รองนายกรัฐมนตรี เผยมาตรการกรณีเบี้ยยังชีพ รองรับสังคมผู้สูงอายุ!!!
เพิ่มประสิทธิภาพแนวทางการขับเคลื่อนโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป มีสิทธิได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ และให้เพิ่มช่องทางการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ http://winne.ws/n22115
1 ก.พ.2561 พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ (กผส.) ได้พิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพแนวทางการขับเคลื่อนโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ โดยกำหนดให้ผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป มีสิทธิได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ และให้เพิ่มช่องทางการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประชาสัมพันธ์รณรงค์เชิญชวนให้มีผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุมากขึ้น
ส่วนที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ คาดการณ์ว่าในปี 2564 จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีสัดส่วนร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด และในปี 2574 จะมีสัดส่วนร้อยละ 28 ของประชากรทั้งหมด จากปัจจุบันมีผู้สูงอายุประมาณ 11 ล้านคน
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญในส่วนนี้ จะต้องเตรียมมาตรการรองรับผู้สูงอายุโดยยึดหลักคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 5 ด้าน คือ
1. สุขภาพกาย -จิต
2. ครอบครัวมีสุข
3. สังคมเอื้ออาทร
4. สิ่งแวดล้อมเหมาะสมปลอดภัย
5. หลักประกันมั่นคง
โดยวันนี้ได้หารือมาตรการสร้างแรงจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เช่น ลดต้นทุนและปัจจัยการผลิตในช่วงแรก การให้กู้ยืมเงินด้วยดอกเบี้ยต่ำ การลดหย่อนค่าสาธารณูปโภค ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมทั้งหารือมาตรการ รองรับอื่น ๆ เช่น ด้านมาตรฐานสถานดูแลผู้สูงอายุ โดยจะต้องหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปและมอบงานให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ
ขอขอบคุณ : คมชัดลึก