ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกๆ วันอาทิตย์ ที่แสนมีความสุข ของเด็กๆ ในพื้นที่ บ้านหนองหญ้าไซ ซึ่งมีเด็กนักเรียนมาโรงเรียนในวันอาทิตย์เต็มไปหมดเลย  

โดยไม่มีใครบังคับ มีอาจารย์อยู่ท่านหนึ่งที่เสียสละเวลา ส่วนตัวเพื่อมาสอนเด็กเสริม  จากวิชาเรียนวันจันทร์-ศุกร์ โดยเป็นการเรียนแบบ  kids คิด ที่เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี 2551และมีนักเรียนกว่า 70 คน ต่างระดับชั้น มาโรงเรียนในวันอาทิตย์ หรือเวลาไหนที่ครูว่าง หรือนักเรียนต้องการจะเรียน ให้มาหา

นางสาววิจิตรา บุษบา  ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหนองหญ้าไซ สำนักงานพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เลยเขต 1  ตำบลนาดินดำ อำเภอเมือง จังหวัดเลยเจ้าของ สโลแกน Kids คิด วันอาทิตย์ ซึ่งเป็นครูเพียงคนเดียวที่เสียสละเวลา 

เนื่องจากเป็นคนโสด และบ้านอยู่ละแวกใกล้โรงเรียน การจัดการเรียนแบบ Kids คิด นี้ เป็น กิจกรรมนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2551 ปี ที่คุณครูได้เล็งเห็นว่ามีนักเรียนในแต่ละชั้นปีนั้น ในช่วงหยุดเสาร์- อาทิตย์  เด็กร้อยละ 95 นั้น จะมีพฤติกรรมที่ติดเกม ไปคลุกคลีร้านเกม มีความสุ่มเสี่ยงการมั่วสุมตั้งแต่เยาว์วัย และมีพฤติกรรมว่างโดยจะจับกลุ่มกันปั่นจักรยาน ขี่มอร์เตอร์ไซค์ ไปเลาะตามบ้านเพื่อนต่าง ๆ ที่ไม่มีประโยชน์และสร้างความลำบากใจให้กับผู้ปกครอง ตลอดจนไม่สามารถที่พ่อแม่จะเรียกใช้ไปทำงานหรือช่วยงานบ้านได้เลย 

ซึ่งในปีนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว อาทิตย์ไหนที่คุณครู วิจิตรา บุษบา  นั่นว่าหรือไม่ไปประชุมในต่างจังหวัด ครูวิจิตรา เองจะเดินทางมาอยู่ที่โรงเรียน พร้อมกับลูกศิษย์ลูกหา ที่สนใจในการที่จะรับความรู้ ซึ่งแรกๆนั้น ก็มีไม่เยอะแต่เวลาผ่านมา เด็กๆ ก็มีมากขึ้นจนวันนี้มีอยู่ 70 คน ที่ต้องดูแล แทนผู้ปกครอง ในวันอาทิตย์  ผู้ปกครองนั้น ปรบมือเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นความคิดที่ดีมาก เพราะในบางช่วงเวลานั้น เช่นช่วงนี้ ตนพ่อแม่นั้น สามารถที่จะเดินทางไปทำงาน ทำนา ทำสวนทำไร่ได้ ซึ่งลดภาระเด็กอยู่บ้าน แล้วสร้างปัญญาให้กับครอบครัว 

คุณครูวิจิตรา  เหมือนเป็นพ่อแม่คนหนึ่ง เพราะหลังจากสามารถนำเด็กมาเรียน เสริม พ่อแม่ก็ทำงานได้เต็มที่ และเมื่อมีกิจกรรมอะไรในโรงเรียนก็จะสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ปกครองได้ดี อย่างยิ่ง และได้รับการสนับสนุนการศึกษาได้เป็นอย่างดี

คุณครูวิจิตรา บอกอีกว่า การเรียนการสอนในวันนี้ เป็นแบบสบายสบาย  มาเรียนชุดธรรมดา ห่อข้าว ห่อขนมมากิน กินเรียนเล่น ตามโอกาส เริ่มแปดโมงเช้า ถึงสามโมงเย็น  ให้พกเงินมา 10 บาทเป็นค่าถ่ายเอกสาร ค่าขนม เรียนๆ เล่นๆ เรียนดี สนใจเรียนมีรางวัล มีขนม ผลไม้มาแจก บางครั้งมีผู้ปกครองญาตินำผลไม้ ขนมขบเคี้ยว มาฝาก เน้นการเรียนแบบเข้าใจ ผิดทำโทษ เก็บขยะ สร้างความสุข ความรู้ คู่กันไป

สำหรับผู้ปกครองที่อยู่ไกล ก็นำรถมาส่ง เพื่อมาให้ลูกๆ ได้เรียนกับครู ซึ่งบางคนก็มาจากโรงเรียนอื่นๆ ที่เป็นโรงเรียนพันมิตรและเด็กจากหมู่บ้านอื่นที่เดินทางมาเที่ยว หรือมาอยู่บริเวณแถวๆ โรงเรียน และมาร่วมเรียนกับเพื่อนๆ ก็สามารถทำได้

การเรียนการสอนนั้น ไม่เน้นรูปแบบเป็นทางการ จะจัดการเรียน การสอนแบบคละกันไป มีนักเรียนตั้งแต่ ป 4-6 เป็นหลัก เป็นพี่เลี้ยงน้อง และมี นักเรียน ป 2-3 มาเรียนเสริมสลับกัน โดยให้ นักเรียน 4-6  มาทบทวนสิ่งที่เรียนไป และร่วมกิจกรรมกับรุ่นน้อง อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง เรียน กินกิน ทำอาหารด้วยกัน ว่างเล่น ช่วยครูทำสาธารณะประโยชน์ ขนทราย ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์  

คุณครูวิจิตรา กล่าวตอนท้ายว่า  มีคนถามว่า ครูคนนี้ มีเด็กพูดว่า ครูเหมือนหรือคล้ายเซเว่นฯ นั้น ได้คำตอบว่า คงคล้ายๆ หรือเหมือนบางอย่างก็เพราะหากวันไหนนักเรียนว่าง หรือครูว่าก็มีโอกาสได้เจอกัน ครูมีเวลาในวันเสาร์ ที่ต้องทำภารกิจส่วนตัวกับครอบครัวนั้น คือ พ่อแม่ แต่หากว่าเด็กจับกลุ่มมา อยากเรียน ครูว่าง ก็มาเรียนได้ ส่วนวันอาทิตย์ ก็มาสอนนักเรียนอีก และที่ความเป็นครู ข้างโรงเรียนนั้นก็เหมือน ลูกศิษย์ อยากจะไปหา มาเรียน ตอนไหน เวลาไหน ก็เข้ามาได้ มาเรียนได้ ก็คงเป็นที่ไปที่มาที่เข้าพูดกันว่า ครู 7-11 อยากได้ความรู้เมื่อไรก็เข้ามาหาครูได้

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : http://www.banmuang.co.th/news/region/100351

ขอบคุณคลิปจาก :