ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 8 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อพกาพรหม

พระชินสีห์ผู้เป็นจอมมุนีได้ชนะพกาพรหมผู้มีฤทธิ์ สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรือง ด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีอสรพิษคือทิฏฐิที่ตนถือผิดรัดรึงไว้ ด้วยเทศนาญาณวิธี ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงบังเกิดมีแก่ท่าน” http://winne.ws/n21141

984 ผู้เข้าชม

“ทุคฺคาหทิฏฺฐิภุชเคน สุทฏฺฐหตฺถํ

พฺรหฺมํ วิสุทฺธิชุติมิทฺธิพกาภิธานํ

ญาณาคเทน วิธินา ชิตวา มุนินฺโท

ตนฺเตชสา ภวตุ เต ชยมงฺคลานิ

 

        พระชินสีห์ผู้เป็นจอมมุนีได้ชนะพกาพรหมผู้มีฤทธิ์ สำคัญตนว่าเป็นผู้รุ่งเรือง ด้วยคุณอันบริสุทธิ์ มีอสรพิษคือทิฏฐิที่ตนถือผิดรัดรึงไว้ ด้วยเทศนาญาณวิธี ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้น ขอชัยมงคลทั้งหลายจงบังเกิดมีแก่ท่าน”

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 8 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อพกาพรหม

       ชัยชนะของพระพุทธเจ้าครั้งสุดท้าย เป็นชัยชนะที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมีชัยต่อพกาพรหม ผู้มีความยึดมั่นว่า ตนเป็นผู้มีอายุยืนที่สุด สถานที่ของพรหมนี้เที่ยงแท้ที่สุด แต่หารู้ไม่ว่า ยังถูกพญามารบังคับบัญชาได้ เรื่องนี้พระพุทธองค์ทรงเล่าให้ภิกษุสงฆ์ที่พระวิหารเชตวันฟังว่า  เมื่อครั้งที่ทรงดูวาระจิตของพกาพรหมที่เสวยสุขอันเกิดจากผลสมาบัติเป็นเวลายาวนานนั้น มีความเห็นอย่างไรบ้าง ทรงรู้ว่าพกาพรหมเป็นมิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า พรหมโลกเป็นที่เที่ยงแท้ ยั่งยืน ไม่มีการจุติ ไม่มีการเกิด เป็นที่พ้นไปจากทุกข์คือ คิดว่าพรหมโลกหลุดพ้นจากวัฏสงสารแล้ว

       เมื่อพระพุทธองค์ล่วงรู้ความคิดของพกาพรหม จึงไปปรากฏกายที่พรหมโลกทันที เสมือนบุรุษที่มีกำลังเหยียดแขนและคู้แขนในเวลาอันสั้น ก็ถึงพรหมโลกแล้ว พกาพรหมเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกล ก็ทูลว่า “ท่านผู้นิรทุกข์ นานทีเดียวหนอที่ท่านไม่ได้มาในที่นี้ ท่านผู้นิรทุกข์ พรหมสถานที่นี้เที่ยงแท้ มั่นคง ยั่งยืน ไม่เกิด ไม่ตาย เป็นที่ออกจากทุกข์ สุขที่ยิ่งกว่าพรหมสถานย่อมไม่มี” 

      พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “ดูก่อนพกาพรหม ท่านถูกอวิชชาคือความมืดครอบงำแล้วหนอ เพราะท่านกล่าวสิ่งที่ไม่เที่ยงว่าเที่ยง แท้ที่จริง ผู้ที่เกิดในพรหมโลกยังมีเกิด แก่ ตาย ไม่เที่ยง แต่ไฉนท่านจึงกล่าวว่าเที่ยง

 

        ขณะนั้นมารผู้มีใจบาปได้เข้าไปสิงพรหมปาริสัชชาผู้หนึ่ง ทำให้ตกอยู่ในอำนาจ พรหมท่านนั้นจึงกล่าวกับพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า “ดูก่อนสมณะ ขอพระองค์อย่าได้เบียดเบียนรุกรานพกาพรหม พกาพรหมนี้เป็นท้าวมหาพรหมผู้เป็นใหญ่ อันคณะพรหมทั้งหมดไม่อาจฝ่าฝืนได้ เป็นผู้ยังสรรพสัตว์ให้เป็นไปในอำนาจ เป็นผู้สร้างโลก เนรมิตโลก เป็นผู้ปรุงแต่งสัตว์ เป็นผู้ใช้อำนาจ เป็นบิดาของสรรพสัตว์ที่เกิดแล้วและกำลังจะเกิด ดูก่อนผู้เจริญ สมณพราหมณ์ก่อนๆ เป็นผู้ติเตียน ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นผู้ติเตียนเทวดา   ติเตียนพรหมว่าไม่เที่ยง  เมื่อแตกกายทำลายขันธ์ไป ต้องไปเกิดในอบายกันมากมาย ส่วนสมณพราหมณ์ ผู้สรรเสริญ ดิน น้ำ ลม ไฟ สรรเสริญเทวดา พรหม  เมื่อตายไปแล้วจะเข้าถึงพรหมโลก  เพราะฉะนั้น ท่านจงทำตามคำของพกาพรหม อย่าได้ฝ่าฝืนอำนาจเลย”

 

   

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ตอนที่ 8 พระพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อพกาพรหม

     

         เป็นเรื่องแปลกที่ มารตนนี้ มีความเพียรพยายามมาก พยายามกีดขวางพระพุทธองค์มาโดยตลอด ตั้งแต่ครั้งที่พระองค์เสด็จออกผนวช ก็ถูกพญามารตนนี้เอาสมบัติจักรพรรดิมาล่อ แต่เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนพระทัยของพระองค์ได้ ก็คอยหาทางกลั่นแกล้ง หาทางขัดขวางเส้นทางการสร้างบารมีเรื่อยมา หรือแม้พระพุทธองค์จะได้ตรัสรู้ธรรมแล้ว ก็ยังตามรังควานตลอด ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน พญามารได้เฝ้าติดตามว่า “วันนี้พระสมณโคดม  จะไปโปรดใครเราจะต้องไปขัดขวาง”

       เมื่อพญามารรู้ว่า พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ที่เมืองอุกกัฏฐะที่ป่าสุภคะ ก็สำรวจดูว่าพระองค์จะเสด็จไปที่ไหน  ครั้นรู้ว่ากำลังจะไปพรหมโลก จึงคิดว่า “พระสมณโคดมกำลังไปพรหมโลกเพื่อกลับใจของพกาพรหม เราไม่ยอมให้พกาพรหมไปสู่อำนาจของพระพุทธเจ้า และจะให้พวกพรหมทั้งหมดตกอยู่ในอำนาจของเรา ไม่ให้พรหมก้าวล่วงพ้นวิสัยของพญามาร” จึงปาฏิหาริย์กายติดตามพระบรมศาสดาไป แล้วมายืนกำบังตัวในระหว่างหมู่พรหม

        เมื่อมารรู้ว่า พระบรมศาสดากำลังนำพาเหล่าพรหมไปสู่เส้นทางนิพพาน จึงทำตนเป็นผู้ค้ำชูพรหม ด้วยการเข้าสิงพรหมปาริสัชชา พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรู้ว่า เสียงที่กล่าวออกมานั้น ไม่ใช่เสียงของพรหม แต่เป็นเพราะพรหมถูกมารเข้าสิง แล้วยังบังอาจมาโกหกพระองค์ ผู้ซึ่งไม่มีใครสามารถทำให้หลงใหลหรือคล้อยตามได้ จึงบันลือสีหนาทว่า “แน่ะมาร เราเท่านั้นในพรหมโลกนี้ที่รู้จักท่าน เหล่าพรหมและบริษัทพรหมอยู่ในอำนาจของท่าน ท่านคิดว่าแม้เราก็อยู่ในอำนาจของท่านหรือ แต่เราไม่อยู่ในอำนาจของท่านหรอก

       พกาพรหมกล่าวถึงความเป็นใหญ่ของตน อวดอ้างอิทธิฤทธิ์ของตนว่า ไม่มีใครยิ่งใหญ่เทียมเท่าตน พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า “เรารู้แล้วว่า ท่านเป็นผู้มีอานุภาพมาก ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ย่อมโคจรส่องสว่างอยู่เท่าใด อำนาจของท่านเป็นไปในพันจักรวาลเท่านั้น ท่านย่อมรู้จักสัตว์ที่เลวและประณีต รู้จักสัตว์ที่มีราคะและไม่มีราคะ รู้จักจักรวาลนี้และจักรวาลอื่น รู้จักการมาและการไปของสัตว์ทั้งหลาย ดูก่อนพกาพรหม เราย่อมรู้ความสำเร็จและอานุภาพของท่าน แต่ท่านไม่รู้ไม่เห็นกาย ๓ อย่าง ส่วนเราตถาคตทั้งรู้เห็นกาย ๓ อย่าง คือ กายอาภัสสระ กายสุภกิณหะ กายเวหัปผลา เราเป็นผู้รู้สูงกว่าท่าน

     

แชร์