ข้อแรก. ร้ายนักใช่มะ ได้! ยิ้มใส่ซะเลย

      ถึงจะได้ยินว่าเค้านินทาเรา อิจฉาเรา หรือเอาเราไปเม้ามอยถึงไหนต่อไหน ไม่เป็นไรนะ ลองคิดในแง่ดี ทำดีๆ มีน้ำใจกับเค้า เปิดโอกาสให้คุณและเค้าได้รู้จักกันมากขึ้น ทุกอย่างอาจจะดีขึ้น แต่!!! ถ้าทำแล้วไม่เวิร์ก ก็อย่าเก็บไปคิด แล้วลองสังเกตดูว่าเค้าเป็นแบบนี้ทับทุกคนรึเปล่า

 ข้อสอง. ทำงานเป็นทีมสิช่วยได้

      การทำงานเป็นทีมต้องร่วมมือกัน ทำให้ได้ศึกษานิสัยใจคอกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้น เผลอๆอาจจะเลิกอคติแล้วคุยกันดีขึ้นก็ได้นะ

 ข้อสาม. อย่าไปสนใจ แล้วตั้งใจทำงานของเราซะ

      อย่ามัวแต่เอาเวลามาแคร์ใครก็ไม่รู้ มุ่งมั่นพัฒนางานตัวเองดีกว่านะยู อย่างน้อยเพื่อนร่วมงานใจร้ายจะได้ไม่สามารถหาข้อมาติคุณได้ไงล่ะ

ข้อสี่. สตรอง!

      ถ้าบังเอิ๊ญบังเอิญ เพื่อนร่วมงานตัวร้ายใส่ไฟคุณจนทุกคนเชื่อไปแล้ว อธิบายไปก็ไม่ได้ประโยชน์ ช่างเค้าค่ะ สตรองเข้าไว้!! มั่นๆ เซลฟ์ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องจริงนิ ทำไมชั้นต้องสน

 ข้อห้า. ความน่าเชื่อถือสร้างได้ไม่ยาก

      สร้างแรงหนุนและลบคำสบประมาททุกอย่างได้ง่ายๆ แค่ทำดีกับคนรอบข้าง หากได้รับการยอมรับจากทีมที่เชื่อมั่นใจตัวคุณแล้วเนี่ย เค้าจะไม่สนคำใส่ร้ายอะไรก็แล้วแต่

 ข้อหก. ชมไว้ก่อน สะดวกแบบนี้!

       กันไว้ดีกว่าแก้ เพื่อนร่วมงานบางคนก็ขยันหักขากันจริงจริ๊ง เอางี้มั้ย กล่าวชมออกไปสักหน่อย เพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าจากคนขี้อิจฉาเหล่านั้น

 ข้อเจ็ด. หัวหน้าขา ช่วยหนูที

       ไม่ได้หมายความว่าเข้าไปร้องไห้ฟูมฟาย หนูไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ทนแล้วค่ะ ไมได้นะ! วางตัวให้เหมาะสมหน่อยสิจ้ะ เอ่ยถึงปัญหาและความกังวล ขอคำแนะนำ ง่ายๆคือ ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำได้

ขอบคุณบทความจาก Facebook https://www.facebook.com/neenaitiew