กรมการจัดหางานแจง นายจ้างเร่งการตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา ลาว เมียนมา

“ศูนย์ OSS จะเปิดดำเนินการไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 เท่านั้น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 5 – 10 ก.พ. 2561 มีแรงงานมาดำเนินการแล้ว 29,420 เป็นกัมพูชา 11,652 คน เมียนมา 14,901 คน ลาว 2,867 คน ทั้งนี้ รมว.แรงงาน ให้นายจ้างรีบพาแรงงานก่อน 31 มี.ค. http://winne.ws/n22258

3.7 พัน ผู้เข้าชม
กรมการจัดหางานแจง นายจ้างเร่งการตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา ลาว เมียนมาแหล่งภาพจาก Cynhite.com

เมื่อวันที่ 11 ก.พ.2561 นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ได้สั่งการให้กรมการจัดหางานเร่งทำความเข้าใจกับนายจ้างเกี่ยวกับ การตรวจสุขภาพของแรงงานต่างด้าวกัมพูชา ลาว เมียนมาว่าให้ไปดำเนินการตรวจสุขภาพ ณ โรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ก่อนที่จะเข้ามาดำเนินการในศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ก่อนแล้วจึงนำใบรับรองแพทย์มาเป็นหลักฐานยื่นที่ศูนย์ฯ ต่อไป 

โดยในกรุงเทพมหานครแรงงานต่างด้าวสามารถตรวจสุขภาพได้ในโรงพยาบาล 7 แห่งคือ 1. โรงพยาบาลกลาง 2. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 3. โรงพยาบาลเลิศสิน 4. โรงพยาบาลราชวิถี 5. โรงพยาบาลตากสิน 6. โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 7. โรงพยาบาลวชิระพยาบาล

ทั้งนี้ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS) ได้เปิดให้แรงงาน กัมพูชา ลาวเมียนมา 3 กลุ่มคือ 

กลุ่มที่ 1 แรงงานในกิจการประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำ ที่พิสูจน์สัญชาติและยังไม่พิสูจน์สัญชาติ ซึ่งบัตรหมดอายุเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 

กลุ่มที่ 2 แรงงานที่ผ่านการคัดกรองความสัมพันธ์นายจ้าง-ลูกจ้าง (กลุ่มใบจับคู่) แบ่งเป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติแล้วและได้รับใบแทนใบอนุญาตทำงานถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 และกลุ่มที่ยังไม่พิสูจน์สัญชาติ มีเพียงใบจับคู่เท่านั้นและได้รับการผ่อนผันให้ทำงานถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2560 และ

กลุ่มที่ 3 แรงงานที่ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ซึ่งใบอนุญาตทำงานหมดอายุวันที่ 31 มี.ค. 2561 มีทั้งกรณีที่พิสูจน์และไม่พิสูจน์สัญชาติ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ภายในศูนย์ฯ มีขั้นตอนคือ 

ขั้นตอนที่ 1 จุดคัดกรอง เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารหากครบถ้วนจะให้บัตรคิว 

ขั้นตอนที่ 2 กรมการปกครองจัดทำหรือปรับปรุงทะเบียนประวัติ กำหนดเลข 13 หลัก ถ่ายรูปใบหน้า สแกนลายนิ้วมือ ค่าใช้จ่าย 80 บาท 

ขั้นตอนที่ 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจลงตรา (Visa) ให้อยู่ในราชอาณาจักร ค่าใช้จ่าย 500 บาท ทั้งนี้ หากแรงงานต่างด้าวยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติไม่ต้องดำเนินการในขั้นตอนนี้ ข้ามไปขั้นตอนที่ 3 ได้เลย 

ขั้นตอนที่ 4 กรมการจัดหางานอนุญาตให้ทำงาน แบ่งเป็น 

       กลุ่มที่ 1 แรงงานประมง : ยังไม่พิสูจน์สัญชาติอนุญาตถึง 30 มิ.ย.2561 ค่าใช้จ่าย 550 บาท พิสูจน์สัญชาติแล้วอนุญาตถึง 1 พ.ย. 2562 ค่าใช้จ่าย 1,900 บาท 

       กลุ่มที่ 2 ใบจับคู่ : ยังไม่พิสูจน์สัญชาติอนุญาตถึง 30 มิ.ย. 2561 ค่าใช้จ่าย 550 บาท ส่วนพิสูจน์สัญชาติแล้วและใบอนุญาตทำงานเดิมหมด 30 ธ.ค.2560 จะอนุญาตถึง 31 มีนาคม 2563 ค่าใช้จ่าย 2,225 บาท ส่วนกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานเดิมหมด 31 มี.ค. 2561 จะอนุญาตถึง 31 มี.ค.2563 ค่าใช้จ่าย 1,900 บาท และ

       กลุ่มที่ 3 บัตรสีชมพู : ยังไม่พิสูจน์สัญชาติอนุญาตถึง 30 มิ.ย. 2561 ค่าใช้จ่าย 325 บาท หากพิสูจน์สัญชาติแล้วอนุญาตถึง 31 มี.ค.2563 ค่าใช้จ่าย 1,900 บาท

ขั้นตอนที่ 5 สำนักงานประกันสังคมขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนให้กับแรงงานต่างด้าว ที่ทำงานในกิจการของนายจ้างที่เข้าประกันสังคมและแรงงานต่างด้าว ที่เคยขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนแล้ว กระทรวงสาธารณสุขทำประกันสุขภาพให้กับแรงงานต่างด้าว ที่ยังไม่ผ่านการพิสูจน์สัญชาติและผ่านการพิสูจน์สัญชาติ แบ่งเป็น 2 กรณีคือ 

        กรณีที่ 1 ทำงานในกิจการที่เข้าข่ายประกันสังคม และขึ้นทะเบียนผู้ประกันตน ต้องทำประกันสุขภาพเพื่อคุ้มครองก่อนเกิดสิทธิประกันสังคม 3 เดือน ค่าใช้จ่าย 500 บาท 

        กรณีที่ 2 ทำงานในกิจการไม่เข้าข่ายประกันสังคม (ผู้รับใช้ในบ้าน และกิจการประมง) ทำประกันสุขภาพ 2 ปี ค่าใช้จ่าย 3,200 บาท และขั้นตอนที่ 6 ชำระค่าบริการ (ค่าขึ้นทะเบียนประวัติ , ค่าตรวจลงตรา , ค่าใบอนุญาตทำงาน , ค่าประกันสุขภาพ) และรับบัตรประจำตัว/ใบอนุญาตทำงาน เอกสารที่ใช้คือ 

นายจ้างเตรียมเอกสารได้แก่ 

1. สำเนาบัตรประชาชน 

2. สำเนาทะเบียนบ้าน หากนายจ้างเป็นนิติบุคคลใช้สำเนาหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัทและทะเบียนบ้าน 3. ท.บ.1 

ส่วนแรงงานต่างด้าว เตรียมเอกสารได้แก่ 

1. ใบจับคู่ หรือ บัตรสีชมพู 

2. เอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้ เช่น CI TD 

3. ใบรับรองแพทย์ 

4. สำเนาบัตรประกันสังคม (ถ้ามี) สำหรับสถานที่ตั้งศูนย์ OSS มี 78 ศูนย์ทั่วประเทศ แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร 2 แห่งคือที่ศูนย์การค้าไอทีสแควร์ หลักสี่พลาซ่า เขตหลักสี่ และอาคารเพชรเกษมทาวเวอร์ เลขที่ 1759/3 ถ.เพชรเกษม เขตบางแค (ใกล้ห้างบิ๊กซี เพชรเกษม) และส่วนภูมิภาค 76 จังหวัดทั่วประเทศ

“ศูนย์ OSS จะเปิดดำเนินการไปจนถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 เท่านั้น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 5 – 10 ก.พ. 2561 มีแรงงานมาดำเนินการแล้ว 29,420 เป็นกัมพูชา 11,652 คน เมียนมา 14,901 คน ลาว 2,867 คน ทั้งนี้ รมว.แรงงาน กำชับให้นายจ้างรีบพาแรงงานมาดำเนินการที่ศูนย์ OSS ตั้งแต่บัดนี้ อย่ารอให้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2561 เพราะหากมาในช่วงใกล้หมดเวลาอาจไม่ได้รับความสะดวก รวดเร็ว 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นทื่ 1-10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน”นายอนุรักษ์ กล่าว

ที่มา: https://www.siamrath.co.th/n/30924

แชร์