โรงงานผลิตความสุข (Laima) ประเทศลัตเวีย
ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนโรงงาน และพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแล็ตแห่งประเทศลัตเวีย ชื่อแบรนด์ช็อคโกแลตเป็นภาษาท้องถิ่นว่า Laima แปลว่าความสุข ดังนั้นโรงงานช็อคโกแลต Laima จึงแปลตามภาษาท้องถิ่นได้ว่าโรงงานผลิตความสุข http://winne.ws/n20397
เรื่องที่ 12: โรงงานผลิตความสุข
ไม่รู้ว่าเคยมีโอกาสได้ดูภาพยนต์เรื่อง Charlie and the chocolate factory กันบ้างไหม
ภาพยนต์กล่าวถึงเรื่องราวของเด็กชายชาร์ลี ที่ในวัยเด็ก จะต้องเดินผ่านโรงงานช็อคโกแลตของผู้ชายประหลาด ๆ คนหนึ่งชื่อ วิลลี่ วองก้า
ทุกครั้งที่เดินผ่าน เขาจะเดินช้า ๆ เชิดจมูกขึ้นไปในอากาศ และสูดลมหายใจลึก ๆ ยาว ๆ สูดกลิ่นช็อคโกแล็ตน่าอร่อยรอบตัวให้เต็มปอด โอ้.. เขาหลงรักกลิ่นนั้นจริง ๆ และเขาอยากเข้าไปในโรงงาน เพื่อดูว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไร...
วันหนึ่งเขาได้ตั๋วไปเยี่ยมชมโรงงาน ที่ได้ตั๋วไปชมโรงงานผลิตช็อคโกแลตของวิลลี่ วองก้า ซึ่งการเข้าไปชมโรงงานครั้งนั้น ได้กลายเป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับเด็กน้อย ตลอดกาล
การได้ไปเยี่ยมโรงงานผลิตช็อคโกแล็ต น่าจะเป็นความฝันของทั้งเด็ก และผู้ใหญ่หลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังมีโอกาสได้หม่ำช็อคโกแลตอร่อย ๆ ไปด้วย
เรื่องที่อยากจะเล่าให้ฟัง ก็มีอยู่ว่า ผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนโรงงาน และพิพิธภัณฑ์ช็อคโกแล็ตแห่งประเทศลัตเวีย ชื่อแบรนด์ช็อคโกแลตเป็นภาษาท้องถิ่นว่า Laima แปลว่าความสุข ดังนั้นโรงงานช็อคโกแลต Laima จึงแปลตามภาษาท้องถิ่นได้ว่าโรงงานผลิตความสุข
ใครมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนพิพิธภัณฑ์ Laima จะมีโอกาสลองทำช็อคโกแลตใน workshop กันสด ๆ ด้วย ซึ่งจะสามารถใส่ของที่ชอบได้เต็มที่ ชอบถั่วใส่ถั่ว ชอบสตอเบอรี่ก็ใส่สตอเบอรี่ ลองโน่น ลองนี่ ทำไปชิมไป เพลิดเพลินจนอยากจะอยู่ตรงนั้นกันทั้งวัน
และยิ่งไปกว่านั้น พิพิธภัณฑ์ยังตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นช็อคโกแลต ตั้งแต่ทางประตูทางเข้าไปจนถึงห้อง workshop กลิ่นหอมฟุ้งฟินเว่อร์มาก ๆ
ผู้เขียนได้มีโอกาสถามเจ้าหน้าที่ว่า ความสุขที่ได้จากการดมกลิ่นช็อคโกแลตหอม ๆ ทั้งวันแบบนี้เคยเปลี่ยนแปลงไปบ้างไหม จากวันที่เริ่มมาทำงานใหม่ ๆ
เจ้าหน้าที่ตอบว่า การทำงานในโรงงานผลิตช็อคโกแลต ถือเป็นความฝันของตั้งแต่สมัยเด็ก เพราะตั้งแต่เล็กบ้านก็อยู่ใกล้โรงงานอยู่แล้ว เวลาไปโรงเรียนทีไรก็จะมีความสุขทุกครั้งที่ได้สูดเอากลิ่นช็อคโกแลตสด เข้าไปให้ฉ่ำปอด ... เอ๊ะ ฟังดูคุ้น ๆ ไหม
แต่เรื่องมาทำงานที่โรงงาน กลิ่นช็อคโกแลตกลับกลายเป็นความคุ้นเคย ที่ไม่ได้กระตุ้นเร้าอารมณ์ให้เกิดความสุขเท่าเดิมอีกต่อไป
เมื่อมาลองนึกถึงเรื่องใกล้ ๆ ตัว ความสุขที่ได้จากสุขสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส นั้นมันแปรผันตรงกับความตื่นเต้นจริง ๆ
ยกตัวอย่างเรื่องเพลง เพลงที่เราชอบ หากลองได้ฟังต่อ ๆ กันสักสิบรอบ ความสุขที่ได้ในรอบที่สิบกลับไม่เท่ากับการฟังรอบแรก
อาหารโปรดของเรา แม้จะโปรดแค่ไหน หากทานต่อ ๆ กันทุกวัน ใจเราก็จะดิ้นรนไปหาอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ทานอยู่ดี
เว้นระยะไปสักช่วงหนึ่ง กลับมาหาสิ่งเดิม ๆ จึงจะรู้สึกถึงระดับความสุขที่ใกล้เคียงกับวันแรก ๆ ที่ได้สัมผัส
แปลว่าความสุขที่ได้จากสัมผัสทั้งห้านี้ มันเข้าไปยึดพื้นที่ในใจถาวรไม่ได้หรือ
หรือว่ามันมีอะไรในใจเรา ที่คอยดีดความสุขเหล่านี้ออกมากันแน่ ให้เราไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่มี ชอบเปรียบเทียบ ชอบดิ้นรนเอาความสุขจากภายนอก มาแปะ ๆ เพื่อปกปิดความทุกข์ ที่เกิดจากปัญหาที่ถูกซ่อนเร้นอยู่ภายในใจ
ปัญหาบางอย่างมันก็ไม่ได้แก้กันง่าย ๆ ความใจร้อน และมักง่าย ก็มีส่วนทำให้คนส่วนใหญ่ชอบหยิบจับอะไรแบบฉาบฉวย หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า quick fix เพื่อจะปิด ๆ ให้ลืม ๆ ความทุกข์ที่มีอยู่ได้ แต่ถ้าปัญหานั้นไม่ได้ถูกแก้จริงจัง เอาสุขสัมผัสมาปกปิด จนหนาแค่ไหน ก็ไร้ประโยชน์
กับอีกเรื่องก็คึอความไม่รู้ คือไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริง จะไปหาเจอได้ทีไหนนี่แหละ ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้เลยว่า ความสุขที่แท้จริงนั้น มันอยู่ภายในตัวของเรานี่เอง
ความไม่พอใจ ความใจร้อนมักง่าย กับความไม่รู้ สามอย่างนี่แหละ วายร้ายตัวจริงและมันซ่อนอยู่ในโรงงานผลิตความสุขของทุกคนด้วยน่ะสิ
LP John
ธนิสฺสโรภิกขุ
พฤศจิกายน 2560
เมืองริก้า ประเทศลัตเวีย