ถ้าวันนี้!! ผมขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรมเท่านั้น ถูกต้องหรือไม่?

ท่ามกลางกระแสข่าวของสื่อมวลชนที่โหมจากหลายทาง ข่าวพระบางรูปในทางเสื่อมเสียได้สั่นสะเทือนใจพุทธศาสนิกชน แต่หารู้ไม่ว่า ความจริงที่เราไม่เคยรู้นั้นคืออะไร? http://winne.ws/n20989

1.3 พัน ผู้เข้าชม
ถ้าวันนี้!! ผมขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรมเท่านั้น ถูกต้องหรือไม่?

ถาม : พระเดี๋ยวนี้ทำตัวไม่น่ากราบ ไม่น่าไหว้ ไม่น่าเลื่อมใส ผมจะขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรม เลิกนับถือพระสงฆ์จะได้ไหมครับ ?

หลวงพ่อตอบ : การที่คนใดคนหนึ่งจะสามารถนับถือพระธรรมได้ มีข้อแม้สำคัญอยู่อย่างหนึ่งว่า 

       ผู้นั้นจะต้องเป็นบุคคลประเภทที่ว่า "ไม่ชอบจับผิดคนอื่น แต่พยายามแสวงหาความดีที่มีอยู่ในตัวของบุคคลอื่นให้พบตามความเป็นจริง"

        คำถามของคุณที่ถามว่าจะเลิกนับถือพระสงฆ์ จะเคารพแต่พระพุทธกับพระธรรมเท่านั้นจะได้ไหม 

      ตอบว่าไม่ได้ เพราะที่คุณบอกว่าพระสงฆ์ไม่ค่อยจะดีอย่างนั้นอย่างนี้มันฟ้องว่า คุณเองมีนิสัยชอบจับผิดคนอื่น ขาดความสังเกตที่ดี และสรุปอะไรง่ายเกินไป 

         พระสงฆ์ทั่วเมืองไทยมีตั้ง ๒ -๓ แสนรูป คุณเองรู้จักพระสงฆ์สักกี่รูปเชียว อย่างมากหลวงพ่อให้คุณสัก ๑,๐๐๐ รูป ถ้าคุณเห็นพระสงฆ์ที่ไม่ดีมา ๑,๐๐๐ รูป แล้วอีกตั้ง ๓ แสนที่ดีๆ จะว่าอย่างไร ?

       คุณมีนิสัยจับผิดอย่างนี้ชาตินี้หาพระดีๆไม่พบหรอก คุณปิดใจจนใจบอดไปเองหลวงพ่อว่าคุณควรฝึกการมองเสียใหม่

        มองเข้าไปในวัด แล้วทำใจให้เหมือนมองเข้าไปในสถาบันการศึกษาทางโลก คุณจะพบว่าในสถาบันการศึกษาทางโลกมีคนอยู่ ๒ ประเภทได้แก่ 

        ประเภทที่ ๑ คือ นักเรียนซึ่งเข้ามาศึกษาหาความรู้

       ประเภทที่ ๒ คือ ครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นผู้สอน 

        นักเรียนที่เข้ามาหาความรู้ในสถาบันการศึกษา โอกาสที่เขาจะประพฤติผิด วางตัวไม่ถูกต้อง มีไหม?  แน่นอนมีมากมาย แล้วเราถือสา หาความกับนักศึกษาเหล่านั้นหรือเปล่า ?

       เปล่า เพราะเราถือว่า เขาเพิ่งก้าวเข้ามาศึกษาหาความรู้จะทำความผิดพลาดล่วงเกินอะไรไปบ้าง เราก็ให้อภัยกัน

      แต่ว่าคนประเภทที่ ๒ ระดับครูบาอาจารย์ ถ้ามีข้อบกพร่อง เรามักตำหนิกัน

      ในวัดวาอารามทุกแห่งในประเทศไทย ความจริงพระในวัดก็เหมือนคนในสถาบันการศึกษาทางโลก คือพระก็มี ๒ ประเภท

       ประเภทที่ ๑  คือพระนักเรียน ท่านเพิ่งเข้ามาหาความรู้ บางทีเพิ่งบวชได้วันสองวัน เดือนสองเดือน ปีสองปี หรือพรรษาสองพรรษาเท่านั้น 

       แน่นอน ท่านยังใหม่อยู่ในธรรมวินัย เพราะฉะนั้นท่านก็มีข้อที่ประพฤติปฏิบัติผิดพลาดบ้าง นี้เป็นธรรมดาก็เป็นพระนักเรียน จะเอาอะไรกันนักกันหนา

         ประเภทที่ ๒ คือ พระที่เป็นครูบาอาจารย์ ท่านเหล่านี้เป็นหลักของวัดอยู่ทุกวัดในเมืองไทย มีรวมกันเป็นแสนรูปนะ แล้วท่านก็ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรม 

        ถ้าท่านเหล่านี้ไม่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมต่อเนื่องกันมา นับตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดกันล่ะก็ ป่านนี้วัดก็ร้าง พระพุทธศาสนาก็ล้มไปแล้ว ไม่มาถึงพวกเราหรอก

       แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตอยู่อย่างหนึ่ง พระอาจารย์ที่มีความรู้ดีมีความประพฤติดีเหล่านี้ ส่วนมากท่านก็มีภารกิจเต็มที่ แล้วก็ไม่ใช่วิสัยของพระที่จะมาโฆษณาว่าตนเองดีอย่างไร 

       ท่านเหล่านี้บางท่านก็ก้มหน้าก้มตาประพฤติปฏิบัติธรรมของท่านไป บางท่านก็เดินธุดงค์เข้าป่าไปเลย นานๆจะออกมาทีหนึ่ง บางท่านก็อยู่ในบ้านในเมืองอย่างพวกเรานี่แหละ 

        นอกจากตั้งใจอบรมตัวเองแล้ว ท่านยังตั้งใจอบรมบ่มนิสัยให้ลูกศิษย์ลูกหาของท่านอย่างเต็มที่ แล้วท่านก็ไม่เคยมาโฆษณา ไม่เคยมาป่าวประกาศออกหน้าหนังสือพิมพ์หน้าจอทีวีว่าท่านวิเศษอย่างนั้น วิเศษอย่างนี้ เพราะว่าท่านเหล่านั้นเปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม 

      เข้าทำนองว่า น้ำเต็มขวด เขย่าไม่ดัง หมายความว่าผู้มีคุณธรรมเต็มเปี่ยมย่อมไม่คุยโวโอ้อวด

      ในสถาบันการศึกษาทางโลก การแต่งตัวและอายุของผู้ที่เรามองเข้าไปเห็น พอจะแยกออกได้เลยว่า นี่คือครูบาอาจารย์ แต่ในวัดแยกแยะไม่ออก เพราะพระทุกรูปนุ่งสบงห่มจีวรเหมือนกัน

        เพราะฉะนั้น การที่คุณเห็นพระจำนวนน้อยๆ ไม่กี่รูปเช่น ๕ รูปหรือ ๑๐ รูป อย่างดีก็ไม่เกิน ๑,๐๐๐ รูป ที่มีความประพฤติเสียหาย แล้วคุณก็ตัดสินว่าจะเลิกนับถือพระสงฆ์ ทั่วทั้งสังฆมณฑล ซึ่งมีอยู่ตั้งเป็นแสนๆน่ะ ขอให้ไปพิจารณาตัวเองใหม่ว่า ทำถูกไหม?

ถ้าวันนี้!! ผมขอนับถือแค่พระพุทธกับพระธรรมเท่านั้น ถูกต้องหรือไม่?ภาพ : วัดป่ามหาชัย

    เอาอย่างนี้ก็แล้วกันหลวงพ่ออยากให้คุณทำใจอย่างนี้ เวลาจะทำบุญกับพระภิกษุ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นพระนักศึกษาหรือว่าเป็นพระครูบาอาจารย์ หรือมีคุณธรรมมากน้อยเท่าใด คุณก็วางใจเสียอย่างนี้ว่า 

       ตราบใดที่พระท่านยังไม่ได้ทำความผิดทางพระวินัยร้ายแรงอะไร ก็คิดว่าเราทำทานเพื่อให้เป็นเรี่ยวแรงในการปฏิบัติธรรมของท่านให้ยิ่งๆขึ้นไป จะได้เป็นเนื้อนาบุญที่สมบูรณ์ในวันข้างหน้า

        วันใดที่ได้พบพระภิกษุที่ท่านสำรวมดี ก็ตั้งใจทำบุญกับท่านให้เต็มที่ เพื่อให้ได้รับผลบุญเต็มเปี่ยม

       หากได้ข่าวว่าพระภิกษุรูปใดที่มีความประพฤติดีงาม มีศีลาจารวัตรน่าเลื่อมใส แม้ท่านจะอยู่ไกล ก็ดั้นด้นไปหาไปกราบท่านเถิด แล้วคุณก็จะได้เนื้อนาบุญที่สมใจนึก

      ถ้าขนาดนี้ยังหาไม่ได้อีก ก็ทำใจเย็นๆ ตั้งหน้าตั้งตาประพฤติธรรมไป

      เปิดใจให้กว้าง แล้ววันหนึ่งคุณก็จะพบพระที่ถูกอัธยาศัยเป็นเนื้อนาบุญของคุณอย่างแท้จริง อย่าด่วนตัดสิน เหลือความเคารพแต่พระพุทธและพระธรรมเท่านั้น

       ต้องเคารพให้ครบไตรสรณคมน์ คือ เคารพพระรัตนตรัยเถอะ แล้วคุณจะเอาตัวรอดทั้งชาตินี้และชาติหน้า แล้วสามารถพาตัวไปถึงพระนิพพานเชียวนะ

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

lifE&soul

www.google.co.th

แชร์