พระพุทธเจ้าตรัสถึง"ความจน"ที่ทำให้ถูกจองจำอย่างทารุณเจ็บปวดในนรก
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติ กายทุจริต วจีทุจริตมโนทุจริตแล้ว ภายหลังแต่การตาย เพราะการแตกทำลายแห่งกาย ย่อมถูกจองจำอยู่ในนรกบ้าง ในกำเนิดเดรัจฉานบ้าง. http://winne.ws/n21836
พระพุทธเจ้าตรัสความจนอริยวินัยนำไปสู่การจองจำที่ทารุณเจ็บปวดในนรก
การจองจำที่ทารุณเจ็บปวด
ภิกษุทั้งหลาย ! ความไม่มีศรัทธา
ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ ไม่มีวิริยะ
ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม มีอยู่แก่ผู้ใด
เรากล่าวบุคคลผู้นั้น ว่าเป็นคน จนเข็ญใจ
ไร้ทรัพย์สมบัติในอริยวินัย.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนั้น เมื่อไม่มีศรัทธา ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ ไม่มีวิริยะ ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม
เขาย่อมประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขานี้
ว่าเป็น การกู้หนี้.
เพื่อจะปกปิดกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต ของเขา เขาตั้งความปรารถนาอันเลวทราม ปรารถนาไม่ให้ใครรู้จักเขา ดำริไม่ให้ใคร
รู้จักเขา พูดจาเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา ขวนขวายทุกอย่างเพื่อไม่ให้ใครรู้จักเขา เรากล่าวการปกปิดความทุจริตอย่างนี้ของเขานี้ ว่าเป็น ดอกเบี้ยที่เขาต้องใช้.
เพื่อนสพรหมจารีผู้มีศีลเป็นที่รัก พากันกล่าวปรารภเขาอย่างนี้ว่า
“ ท่านผู้มีอายุนี้ ทำอะไร ๆ (ทุจริต) อย่างนี้ มีปกติประพฤติกระทำ
อะไร ๆ (ทุจริต) อย่างนี้ ” เรากล่าวการถูกกล่าวอย่างนี้
ว่าเป็น การถูกทวงหนี้.
เขาจะไปอยู่ป่าก็ตาม อยู่โคนไม้ก็ตาม อยู่เรือนว่างก็ตาม อกุศลวิตก อันเป็นบาปประกอบอยู่ด้วยความร้อนใจ ย่อมเกิดขึ้นกลุ้มรุมจิตใจเขา เรากล่าวอาการอย่างนี้
ว่าเป็น การถูกติดตามเพื่อทวงหนี้.
ภิกษุทั้งหลาย ! คนจนชนิดนี้ ครั้นประพฤติ กายทุจริต วจีทุจริตมโนทุจริตแล้ว ภายหลังแต่การตาย เพราะการแตกทำลายแห่งกาย ย่อมถูกจองจำอยู่ในนรกบ้าง ในกำเนิดเดรัจฉานบ้าง.
ภิกษุทั้งหลาย ! เราไม่มองเห็นการจองจำอื่น แม้อย่างเดียว ที่ทารุณ อย่างนี้ เจ็บปวดอย่างนี้ เป็นอันตรายอย่างนี้ ต่อการบรรลุโยคักเขมธรรมอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า เหมือนการถูกจองจำในนรก หรือในกำเนิดเดรัจฉาน อย่างนี้.
ขอบคุณที่มา
ฉกฺก. อํ. ๒๒/๓๙๓/๓๑๖.
ภาพจากwww.google.co.th