจารย์ หรือหลวงพ่อปัญญา ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2550 ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลา 09.09 น. ด้วยเหตุติดเชื้อในกระแสโลหิต สิริอายุได้ 96 ปี 5 เดือน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานโกศแปดเหลี่ยมและรับศพไว้ในพระราชานุเคราะห์ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2560 มีพิธีสลายสรีระสังขาร พระราชทานเพลิง ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จังหวัดนนทบุรี


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://news.voicetv.co.th/thailand/537127.html

แชร์