พุทธศาสนา ในเปอร์เซียโบราณ (อิหร่าน)

เปอร์เซีย นั้นเป็นดินแดนอีกแห่งหนึ่งที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้ส่งคณะธรรมฑูตมาเผยแผ่ศาสนา ภายใต้การนำของพระโยนกถธรรมรักขิตเถระ อันเป็นคณะธรรมฑูตสายที่ ๔ ซึ้งจักรพรรดิราชอโศก โมริยะวงษ์ หรือ พระเจ้าอโศกมหาราช นั้นมีพระประสงค์ให้พระโยนกถธรรมรักขิตเถระไปประกาศพระศาสนาที่"อปรันตชนบท" ซึ้งก็คือดินแดนที่เป็น"ประเทศอิหร่าน"หรือเปอร์เซีย ในปัจจุบันนี้เอง

โดยมีใจความในพระไตรปิฏก"ฉบับมหามงกุฏ" มีใขความว่าดังนี้ "ฝ่ายพระโยนกธรรมรักขิตเถระ  ไปยังอปรันตกชนบทแล้ว  ให้ชนชาวอปรันตกชนบทเลื่อมใส  ด้วยอัคคิขันธูปมสุตตันตกถาแล้ว  ก็ให้สัตว์ประมาณสามหมื่นเจ็ดพันดื่มอมตธรรม.   บุรุษออกบรรพชา  แต่ขัตติยตระกูลหนึ่งพันคน.  และสตรีออกบรรพชาหกพันถ้วน. พระเถระนั้นได้ประดิษฐานพระศาสนาให้ดำรงมั่นอยู่ในอปรันตกชนบทนั้นแล้ว ด้วยประการฉะนี้"

"พระโยนกธรรมรักขิตเถระ ย่างเข้าสู่ปรันตกชนบทแล้ว   ก็ให้ชนเป็นอันมาก ในอปรันตกชนบทนั่นเลื่อมใสแล้ว  ด้วยอัคคิขันธูปมสูตรแล"

ซึ้งจะเห็นได้ว่าในสมัยโบราณนั้นศาสนาพุทธคือศาสนาสากลแรกๆของโลกที่มีผู้คนนับถืออยู่ทุกหัวระแหง ไม่แพ้ ศาสนาคริสต์ หรือ อิสลาม เลยทีเดียว

ศาสนาพุทธ ดำรงอยู่ได้ในเปอร์เซีย ไม่กี่ร้อยปี จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 5 ราชวงซาสซนิด ได้ขึ้นมาปกครองประเทศ ราชวงนี้ทรงนับถือ"ศาสนาโซโรอัสเตอร์"อย่างเคร่งครัด และเป็น พวกที่ไม่มีขันติธรรมทางศาสนา ทำให้มีการกดขี่ศาสนาพุทธในอาณาจักรเปอร์เซีย มีการทำลายวัด กดขี่พระสงฆ์ และ บังคับให้ชาวพุทธเข้ารีตกลับสู่ศาสนาเดิม การกระทำเหล่านี้ต่างทำให้ศาสนาพุทธอ่อนแอลง และ สิ้นสลายหลังจากการบุกรุกของจักรวรรดิอิสลามและโซโรอัสเซอร์เองก็กลายเป็น อิสลาม เพราะทหารอิสลามบุกฆ่ายึดดินแดนและบังคับเปลี่ยนศาสนา จนพวกโซโรอัสเซอร์บางส่วนได้หนีไปอยู่ที่อินเดีย ซึ่งสมัยนี้เรียกว่า เมืองมุมไบ่

ขอบคุณภาพและข้อมูล

เฟซบุ๊กPhalakorn Yasri