. ปิปผลิมาณพกับภัททกาปิลานี

.   ปิปผลิมาณพกับภัททกาปิลานี #รักเกื้อกูลของผู้มีอุดมการณ์

 สองหนุ่มสาวผู้เห็นทุกข์ภัยแห่งการครองเรือนจึง #ไม่ปรารถนาที่จะแต่งงาน แต่อยากออกบวชเพื่อแสวงหาความสุขที่แท้จริง แต่ด้วยหน้าที่ของบุตรและด้วยความกตัญญูทำให้ทั้งคู่ต้องแต่งงานกัน ในด้านการครองเรือนทั้งคู่ทำหน้าที่สามีภรรยาไม่ได้ขาดตกบกพร่อง ยกเว้นเรื่องสัมพันธ์ทางกายที่ตกลงกันได้ว่า จะไม่มีอะไรกันฉันสามีภรรยา เพราะต่างปรารถนาที่จะออกบวชเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม รักของทั้งคู่จึงเป็นรักที่เกื้อกูลประคับประคองให้ต่างก็สมหวังในอุดมการณ์ที่ตั้งไว้

ปิปผลิมาณพและนางภัททกาปิลานี ต่างเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์มหาศาลในแคว้นมคธ แต่อยู่ต่างเมืองกัน ถือว่ามีฐานะชาติตระกูลที่สมกัน

    #เรื่องราวของพวกเขามีอยู่ว่า ทั้งปิปผลิมาณพและนางภัททกาปิลานี ต่างเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ในแคว้นมคธ แต่อยู่ต่างเมืองกัน ถือว่ามีฐานะชาติตระกูลที่สมกัน เมื่อเติบใหญ่ได้วัยที่ควรมีคู่ครอง พ่อแม่ของปิปผลิมาณพก็เคี่ยวเข็ญให้ลูกชายเลือกคู่ครอง เมื่อทนรบเร้าไม่ไหว ปิปผลิมาณพ #จึงให้ช่างทองปั้นรูปหญิงงาม

ที่เขาคิดว่าไม่น่ามีตัวตนอยู่จริงขึ้นเพื่อต่อรองว่า เขาจะแต่งงานกับผู้หญิงที่สวยอย่างในรูปปั้นนี้เท่านั้น ฝ่ายพ่อแม่ก็ให้บริวารของตนเอารูปทองคำนั้นตระเวนไปทั่วเพื่อหาหญิงงามนั้น

    #ปรากฏว่าหญิงงามนั้นมีตัวตนจริง คือนางภัททกาปิลานี บริวารเศรษฐีจึงสู่ขอและมอบรูปปั้นทองคำนั้นเป็นของหมั้น ซึ่งพ่อแม่ของนางก็เห็นชอบด้วย เมื่อไม่มีทางบ่ายเบี่ยงทั้งคู่ก็พยายามที่จะบอกความต้องการของตนแก่กัน แต่ไม่สำเร็จเพราะถูกแปลงข้อความในจดหมาย พิธีแต่งงานระหว่างทั้งสองจึงเกิดขึ้น

ปิปผลิมาณพกับภัททกาปิลานี ทั้งสองตกลงกันจะไม่มีความสัพันธ์ทางกาย โดยใช้พวงมาลัยคั่นกลางระหว่างทั้งสอง

#เมื่อได้พบหน้าในคืนวันแต่งงาน ทั้งคู่ได้พูดคุยบอกความปราถนาของตนแก่กัน และตกลงกันว่า #จะอยู่กันฉันพี่น้อง นอนเตียงเดียวกันแต่มีดอกไม้คั่นกลางไว้ ถ้าผู้ใดมีจิตปราถนาในกายกันหากใครคิดไม่ซื่อก็ขอให้ดอกไม้นั้นแห้งเหี่ยว ทั้งคู่ดำรงชีวิตเช่นนี้จนพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายตายจากไป จึงได้บริจาคทรัพย์ของตนแล้วออกบวชเดินทางแสวงหาความสุขตามอุดมการณ์ที่ตั้งใจไว้ ทั้งคู่เดินแยกกันไปคนละทางและต่างก็สมปราถนา ฝ่ายหนึ่งนั้นพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้บวชและบรรลุธรรมเป็นพระสงฆ์ที่ทรงคุณในพระพุทธศาสนานามว่า พระมหากัสสปะส่วนนางภัททกาปิลานีได้บวชในสำนักภิกษุณีของพระนางปชาบดีโคตมี เป็นพระเถรีผู้เลิศในด้านปุพเพนิวาสานุสสติญาณ

ทั้งคู่ได้ออกบวชในพระพุธศาสนา

หลังบิดามารดาของทั้งคู่เสียชีวิต ทั้งสองก็ออกบวชตามที่ตั้งใจไว้

เมื่อท่านทั้งสองบวชแล้วก็ได้แยกทางกัน แผ่นดินแม้หนาสักเพียงใดก็ยังหวั่นไหวเพราะการตัดสินใจอันน่าอัศจรรย์ของท่านทั้งสอง

    #คู่รักที่มีความรัก ความชอบ ความเชื่อไปในแนวทางเดียวกัน มีศรัทธาและอุดมการณ์คล้ายๆกัน จะเข้าใจในกันและกันได้ง่าย ถ้าเชื่อในสิ่งที่ดีและชักชวนกันทำความดี ชีวิตคู่ก็จะราบรื่น เกื้อหนุนเกื้อกูลกัน พาให้พบแต่ความเจริญ ชีวิตก็จะเป็นสุขทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://timeline.line.me/post/_dSbE3tpm50PfJdKs7whP4xSd22rRnSMfFxxBUBg/1151087682608078540

www.dmc.tv

www.google.co.th