จริงไหม เศร้าโศกถึงผู้ตาย วิญญาณนั้นจะไม่ไปสู่สุคติ

วาระจิตดวงสุดท้ายนั้น มาผูกไว้กับสิ่งที่เขาได้เห็นหรือรับทราบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาไม่ไปสู่สุคติ เพราะจิตดวงสุดท้ายมีภาวะผูกพันหรือข้องเกี่ยวกับความทุกข์ของผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง http://winne.ws/n23171

1.4 พัน ผู้เข้าชม
จริงไหม เศร้าโศกถึงผู้ตาย วิญญาณนั้นจะไม่ไปสู่สุคติ

จริงไหม หากยังโศกเศร้า คิดถึงคนตาย จะทำให้วิญญาณนั้นไม่ไปสู่สุคติ

คำถาม : ความเชื่อที่ว่า หากเรา คิดถึง ผู้ที่จากไป และยังโศกเศร้าเสียใจอยู่ จะทำให้วิญญาณผู้นั้นติดห่วง ไม่ไปสู่สุคติ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ หากผมยังทำใจไม่ได้ที่ภรรยาจากไปแต่ก็อยากให้เขาไปสู่สุขคติครับ

พระมหาธนาธิป มหาธมฺมรกฺขิโต  อธิบายว่า สภาวะจิตหรือจิตวิญญาณของผู้ล่วงลับ ไม่เกี่ยวข้องกับภาวะที่เป็นอดีตของเขา เพราะตามปกติแล้ว ผู้ที่ล่วงลับหรือตายไปแล้ว สภาวะจิตจะไปบังเกิดในทันที ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม เรียกว่า ปฏิสนธิจิต คำถามที่ว่า ถ้าเราคิดถึงหรือโศกเศร้าถึงผู้ล่วงลับไป จะทำให้เขาติดห่วง และไม่ไปสู่สุคติ หรือไม่นั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น ดังนี้

1.)ถ้าเขาจะไม่ไปสู่สุคติหรือติดห่วงก็เพราะว่าจิตของผู้ล่วงลับเอง พยายามอาลัยหรือยึดติดกับสภาวะที่เขาเคยรับทราบก่อนสิ้นวาระจิตดวงสุดท้าย ถ้าเราแสดงความห่วงหา อาลัย หรือ ความโศกเศร้า ให้เขาเห็นก่อนตาย เขาย่อมเอาวาระจิตดวงสุดท้ายนั้น มาผูกไว้กับสิ่งที่เขาได้เห็นหรือรับทราบเป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เขาไม่ไปสู่สุคติ  เพราะจิตดวงสุดท้ายมีภาวะผูกพันหรือข้องเกี่ยวกับความทุกข์ของผู้อยู่เบื้องหลังนั่นเอง

2.)การที่เราผู้อยู่เบื้องหลังของผู้จากไป มีความโศกเศร้า หรือโศกาดูร นั้นเป็นแต่เพียงความทุกข์ของเราผู้อยู่ในปัจจุบันเท่านั้น เพราะผู้จากไป ถ้าวาระจิตดวงสุดท้ายของเขาไม่รับทราบความทุกข์ของเรา เขาก็ไม่มีภาวะจิตใดมาข้องแวะ มาเกี่ยวข้องหรือผูกมัดกับเรา เขาก็ไปปฏิสนธิในที่สมควรในทันที ก็เป็นแต่เพียงเราเท่านั้น ที่ยังคงรักษาอดีตที่ไม่เกิดประโยชน์ใดเลย การยึดกับอดีตไม่มีผลดี และจะทำให้จิตใจอ่อนแอ สิ้นกำลังใจ บั่นทอนสติปัญญา  คนรอบข้างก็จะพลอยเศร้าหมองไปด้วย  ทั้งที่การมีภาวะอยู่ของชีวิตมีคุณค่ามหาศาล พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้มีปัญญา ไม่ควรคำนึงถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้วด้วยอาลัย ไม่พึงพะวงถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง สิ่งใดที่เป็นอดีตก็ล่วงไปแล้ว สิ่งใดที่เป็นอนาคตก็ยังไม่มาถึง


ขอบคุณข้อมูลจาก

http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/51416.html

แชร์