๔ ประการที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ไม่ว่าใครก็ทำแทนไม่ได้
เหตุสุดวิสัยที่ใคร ๆ ก็ยกให้หรือชดใช้แทนกันไม่ได้ เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นกรรมเฉพาะบุคคลที่สั่งสมกันมาเอง http://winne.ws/n21798
พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเราแม้ใครจะมีอิทธิฤทธิ์มากมายเพียงใดแต่ก็มีสี่ประการที่ไม่สามารถทำได้
พุทธสาวกถามพระพุทธองค์ว่า
“ในเมื่อพระองค์เป็นผู้ที่มี ความเมตตา แลมีอิทธิฤทธิ์มากมายไม่มีประมาณแล้ว เหตุใดเล่ายังมีคนที่ลำบากอยู่?”
พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า
"พระองค์แม้จะมีอิทธิฤทธิ์มาก เพียงไรแต่ก็ไม่สามารถดลบันดาลหรือเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้เพราะวิบากกรรมที่ทำกันไว้เป็นเรื่องแต่ละบุคคลที่สั่งสมกันมาข้ามภพข้ามชาติ"
วิบากกรรมเปลี่ยนแปลงหรือรับแทนกันไม่ได้
1. ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวิบากกรรมได้ ใครสร้างกรรมเอาไว้ไม่มีใครรับแทนได้คนนั้นต้องรับเอง
2. ปัญญาให้กันไม่ได้ ต้องฝึกฝนเอาเองถึงจะเกิดปัญญาได้
3. ความศรีวิไลของธรรมะ ไม่สามารถสื่อทางภาษาได้ ความจริงแท้ในจักรวาลต้องใช้การปฏิบัติหนทางเดียวเท่านั้นเพื่อพิสูจน์ความจริง
4. คนที่ไม่มีวาสนา ฝนแม้จะตกทั่วฟ้า ก็ยังไม่เกิดประโยชน์กับหญ้าที่ไร้ราก พระธรรมแม้จะกว้างใหญ่ไพศาล ก็ยากที่จะโปรดคนไร้วาสนา
คนที่ไม่ได้สั่งสมบุญมาด้วยกันต่อให้พระมาโปรดก็ไม่ศรัทธาและไม่เข้าใจ
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“เป็นการยากที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ เป็นการยากที่พบพระพุทธศาสนา เป็นการยากที่จะได้ฟังธรรมของสัตบุรุษ เป็นการยากที่พระพุทธเจ้าจะอุบัติมา”
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เราจึงควรเห็นคุณค่าของ การเกิดเป็นมนุษย์ อย่าให้เสี่ยโอกาส เสียเวลา ไปโดยเปล่าประโยชน์ เอาใจใส่รักษาความเป็นมนุษย์ไว้ให้มั่นคง ถึงจะเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วก็ตาม แต่จิตใจก็เป็นไปได้ใน ๒ ทางคือ
ใจต่ำ เป็นอกุศลจิต ใช้ชีวิตอย่างประมาท ขาดสติ เป็นทางของสัตว์เดรัจฉาน เปรต ยักษ์ สัตว์นรก
ใจสูง เป็นกุศลจิต ดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ปัญญา ไม่ประมาท สร้างกุศลกรรมความดี สร้างบารมี เป็นทางของมนุษย์ เทวดา พรหม อริยมรรค อริยผล นิพพาน
ดังนั้นสำหรับการเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหนึ่ง การเลือกทางดำเนินชีวิตของ....เราจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจากเพจคำคม ธรรมะ
ภาพจากwww.google.co.th