ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจอมมุนี ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส ไปปราบนันโทปนันทนาคราช ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้แสดงฤทธิ์ ทรมานให้สิ้นฤทธิ์ ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงเกิดมีแก่ท่าน http://winne.ws/n21037

2.4 พัน ผู้เข้าชม

ในชัยมังคลกถาบทที่ ๗ พระโบราณาจารย์ได้รจนาไว้ว่า

    " นนฺโทปนนฺทภุชคํ  วิพุธํ  มหิทฺธึ

      ปุตฺเตน  เถรภุชเคน  ทมาปยนฺโต

      อิทฺธูปเทสวิธินา  ชิตวา  มุนินฺโท

      ตนฺเตชสา  ภวตุ  เต  ชยมงฺคลานิ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจอมมุนี ทรงโปรดให้พระโมคคัลลานเถระพุทธชิโนรส ไปปราบนันโทปนันทนาคราช ผู้มีความรู้ผิด มีฤทธิ์มาก ด้วยวิธีให้แสดงฤทธิ์ ทรมานให้สิ้นฤทธิ์ ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลาย จงเกิดมีแก่ท่าน "



พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา นอกจากจะเป็นบรมครูของมนุษย์แล้ว ยังสามารถเทศนาสั่งสอนอมนุษย์ นาค ยักษ์ เทวดา และพรหมให้ได้บรรลุธรรมตามพระพุทธองค์ด้วย แม้พญานาคที่มีฤทธานุภาพมาก เหาะเหินเดินอากาศได้ แต่ก็ไม่อาจจะเทียบพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณของพระพุทธเจ้าได้  คำว่า ศาสดาเอกของโลก คือ สุดยอดผู้แนะนำสั่งสอนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด เก่งที่สุด เลิศที่สุด เพราะทรงสอนให้สรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าหลุดพ้นจากทุกข์ได้ สามารถเข้าถึงความสุขอันเป็นอมตะได้

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช

 

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งอยู่ที่วิหารเชตวัน ทรงเข้ามหากรุณาสมาบัติ แผ่ข่ายพระญาณไปทั่วหมื่นโลกธาตุในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นนันโทปนันทนาคราชเข้ามาในข่ายพระญาณ พระองค์รู้ว่าพญานาคนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิและดุร้ายนัก เพราะเคยสั่งสมบุญไว้ในปางก่อน จึงมีฤทธิ์มาก หากพระองค์เสด็จไปโปรดก็จะหันมานับถือพระศาสนา ทั้งจะได้อุปนิสัยอันเป็นปัจจัยที่จะทำให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ในชาติต่อๆ ไป

    รุ่งขึ้น ก่อนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จไปรับภัตตาหารที่บ้านของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ทรงรับสั่งให้พระอานนท์แจ้งเหล่าภิกษุสงฆ์ว่า พระองค์จะเสด็จจาริกไปในเทวโลก ก่อนที่จะไปฉันที่บ้านของท่านมหาเศรษฐี บรรดาพระมหาสาวกต่างพาบริวารของตน ที่มีอภิญญาสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ประมาณ ๕๐๐ รูป มาคอยรับเสด็จ เพื่อติดตามไปสู่เทวโลก

    ขณะนั้นพญานาคชื่อนันโทปนันทะ เนรมิตกายประดุจเทพเจ้าบนสวรรค์นั่งอยู่บนรัตนบัลลังก์ เสวยทิพยสมบัติด้วยความสำราญ ครั้นเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้ากับพระสาวกจำนวนมากเหาะมา ก็โกรธตามประสาผู้มีทิฏฐิมานะว่า "สมณะเหล่านี้ เห็นทีจะไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อไปก็ต้องเหาะข้ามหัวเรา ฝุ่นละอองที่ติดเท้าก็จะร่วงหล่นใส่บนกระหม่อมเรา เราจักไม่ยอมให้พวกสมณะเหล่านี้ทำเช่นนี้อีก" คิดแล้วก็ลุกขึ้นไปยังเชิงเขาสิเนรุ ปาฏิหาริย์กายให้ใหญ่ เอาหางรัดเขาพระสุเนรุซึ่งสูงประมาณ ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ไว้ถึง ๗ รอบ ใช้พังพานปิดภพดาวดึงส์ บันดาลให้เกิดหมอกควันกลบไปทั้งภพทำให้มองไม่เห็น

    พระรัฐบาลเถระเห็นความผิดปกตินั้นจึงทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า "พระพุทธเจ้าข้า เมื่อก่อนพวกข้าพระองค์มายืนอยู่ตรงนี้ สามารถเห็นภูเขาที่อยู่ล้อมภูเขาสิเนรุ เห็นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์และเวชยันตปราสาท อีกทั้งเห็นธงเบื้องบนเวชยันตปราสาท แต่มาบัดนี้ กลับไม่เห็นอะไรเลย เป็นเพราะเหตุไรพระเจ้าข้า"  เมื่อรู้ว่าพญานาคผู้มีอานุภาพเป็นผู้บันดาลฤทธิ์มาขัดขวางหนทางพระพุทธเจ้า พระเถระรีบอาสาที่จะไปปราบพญานาค เพื่อให้รู้จักคุณของพระบรมศาสดา

    พระพุทธองค์ตรัสห้ามพระเถระ พระอรหันต์รูปอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพระภัททิยะ พระราหุล ต่างทูลอาสาที่จะไปปราบพญานาค พระพุทธองค์ก็ทรงห้ามไว้เช่นกัน เพราะรู้ว่าไม่ใช่วิสัยของพระอรหันต์รูปอื่นๆ ที่จะทำลายทิฏฐิมานะของพญานาคผู้มีฤทธานุภาพมาก ครั้นพระมหาโมคคัลลานะทูลอาสา จึงทรงอนุญาต ทั้งทรงประทานพรให้มีชัยชนะแก่พญานาคด้วย

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช

เมื่อพระมหาเถระได้รับพุทธานุญาตแล้ว ได้เนรมิตเป็นพญานาคที่มีกายใหญ่กว่านันโทปนันทนาคราชถึง ๒ เท่า แล้วรัดกายของพญานาคราชให้อัดแน่นกับเขาสุเนรุ มิให้เคลื่อนไหวได้ พญานาคราชถูกรัดจนกระดูกแทบจะแตก ก็โกรธมาก ได้บังหวนควันพุ่งใส่พระเถระเต็มที่ พระเถระเข้าวาโยธาตุ บันดาลให้ควันเกิดขึ้นมากยิ่งกว่า พญานาคจึงทำอันตรายพระเถระไม่ได้

    พญานาคขัดเคืองมาก ได้พ่นเปลวไฟอันร้อนแรงเข้าใส่อีก พระเถระเข้าเตโชกสิณเนรมิตไฟที่ร้อนแรงกว่าต้านทาน ไฟของพญานาคไม่อาจระคายเคืองผิวของพระเถระ แต่พญานาคกลับถูกไฟของพระเถระเผาลนปางตาย พญานาคคิดว่า สมณะรูปนี้ชื่ออะไรหนอ ทำไมจึงมีฤทธิ์มากเช่นนี้ 

พระเถระรู้ความในใจของพญานาค จึงบอกว่าเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า พญานาคหาเรื่องอีกว่า "ท่านเป็นสมณะ ทำไมจึงมาทำร้ายข้าพเจ้า การกระทำของท่านมิควรแก่สมณะเลย"

    พระเถระตอบว่า "เรานี้ไม่ได้ลงโทษท่านเพราะความโกรธ แต่ที่ทรมานท่าน ด้วยหวังจะให้ท่านละความเห็นผิด ตั้งอยู่ในทางของพระอริยเจ้า ท่านอย่าโกรธเราเลย" จากนั้นพระเถระได้กลับร่างเป็นสมณะเช่นเดิม พลางสอนว่า "ท่านเป็นเดรัจฉาน มีความประมาท มิรู้จักบาปบุญคุณโทษ ไม่รู้จักคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ตลอดจนมารดาบิดา ครูอาจารย์ ควรหรือที่ท่านจะมาสำแดงความโกรธในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระสาวกผู้มีคุณมาก แม้ละอองพระบาทจะตกลงมาเหนือเศียรของท่าน สิ่งนั้นก็เป็นมหามงคลยิ่งนัก หาเป็นอัปมงคลไม่"

    จากนั้นพระเถระชี้ให้เห็นอานิสงส์ของการบูชาพระพุทธองค์ว่า "ผู้ที่บังเกิดขึ้นมาในโลกนี้ ยากนักที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า บางคนเกิดมาหลายอสงไขยชาติก็มิได้พบ อย่าว่าแต่การได้พบพระองค์เลย แม้แต่รอยพระบาทก็ยากจะได้เห็น ดังนั้นผู้ใดมีความเลื่อมใสในพระองค์ จะได้ผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ ได้เสวยทิพยสมบัติในเทวโลกชั้นใดชั้นหนึ่งใน ๖ ชั้น เพราะพระพุทธเจ้ามีคุณไม่มีประมาณ พุทธคุณของพระองค์มากมายเกินกว่าจะพรรณนาได้หมด ท่านเป็นสัตว์เดียรัจฉานในกำเนิดชั้นต่ำ ถ้าไม่รีบกลับใจ ก็มีแต่จะต้องตกไปในอบายอย่างเดียวเท่านั้น"

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช

 

    พระเถระรู้วาระจิตของพญานาคว่า ยังไม่ยอมจำนน ท่านคิดจะทรมานให้หนักยิ่งขึ้นไปอีก จึงเข้าไปทางช่องหูขวาของพญานาค แล้วออกทางช่องหูซ้าย เข้าไปทางช่องหูซ้ายออกทางช่องหูขวา เข้าทางช่องจมูกขวาออกทางช่องจมูกซ้าย เข้าทางช่องจมูกซ้ายออกทางช่องจมูกขวา 

     พญานาคถูกทรมานเช่นนั้น เกิดทุกขเวทนาอย่างมาก คิดหาอุบายว่า "ในนาคพิภพไม่มีใครต่อกรกับเราได้ แต่สมณะรูปนี้กลับทรมานเราจนเหลือจะทน เห็นทีจะต้องล่อหลอกให้สมณะนี้เข้าไปในปาก เราจะได้เคี้ยวกินให้แหลกลาญไปเลย" คิดดังนั้นก็ทำทีเป็นร้องทุกข์กับพระเถระว่า "ข้าแต่พระคุณเจ้า ธรรมดาว่าสมณะย่อมมีแต่เมตตากรุณา ทำแต่สิ่งที่ชอบธรรมมิใช่หรือ แต่นี่ท่านมาแกล้งทรมานข้าพเจ้าให้เป็นทุกข์เหลือประมาณ" 

    จากนั้น พญานาคอ้าปากแยกเขี้ยวเข้าใส่พระเถระหมายจะขบกัด พระเถระไม่ได้สะทกสะท้าน ทั้งในคำขู่ คำกล่าวหา และอาการดุร้ายใดๆ กลับบอกว่า "การที่เราทรมานท่านนั้น ก็เพราะหวังจะให้ท่านสำนึกผิด มีศรัทธาในพระพุทธเจ้า จะได้เป็นอุปนิสัยไปในภพเบื้องหน้า ใช่ว่าจะเกลียดชังท่าน ก็หามิได้

    จากนั้นท่านได้ปาฏิหาริย์กายให้เล็กลง เหาะเข้าไปในปากของพญานาค เข้าไปเดินจงกรมอยู่ในท้องของพญานาค ทำให้พญานาคเจ็บปวดทรมาน กระสับกระส่ายไปมา แต่ในใจยังไม่ยอมจำนนอยู่นั่นเอง

    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้ด้วยพระญาณว่า "บัดนี้พญานาคแกล้งยอมแพ้โมคคัลลานบุตรของเรา แต่นาคตนนี้ เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก คิดจะเข่นฆ่าในขณะที่ท่านเผลอ" ทรงเปล่งโอภาสอยู่บนนภากาศ ตรัสเตือนพระเถระว่า "พญานาคตัวนี้ มีฤทธิ์ยิ่งนัก ท่านจงมนสิการให้ดี อย่าได้ประมาท" พระมหาโมคคัลลานะทูลว่า "พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าบำเพ็ญอิทธิบาท ๔ มิได้เกียจคร้าน ทำจนชำนาญปรารภอยู่มิได้ขาด ย่อมไม่หวั่นไหวต่อพญานาค  ตนนี้"

    พญานาคแกล้งทำเป็นขอร้องว่า "ขอพระคุณเจ้าอย่าได้เบียดเบียนข้าพเจ้าเลย จงออกจากท้องของข้าพเจ้าเถิด" พระเถระทราบความประสงค์ของพญานาค จึงเหาะออกมานั่งอยู่ข้างนอก พญานาคยังไม่สิ้นพยศ คิดจะระบายลมออกทางจมูกให้แรงที่สุดเพื่อทำลายพระมหาโมคคัลลานะให้ได้ 

     พระเถระรู้วาระจิตของนาคราช ได้เข้าจตุตถฌานรักษาตนมิให้เป็นอันตราย ลมที่เร่าร้อนนั้นไม่อาจทำความระคายผิว หรือเส้นขนของท่านได้ ซึ่งพระอรหันต์รูปอื่นอาจจะทำปาฏิหาริย์ได้ แต่การเข้าออกจตุตถฌานที่แคล่วคล่องไม่ติดขัดเช่นพระโมคคัลลานเถระ ไม่ใช่ทำได้ง่าย นี่จึงเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่พระพุทธองค์ทรงอนุญาตเฉพาะพระโมคคัลลานเถระเท่านั้น

   พญานาคไม่อาจทำอันตรายใดๆ พระเถระ ทั้งพระเถระก็มิได้หวาดกลัวแต่อย่างใด พญานาคจึงเกิดความหวั่นไหว เพราะมองไม่เห็นวิธีการที่จะต่อสู้กับพระเถระ คิดว่า "สมณะรูปนี้มีฤทธิ์มากกว่าเรา ถ้าขืนสู้ต่อไป เราจะได้รับแต่ความเจ็บปวด อาจถึงตายเป็นแน่ จำเราจะต้องรีบหนีไปก่อน ไม่ยอมให้สมณะรูปนี้ทรมานได้อีกต่อไป"

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช

 

พระเถระล่วงรู้ความคิดนั้น จึงเนรมิตกายให้เป็นพญาครุฑใหญ่บินติดตามไป พญานาครีบแปลงกายเป็นสัตว์ชนิดต่างๆ ใหญ่บ้าง เล็กบ้างหนีไป พระเถระก็ติดตามมิได้ลดละ เมื่อพญานาคเห็นว่าหนีไม่พ้น จึงแปลงกายเป็นมาณพน้อยเข้าไปกราบแทบเท้าของพระเถระ พลางกล่าวว่า "ข้าพเจ้าขอยอมแพ้แล้ว ข้าพเจ้าเป็นผู้มีความเห็นผิด มีใจบาปหยาบช้า มิได้เห็นประโยชน์ที่จะเกิดแก่ตน เมื่อมาพบพระคุณเจ้า ก็มิได้ถวายอภิวาท ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด"

    พระเถระกล่าวว่า "เราเป็นสาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของเรา เพราะฉะนั้นท่านจงไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อยึดพระพุทธองค์เป็นสรณะเถิด" จากนั้นพระเถระได้พาพญานาคไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พลางกราบทูลว่า "ข้าพระองค์สำนึกผิดแล้ว แต่ก่อนข้าพระองค์เป็นพาลมิได้รู้จักบาปบุญคุณโทษ ขอพระองค์ได้โปรดอโหสิกรรมในความผิดที่ได้พลั้งพลาดเพราะอกุศลเข้าสิงจิตด้วยเถิด บัดนี้ ข้าพระองค์รู้ชัดแล้วว่า พระองค์เป็นประมุข เป็นนาบุญของโลก จำเดิมแต่วันนี้ไป ข้าพระองค์ขอสละรูปกายบูชาพระรัตนตรัยตราบชีวิตจะหาไม่"

    เนื่องจากพระพุทธองค์ทรงมีพุทธประสงค์จะเสด็จมาโปรดพญานาคตนนี้โดยเฉพาะ จึงทรงประทานศีล ๕ ให้พญานาครักษาตลอดชีวิต และทรงแสดงธรรมให้เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสไม่คลอนแคลนในพระรัตนตรัย หลังจากนั้นทรงพิจารณาเห็นว่า ล่วงเวลาฉันเช้ามาพอสมควรแล้ว จึงทรงนำพระอริยสาวกกลับยังบ้านของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี

    ท่านเศรษฐีทูลถามว่า "เหตุใดวันนี้ พระพุทธองค์พร้อมด้วยหมู่สงฆ์ ถึงได้เสด็จมาช้ากว่าทุกวันพระเจ้าข้า" ทรงตอบว่า "ไปโปรดพญานาค โดยโมคคัลลานะได้ทำสงครามกับนันโทปนันทนาคราช" "แล้วใครแพ้ใครชนะ พระพุทธเจ้าข้า" "พญานาคเป็นผู้พ่ายแพ้ มหาโมคคัลลานะทรมานพญานาคให้เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนา" ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสดับแล้วก็ชื่นชมยินดี ทั้งเลื่อมใสต่อพระมหาเถระ และเลื่อมใสในพระพุทธเจ้ายิ่งขึ้น จึงอยากจะฉลองชัยชนะอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ กราบขออนุญาตกระทำการบูชาสักการะพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ด้วยการถวายมหาสังฆทานตลอด ๗ วัน

    จะเห็นว่า เพียงฤทธานุภาพของพระมหาสาวกก็มีมากถึงเพียงนี้ สามารถปราบพญานาคผู้มีฤทธิ์มากได้ แล้วอานุภาพของพระบรมศาสดาจะขนาดไหน เป็นอานุภาพที่ไม่มีประมาณ เพราะในโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก จะหาบุคคลผู้มีอานุภาพเสมอเหมือนพระองค์ไม่มีอีกแล้ว ในชัยมงคลคาถาจึงแสดงให้เห็นว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีชัยชนะพญานาคราชอย่างราบคาบ ทำให้พญานาคกลับตัวกลับใจเป็นสัมมาทิฏฐิบุคคลได้ จึงสมควรอย่างยิ่งที่พวกเราจะสรรเสริญพระพุทธคุณ นอบน้อมต่อพระพุทธเจ้า นอบน้อมต่อพระรัตนตรัยซึ่งมีคุณไม่มีประมาณและหมั่นเจริญสมาธิภาวนา นึกถึงพระรัตนตรัย นึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ เราจะได้เข้าถึงพุทธะภายใน คือ พระ-ธรรมกายกันทุกคน 

 

 พระธรรมเทศนาโดย: หลวงพ่อธัมมชโย (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 

 * มก. มหาโมคคัลลานเถราปทาน เล่ม ๗๐ หน้า ๕๐๗

http://buddha.dmc.tv/ธรรมะเพื่อประชาชน

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 7 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อนันโทปนันทนาคราช
แชร์