การเข้านอกออกในของสื่อดัชต์หลายสำนัก

เพื่อติดตามความเป็นไปของวัดพระธรรมกายเนเธอร์แลนด์ดูจะเป็นเรื่องปกติ การปรากฏตัวของพระสงฆ์ และเรื่องราวของวัดใหม่ในหน้าสื่อเนืองๆ แบบนี้ จึงทำให้ชาวท้องถิ่นรู้สึกคุ้นเคยไปโดยปริยาย 

ถึงขนาดที่ว่าคนท้องถิ่นบางรายเมื่อเจอพระสงฆ์เดินหิ้วของที่ริมถนน ก็กดแตรทักเรียกให้ขึ้นรถพร้อมกับเปิดภาพข่าวในจอโทรศัพท์เพื่อยืนยันว่า “เรารู้จักพวกคุณ” อยากให้เขาไปส่งที่วัดไหมเพราะกำลังจะผ่านไปทางเดียวกัน

 หรือแม้แต่วันโบราณสถานแห่งชาติเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยอิทธิฤทธิ์ของหน้าสื่อก็ทำให้มีคนหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมนิทรรศการภายในวัดวันเดียวกว่า 800 คน 

6 เดือนผ่านไป...

หลังจากที่เปิดวัดพุทธในเมืองอัฟเฟอร์เดน (Afferden) จังหวัดเกลเดอร์แลนด์ (Gelderland) เปิดมาครบ 6 เดือน สื่อโทรทัศน์ และ หนังสือพิมพ์ประจำจังหวัดอย่าง Omroep Gelderland ก็ขอมาทำข่าวแบบอินไซต์ขณะที่ทางวัดกำลังประกอบพิธีบุพพเปตพลี

เดอะ มาส เอ็น วาเลอร์ ( de Maas & Waler) 

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่ให้ความสนใจนำเสนอข่าววัดพุทธประจำเมืองแห่งแรกอย่างต่อเนื่อง มี 2 ประเด็นหลักที่ผู้สื่อข่าวให้ความสนใจในคราวนี้ก็คือ

1.วัดพุทธตั้งมาครบ 6 เดือนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนบ้านรอบวัดยอมรับหรือไม่?

2.เทศกาลคริสต์มาส มีความหมายอย่างไรสำหรับชาวพุทธ?

โดยเนื้อข่าวระบุว่า

นับตั้งแต่พระศาสนจักรคาทอลิกในเมืองอัฟเฟอร์เดน (Afferden) ได้ถูกเปลี่ยนมือ ซึ่งดูเหมือนความนับถือบูชาเดิมก็ค่อยๆ ลบเลือนไป โบสถ์หลังนี้ได้เปลี่ยนเป็นชุมชนของพุทธศาสนิกมาทำกิจกรรม รวมถึงการประกอบพิธีกรรมที่สะท้อนความศรัทธาตามแนวทางวิถีพุทธ

หลวงพี่ซันเดอร์ (Phra Sander Khemadhammo) นักบวชของวัดพระธรรมกายเนเธอร์แลนด์ ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับข้อสงสัยของเราว่า 

”เทศกาลคริสต์มาส ของชาวคริสต์” มีความหมายต่อชาวพุทธอย่างไรบ้าง

 หลวงพี่ซันเดอร์ (Phra Sander Khemadhammo) ได้เดินทางมาที่ประเทศไทยหลายครั้ง ตลอดเวลา 21 ปีที่เขาพาตัวเองเข้ามาศึกษาเรียนรู้ เพื่อตามหาแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา 

“การเฉลิมฉลองในวันคริสต์มาสเป็นความความสนุกสนานรื่นเริงที่ซุกซ่อนความหมายอันทรงคุณค่าไว้เบื้องหลัง นั่นคือในทุกๆ ปี วันคริสต์มาส เราได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แล้วมอบของขวัญให้กันและกัน 

นั่นหมายความว่าวันนี้เราได้ทำหน้าที่เป็น “ผู้ให้”และเป็นวันที่เราให้ความสำคัญกับการได้มา “อยู่ร่วมกันกับคนในครอบครัว”

จุดนี้เองที่มีความคล้ายคลึงกับแนวทางของพระพุทธศาสนา ที่เราเรียกว่า “ทาน” ซึ่งหมายถึงการให้ เพียงแต่ชาวพุทธให้ความสำคัญกับการเป็น “ผู้ให้” ทุกๆ วัน

ในวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันปีใหม่ของไทย 

ก็เป็นช่วงเวลาที่คนในครอบครัวจะเดินทางมาพบกันพร้อมหน้าพร้อมตา ฝ่ายลูกหลานก็จะทำพิธีรดน้ำดำหัวขอพรจากผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัว หรือการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้หมู่ญาติที่ล่วงลับที่เรียกว่า บุพพเปตพลี 

เป็นวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงการระลึกถึงบคคลที่เราเคารพนับถือ เช่นเดียวกับแนวความคิดเรื่องการระลึกถึงพระผู้เป็นเจ้าในวันคริสต์มาส

การหาทำเลที่เหมาะสม

เมื่อถูกถามถึงการเลือกทำเลที่ตั้งวัด และการยอมรับของเพื่อนบ้าน หลังจากเปิดเป็นวัดพุทธอย่างเป็นทางการมาครึ่งปี หลวงพี่ให้ความเห็นว่า

เมื่อเร็วๆ นี้ที่วัดได้จัดพิธีทอดกฐินฯ  และเปิดให้เยี่ยมชมนิทรรศการที่บอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของผู้ก่อตั้งโบสถ์หลังนี้ อีกทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชน และวิธีปฏิบัติสมาธิแบบชาวพุทธ 

 ปรากฏว่ามีผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งเราพบว่าได้รับการตอบรับที่เป็นมิตรจากเพื่อนบ้าน

มีอาคารหลายหลังที่ประกาศขายทอดตลาด มิหนำซ้ำบางหลังมีลักษณะคล้ายกับที่นี่และจ่ายน้อยกว่า แต่เราเห็นว่าโบสถ์หลังนี้เป็นสถานที่ๆ เหมาะสมที่สุดในการเผยแผ่สอนสมาธิ

เพราะเราไปสอนสมาธิในดิสโก้เทคไม่ได้ เราจึงตัดสินใจแน่นอนแล้วว่าจะเปิดวัดพุทธที่นี่ แล้วก็เริ่มเข้ามาทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านเข้าไปพบปะพูดคุยแบบเป็นกันเองตรงไปตรงมา

เราชาวพุทธตระหนักดีว่า 

โบสถ์ในตำนานที่สวยงามหลังนี้ เกิดขึ้นจากความตั้งใจ และเป็นความภาคภูมิใจของคนที่นี่ เมื่อเปลี่ยนโบสถ์มาเป็นวัด เราจึงให้ความสำคัญกับการสื่อสารทำความเข้าใจกับคนในหมู่บ้านว่าเราจะดูแลรักษา และพัฒนาศาสนสถานแห่งนี้ให้ดีที่สุด

"ภาพการมาร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาของชาวท้องถิ่น ในวันโบราณสถานแห่งชาติ และพิธีทอดปฐมกฐินวัดพระธรรมกายเนเธอร์แลนด์"

การเปิดหลักสูตรนั่งสมาธิ และสอนหลักธรรมที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันทุกสัปดาห์ คือการสื่อสารสร้างความเข้าใจกับคนในท้องถิ่นที่หนักแน่นและมั่นคงที่สุด ซึ่งวัดพระธรรมกายเนเธอร์แลนด์ได้จัดคอร์สสมาธิอย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้เป็นเวลาร่วม 8 เดือน ก่อนที่จะมีการเปิดวัดอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2560

ที่มา http://talk--secret.blogspot.com/2017/12/blog-post_24.html