เมื่อวันศุกร์ที่ 25  พฤษภาคม 2561 ทนายความของพระพรหมดิลก ได้ชี้แจงในกรณีเงินทอนวัด ของวัดสามพระยา ความโดยสรุปว่า 

- วัดสามพระยาวรวิหาร   โดย โครงการสร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมฯ   มีความจำเป็นต้องสร้างอาคารที่พักนักเรียน(พระภิกษุที่มาเรียนพระบาลี)จากทั่วประเทศ เพราะเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมส่วนกลางของคณะสงฆ์ไทย

-โดยมีญาติโยมบริจาคเงินทำบุญร่วมกันสร้าง แต่งบประมาณก็ยังไม่เพียงพอ

- วัดจึงดำเนินการจัดทำเอกสารของบประมาณจากพศ. ( สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ) จำนวน ๓๕ ล้านบาทถ้วน

- โดยในหนังสือจากทางวัดได้ระบบชัดเจนว่าจะขอเงินงบประมาณไปทำอะไร   ซึ่งขั้นตอนต่อจากนั้นเป็นของเจ้าหน้าที่พศ. ในการจัดสรรเงินงบประมาณให้  

- วัดได้งบประมาณจากพศ. จำนวน ๕ ล้านบาทถ้วน โดยมีเพียงเช็คเงินสด ๕ ล้าน โดยไม่มีหนังสือนำส่งจาก พศ.มากับเช็คดังกล่าวเลยว่าเป็นงบเพื่อการอะไร   ด้วยเหตุนี้ ทางวัดจึงเข้าใจว่า  เป็นงบประมาณตามหนังสือที่ทางวัดได้ทำเรื่องขอไป( ( คือ ทางวัดของบฯมาเพื่อการก่อสร้างอาคารฯ)

- และในการดำเนินการก่อสร้างมีบางครั้งที่วัดขาดสภาพคล่องเรื่องค่าใช้จ่าย จึงขอยืมเงินจากโยม  โดยให้โยมสำรองจ่ายให้บริษัทรับเหมาก่อสร้างไปก่อน ( ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกร้านค้า บริษัท แม้แต่กับวัด ที่บางครั้งก็ไม่มีเงินเก็บสำรอง /  แต่ในกรณีที่โยมสำรองจ่ายให้ก่อนนั้น  ไม่ทราบว่ามีการทำเอกสารขอยืมเงินเป็นหลักฐานหรือไม่)

- เมื่อวัดได้รับงบประมาณจากพศ. จำนวน ๕ ล้านบาทถ้วน  จึงได้นำเงินส่วนหนึ่งไปคืนให้โยมที่ช่วยสำรองจ่ายให้  (เป็นการใช้หนี้ที่ยืมมา )  แต่เรื่องกลับตาลปัตรกลายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน ! 

ในขณะที่มีการดำเนินการกับทาง วัดสามพระยา นั้น  ยังไม่มีความคืบหน้าในการติดตามข้อมูลจากฝั่งเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติที่เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าว

โดย  โฆษิกา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 
วัดสามพระยาฯชี้แจง ทำหนังสือของบประมาณ
https://bit.ly/2kpit9Y