"ตั๊ก บงกช" เปิดใจเกือบเลิกชีวิตคู่ต่างวัยกับเจ้าสัว ได้คิดวันที่แม่จากไปชีวิตนี้ไม่มีอะไรนอกจาก"บุญ"และความดี

"ตั๊ก บงกช"เปิดใจ ควงสามีและลูกอัพเดทชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่น เผยเคยมีช่วงอยากเลิกเจ้าสัวบุญชัย เพราะอายุที่ห่างกันมากและสุดเสียใจในวันที่แม่จากไป ได้คิดชีวิตนี้เอาอะไรไปไม่ได้นอกจาก"บุญ" http://winne.ws/n21587

1.2 พัน ผู้เข้าชม
"ตั๊ก บงกช" เปิดใจเกือบเลิกชีวิตคู่ต่างวัยกับเจ้าสัว ได้คิดวันที่แม่จากไปชีวิตนี้ไม่มีอะไรนอกจาก"บุญ"และความดี

ตั๊ก บงกช นางเอกสาวที่ดังเปรี้ยงด้วยวัยเพียง 15 ปี และมีผลงานในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่อง นอกจากผลงานการแสดงแล้วตั๊ก บงกช ยังมีวีรกรรมเป็นที่เลื่องลือถึงความเหวี่ยง วีน ไม่แคร์สื่อ ขวานผ่าซาก แต่เธอกลับมามีกระแสอีกครั้ง เมื่อประกาศหมั้นและแต่งงานแบบสายฟ้าแลบกับนักธุรกิจรุ่นใหญ่มหาเศรษฐีหมื่นล้านอย่าง เจ้าสัวบุญชัย เบญจรงคกุล ที่มาพร้อมกับข่าวเม้าท์ว่าแต่งงานเพราะหวังเงิน อยากเป็นหนูตกถังข้าวสาร

แต่มรสุมชีวิตยังไม่จบเพียงเท่านี้เพราะล่าสุด แม่เล็ก ธนาภา ได้ล้มป่วยและเสียชีวิตในวันเกิดของเธอ โดยที่เธอยังไม่มีโอกาสได้ร่ำลาแม่เลย ล่าสุดตั๊ก บงกชและครอบครัว ได้เปิดใจในรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง ONE31 ที่วันนี้ส้ม ณัชพร เจ้าของรายการรับหน้าที่ดำเนินรายการเอง

"ตั๊ก บงกช" เปิดใจเกือบเลิกชีวิตคู่ต่างวัยกับเจ้าสัว ได้คิดวันที่แม่จากไปชีวิตนี้ไม่มีอะไรนอกจาก"บุญ"และความดี

ขอย้อนถามไปถึงข่าวเม้าท์ที่เคยได้ยินหน่อยว่าถ้าตั๊กไม่มีแม่ ตั๊กก็จะไม่มีวันได้แต่งงานกับคุณบุญชัย?

 ไม่จริง ตั๊กมีนักธุรกิจมาจีบเยอะมาก แม่ไม่เคยให้ยุ่งเลย มีแต่หวง อยากจะให้ทำงาน

ทำไมเขาถึงหวงเราขนาดนั้น? 

ตั๊กไม่รู้ แม่อยากให้ตั๊กอยู่กับแม่ตลอด ไม่อยากให้อยู่กับใคร

เขาไม่อยากให้เราเจ็บเหมือนเขาหรือเปล่า?

"อาจจะใช่ วันที่คุณบุญชัยไปขอตั๊ก เขายังบอกเลยว่าอย่าแต่ง อย่าหมั้นเลย เพราะหนังเรื่องจันดาราก็สร้างชื่อเสียงให้กับเราแล้วเรากำลังจะมีละครกับช่องช่องนึง ซึ่งเราเลี้ยงตัวเราเองได้ แม่ไม่ได้ต้องการให้ตั๊กแต่งงานกับคุณบุญชัย มีแต่บอกว่าอย่าเพิ่งแต่งให้ใช้ชีวิตเป็นสาวไปก่อน เรียนรู้กันไปก่อน"

ย้อนกลับไปตอนแม่ป่วย นานมั้ยถึงจะจากเราไป ? "ประมาณ 1 ปี 7 วันนั้นแม่เส้นเลือดในสมองตีบ เราเลยพาส่งโรงพยาบาลใกล้แต่โรงพยาบาลใกล้ๆ ไม่มีเครื่องมือที่จะรักษาแม่ได้ ซึ่งคนเป็นเส้นเลือดในสมองตีบต้องใช้เวลารักษาเร็วมาก ซึ่งแม่ชี้ไปที่หัวตลอด ส่วนตั๊กก็ร้องไห้ตลอด ร้องเป็นเด็กเลย แม่ก็พูดออกมาว่า อย่าร้องไห้ แม่ไม่เป็นอะไร นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ได้ยิน"

วันที่คุณแม่เสียเป็นยังไงบ้าง?

 วันนั้นเป็นวันเกิดตั๊กเลยค่ะ 15 เมษา แม่มีอาการเลือดไหลในลำไส้ พยาบาลก็โทรมาว่าจะให้เรียกรถเลยมั้ย เพราะว่าเลือดออกเยอะมาก ตั๊กก็บอกว่าให้เรียกรถพยาบาลเลย ทีนี้แม่ตั๊กเขามีเชื้อแขกขาวเลือดจะเป็นกรุ๊ป AB เนกาทีฟ ซึ่งหายากทางโรงพยาบาลบอกว่าเลือดที่มีมันไม่พอ เลยให้มอเตอร์ไซค์วิ่งไปเอาที่สภากาชาด ระหว่างที่เราเดินทางเขาก็ถามว่าจะปั๊มหัวใจมั้ย ด้วยความที่เราเคยปั๊มให้กลับมาที่นึงแล้วเราก็เลยบอกว่าปั๊มค่ะ"

"พอเราไปถึงเขาให้เรานั่งรออยู่ข้างนอก แต่ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเขาทำอะไรกันอยู่ทำไมดูวุ่นวายจัง เลยเดินตรงเข้าไปเลย พยาบาลก็ห้ามไม่ให้เข้า ภาพที่เห็นคือทุกคนรุมแม่ 6 คน แล้วเราก็มองเลือด แล้วก็มองแม่ แม่ถูกปั๊มหัวใจอยู่ตลอด เราก็แหงนดูมอนิเตอร์ ไม่มีคลื่นอะไรเลย ตาแม่ก็ลืมอยู่ เลือดไหลออกจากปาก จมูก หู เราก็รู้แล้วว่าแม่ทวารแตก เราทรุดลงนั่งยองๆ นั่งอยู่ซักพักนึง ข้าวหอมเห็นตั๊กเดินเข้าไปนาน เลยวิ่งเข้าไปหาตั๊ก ข้าวหอมเป็นเด็กที่เห็นการเจ็บ การตายตั้งแต่เขายังไม่สี่ขวบเลย"

"ตั๊กเลยบอกให้เขาไปไหว้ยายที่เตียง ไปหอมยายสิ พอเขาเดินไปจับมือยาย เขาก็เอามือออกแล้วบอกว่ายายตัวเย็น ส่วนเราก็ร้องไห้กอดลูก อีกมือนึงก็จับแม่ แล้วก็พูดกับแม่ว่า แม่หนูขออโหสิกรรมนะ ถ้ากรรมใดที่หนูเคยทำให้แม่เสียใจ ทุกข์ใจ แม่อโหสิกรรมให้ได้มั้ย พี่ใหญ่เค้าก็บอกเราว่าให้เราเอาเสื้อมาเปลี่ยนให้แม่เพราะเดี๋ยวแม่จะตัวแข็ง แล้ววันนั้นเป็นวันสงกรานต์ รถก็ติด ทำให้เรานึกถึงวันที่แม่เล่าว่าวันที่เขาคลอดตั๊ก เขานั่งอยู่บนสามล้อเจ็บท้องมาก รถก็ติด คนเขาเล่นน้ำกัน แล้ววันนั้นเราไปเอาเสื้อผ้าให้แม่คนเล่นน้ำกัน รถติดมาก ทำให้เรานึกถึงวันที่แม่เล่าให้ฟัง เราคิดว่าชีวิตตบหน้าเราขนาดนี้เลยหรอ"

"ตั๊ก บงกช" เปิดใจเกือบเลิกชีวิตคู่ต่างวัยกับเจ้าสัว ได้คิดวันที่แม่จากไปชีวิตนี้ไม่มีอะไรนอกจาก"บุญ"และความดี

ถ้ามีโอกาสได้บอกลาแม่ อยากจะบอกอะไรแม่ ? "อยากจะบอกแม่ว่า ตั๊กไม่รู้ว่าแม่จะจากตั๊กไปเร็วขนาดนี้ ถ้าหากตั๊กรู้ ตั๊กจะใช้เวลาอยู่กับแม่มากกว่านี้ ชาติหน้าถ้ามีจริง ถ้าตั๊กได้เกิดมาอีก ขอเกิดเป็นลูกแม่และตั๊กขอตั้งจิตอธิษฐานจะไม่ทำให้แม่ต้องช้ำใจ เสียใจ ด้วยเรื่องอะไรทั้งนั้น ขอให้ตั๊กมีปัญญาตั้งแต่เด็ก ตั๊กจะได้ไม่เดินทางผิด แม่จะได้ไม่ต้องปวดหัวเพราะตั๊ก แม่จะได้ภูมิใจในตัวตั๊กตั้งแต่เด็กๆ" 

ตอนนี้ชีวิตเค้าเหลือแค่พี่คนเดียว ?

 คุณบุญชัย : ครับ มีเวลาเหลือเท่าไหร่ก็จะสอนให้เขารู้จักชีวิต รู้จักความเข้มแข็งในทุกด้าน เพราะว่าเขาจะต้องเป็นโค้ชให้กับข้าวหอมต่อไป ก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขากังวล นอกจากพวกโซเชียลมีเดีย

ตั๊ก : ตั้งแต่เราแต่งงานเรารู้ว่า พี่ใหญ่เขาเป็นที่พึ่งให้กับลูกๆ ของเขาเอง เราเองก็ไม่อยากเป็นภาระ อันไหนเราทำได้ เราก็ทำ เราตัดสินใจเองได้เราก็ทำ เพราะเรารู้ว่าพี่ใหญ่เขารับผิดชอบเองเยอะ พอเราเรียนธรรมะ เรารู้เลยว่าสุดท้ายแล้วเราไปแค่เราคนเดียว วันที่แม่ตั๊กไปเนี่ย เราใส่สร้อย แหวน นาฬิกาให้แม่ คนที่จะเอาแม่เข้าโลงเค้าบอกว่าเอาออกเถอะ เราก็รู้สึกว่ามนุษย์เราเอาไรไปไม่ได้เลย นอกจากความดี บุญ คือจากนี้ไปเราไม่ได้ต้องการอะไรเลยนอกจากให้เรามีความสุข"

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ อยากจะแก้ไขอะไรที่เกี่ยวกับแม่มั้ย ? 

"ตั๊กเคยคิดว่าอยากย้อนเวลากลับไป แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ถ้าคิดว่าจะทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด ตั๊กคิดว่าตั๊กจะเลี้ยงลูกให้ดี จะดำเนินชีวิตคู่ให้แข็งแรง คือตั๊กเคยมาปรึกษาแม่ เพราะตอนนั้นตั๊กมีปัญหาเรื่องความห่างของอายุ ว่าหนูไม่ไหวแล้ว หนูอยากจะเลิก แม่ก็บอกว่าตั๊กลองคิดดูนะว่าผู้ชายคนไหนจะมาเอาผู้หญิงที่มีลูกแล้ว เป็นหม้าย คำว่าแม่หม้ายของผู้หญิงไทยเรื่องใหญ่นะ"

ชีวิตตอนก่อนแม่จะเสีย ตอนนั้นแม่อยากให้เราเป็นดารา ? "แม่เป็นคนพาไปแคสติ้งที่กันตนาแล้วเขาก็พยายามถามคนที่ไปแคสต์ก็จะเป็นพวกแม่ๆ ว่ารู้จักโมเดลลิ่งบ้างมั้ย ตั๊กก็ถามแม่ว่า ทำไมมั่นใจจังว่าตั๊กจะเป็นดาราได้ เพราะว่าตั๊กอยากเป็นทหารหญิง อยากเรียนหนังสือ แล้วแม่ก็บอกว่าแกจะต้องเป็นดารา ความฝันเขาคืออยากให้ตั๊กเข้าวงการบันเทิงเพราะว่าเขาชอบ แล้วอีกอย่างคือแม่เขาชอบไปหาอาจารย์ชะอุ่ม เขาเป็นโหรที่อยู่ในวังแล้วเขาเกษียณออกมาเพราะอายุมากแล้ว"

เค้าฟันธงว่าไง ? "เขาก็บอกว่าตั๊กมีดวงดาวสี่ดวงเป็นคนที่ไม่เป็นดาราก็เป็นนางงาม ถ้าเป็นดาราก็จะดังเป็นพลุแตกเลย"

แม่ขายร้านเพื่อไปตามตั๊กเลย ? "ตอนนั้นแม่เปิดร้านอาหารตามสั่ง เป็นร้านเล็กๆ เราจะเป็นคนไปส่งอาหารที่ตึกนักศึกษาด้านหลัง แม่บอกว่าวันนี้เขาเรียกตั๊กไปแคสติ้งโฆษณาคือเขาโทรมาฉุกเฉินมาก แต่แม่ซื้อผัก ซื้อหมู ซื้อปลา ซื้อไก่ไว้หมดแล้ว แต่แม่ก็ต้องปิดร้านเพื่อพาไปแคสต์ พอเราไปแคสเขาก็มีแต่ลูกครึ่ง หุ่นดีมา ขาเรียว ซึ่งเราขาใหญ่มาก แล้วเขาจะให้เราไปแคสเกี่ยวกับครีม แต่ก็ได้"

ใช้เวลาแคสต์นานมั้ยกว่าจะได้บทเด็ดๆ ? "หลายปีพี่ แล้วเงินที่เดินทางไปแคสติ้ง แม่ต้องไปยืมเงินเขามา แต่ไม่บ่นเลย ไม่ท้อเลย ถึงท้อก็ไม่เคยพูด แต่ตั๊กแอบร้องไห้แล้วทะเลาะกับเขานะ พูดกับแม่ว่าแม่ต้องไปยืมเขามาเพื่อพาตั๊กไปแคสติ้ง แล้วก็ไม่ได้ แล้วแม่ก็ปิดร้าน ของที่ร้านก็เน่า ขาดทุน บางทีต้องย้ายที่อยู่เพราะติดค่าเช่าเขาหลายเดือน คือตั๊กไม่ไปแล้ว แต่แม่บอกให้ไปเพราะเราเคยได้แล้วเรามีเงินมาจุนเจือครอบครัวเรา"

"เพราะเขาไม่ง้อพ่อเลย เขาเอาตั๊กออกมาจากตระกูลคงมาลัย ไม่เคยพาตั๊กกลับไปหาญาติพี่น้องพ่อเลย มีอยู่ครั้งนึงที่เราแคสต์ได้ ก็พอได้เงินมาบ้าง แล้วแม่ก็พาไปแคสต์อีก ทีนี้ตั๊กบอกว่าไม่ไปแน่นอน แม่ก็ใช้ไม้แขวนเสื้อตี ตั๊กไม่ไปเพราะตั๊กไปแคสบางทีก็ถูกว่าต่อหน้าคนอื่นเพราะตั๊กเล่นไม่ได้ แล้ววันที่โดนตีคือวันที่แคสติ้งบางระจัน พอกลับมาบ้านไม่กี่วันเขาก็โทรมาบอกว่าตั๊กได้เล่นนะ หลังจากนั้นก็มีงานแสดงเข้ามาเรื่อยๆ แม่ก็เลิกทำร้านมาตามตั๊กอย่างเดียว"

"ตั๊ก บงกช" เปิดใจเกือบเลิกชีวิตคู่ต่างวัยกับเจ้าสัว ได้คิดวันที่แม่จากไปชีวิตนี้ไม่มีอะไรนอกจาก"บุญ"และความดี

ถามเรื่องน้ำหนักหน่อยตอนนี้กลับมาเพอร์เฟคแล้ว ? "ยัง (หัวเราะ) คือจริงๆ แม่เสียไม่นาน ตั๊กก็รู้สึกว่าอาการตั๊กเริ่มไม่ดี เพราะตั๊กเสียใจมาก ร้องไห้ทุกวัน พี่ใหญ่ก็บอกว่าตั๊กยังมีลูก มีครอบครัวนะ ถ้าเป็นแบบนี้ลูกจะพึ่งใคร ตั๊กขอพี่ใหญ่ไปบวชที่อินเดีย พี่ใหญ่ก็บอกว่าถ้าตั๊กไปแล้วลูกล่ะ ตั๊กต้องตั้งสตินะ เพราะยังไงวันนึงคนเราก็ต้องตาย ตั๊กก็ยังซึมเศร้าอยู่เพราะอดีตมันทำให้เรานึกถึงแม่ แล้วมันก็กลายเป็นว่าพอเราลุกขึ้นมาแล้วเหมือนบ้านหมุน ตาฝ้าฟาง หมอเขาเลยให้ยาแก้เครียดมาแล้วมันมีสเตียรอยด์มันทำให้อยากกินข้าว แล้วก็กินหนักเลย จนรู้สึกว่าหัวใจเต้น มือสั่น เหงื่อออกแต่หนาว ก็เลยไปหาหมอ หมอเดียวกับแม่เลย หมอเบาหวาน หมอบอกว่าเราใกล้จะเป็นเบาหวานแล้วนะ ถ้ายังไม่ลดน้ำหนักหรือไม่ลดการกิน น้ำตาลตอนที่ตรวจมัน 400 ซึ่งคนปกติไม่เกิน 120 หมอก็เลยจะจ่ายยาเบาหวานให้เรากิน เราบอกว่าเราไม่เอา เพราะถ้ากินต้องกินไปตลอด ตั๊กเลยถามหมอว่ามีทางอื่นให้ตั๊กเลือกมั้ย หมอเลยบอกให้เราออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เลิกกินหวาน"

ตอนนั้น 87 กก. ตอนนี้เท่าไหร่แล้ว ? "ตอนนี้เหลือ 60 กก."

ตั๊กก็เคยคิดว่าจะเลิกกับพี่ใหญ่ ? "เป็นเพราะว่าอายุเราห่างกันมากค่ะ แม้กระทั่งยาสีฟันเราก็ใช้กันคนละยี่ห้อ แปรงสีฟันเราก็ยังความเห็นไม่ตรงกัน ขนาดหมอนเราก็ยังนอนต่างกัน เราก็เลยมาคิดว่าเราต่างกันมาจริงๆ นะ"

เรื่องแค่นี้หรอที่คิดอยากจะเลิกกับเขา ? "มันก็มีเรื่องใหญ่ๆ นะ ตั้งแต่เรามาเป็นภรรยาเขา ด้วยความที่เราอายุน้อยกว่าเขามันก็จะมีความเสียเปรียบในเรื่องของการตัดสินใจ บางเรื่องตั๊กบอกว่าตั๊กทำได้ อย่างเช่นเรื่องเลี้ยงลูก เขาก็จะให้คนสนิทเขามาอยู่กับเรา    ตั๊กก็บอกว่าตั๊กอุ้มท้องเขามาตั้ง 9 เดือน เขายังอยู่ในท้องได้เลย ทำไมตอนนี้ตั๊กจะเลี้ยงเขาไม่ได้ เขาก็เลยพูดมาว่า ตั๊กเพิ่งมีลูกคนเดียว แต่พี่มีลูกมาแล้ว 5 คน พี่มีประสบการณ์ ก็เลยรู้สึกว่าการออกความเห็นทำให้เสียงเราตกลง"

ตอนนี้ดีรึยัง ? "ก็ดีขึ้น เพราะเรามองในแง่ดี เพราะเขาเป็นห่วงเรา แล้วอีกอย่างที่สำคัญคือเขามีพระคุณกับเรา อย่างตอนที่เราท้องเราอ้วกตอนกลางคืนเขาก็เช็ดอ้วกให้เรา เขานวดขาให้เราตอนเป็นตะคริว มันทำให้เราลืมเรื่องบางเรื่องไปได้เลยค่ะ อย่างตอนแม่เราป่วยเขาก็อยู่กับเราตลอด" 


ขอบคุณข้อมูลจาก

http://news.sanook.com/gallery/gallery/4840386/

แชร์