“อีลอน มัสก์” ฉายาไอรอนแมน กู้ภัยทีมหมูป่า เห็นความงดงามอะไรในเมืองไทย

มัสก์ ทิ้งท้ายข้อความอินสตาแกรมของตัวเองไว้ว่า “Thailand is so beautiful” ถอดความเป็นไทยได้ประมาณว่า “เมืองไทยช่างงดงามนัก” เขาเห็นความงดงามอะไรของเมืองไทย? ในการมาเพียงชั่วคราว http://winne.ws/n24401

1.9 พัน ผู้เข้าชม
“อีลอน มัสก์” ฉายาไอรอนแมน กู้ภัยทีมหมูป่า เห็นความงดงามอะไรในเมืองไทยSpringnews

คนไทยทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนเชียงราย ตอนนี้คงรู้จัก และจดจำ “อีลอน มัสก์” ได้ดีกว่าอภิมหาเศรษฐีโลกคนไหนๆ

จดจำในฐานะคนคนหนึ่ง ซึ่งมีมนุษยธรรม มีน้ำใจงาม ใส่ใจในคุณค่าของชีวิตมนุษย์ แม้จะ “ติดถ้ำ” อยู่อีกฟากหนึ่งของโลกก็ตามที

อีลอน มัสก์ เข้ามาเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการพา 13 หมูป่าพ้นถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เมื่อตอนวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ที่ติดตามทวิตเตอร์ของเขารายหนึ่ง ถามผ่านทวิตเตอร์ว่า พอจะมีไอเดียอะไรไหม ที่จะช่วยคนทั้งหมดออกมาจาก เนินนมสาว 7 กิโลเมตรโดยประมาณจากปากถ้ำหลวง

ตอนนั้น ทีมปฏิบัติการค้นหากู้ภัย ซึ่งลงมือทำงานกู้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ชาติไทย พบน้องๆ ทั้ง 13 คนแล้ว แต่ยังขบไม่แตกว่า จะเอาทั้งหมดออกมาอย่างไร

เชื่อว่า มัสก์ ติดตามกรณีนี้อยู่ตลอด เพราะเขาตอบทวิตเตอร์ดังกล่าวทันทีว่า ตอนแรกไม่ได้ขยับอะไร เพราะเข้าใจว่า รัฐบาลไทยคงจัดการเรื่องนี้อยู่มือแล้ว

แต่พอตระหนักถึงปัญหา อาศัยความรู้ ความคิดแบบวิศวกรและนักออกแบบ นำเสนอทางออกออกมาทันที

ไอเดียแรกๆ ของมัสก์ มีตั้งแต่การใช้ท่อพองลม และใช้ยานพองลม ที่เขาบอกว่า น่าจะทำจากโพลียูรีเทนชนิดหนา เคลือบอีกชั้นด้วย เคฟลาร์ ซึ่งปกติใช้ทำเสื้อเกราะกันกระสุน เพื่อป้องกันการฉีกขาด จากแง่หินแหลมคม

แนวคิดของมัสก์ ตรงกันวิศวรชาวไทยรายหนึ่งที่เสนอ “อุโมงค์ลม” ต่อนายกรัฐมนตรีโดยบังเอิญ และมีการนำมาทดลองกันในเวลาต่อมา

ปัญหาของ อีลอน มัสก์ ในตอนแรกก็คือ ไม่รู้ข้อมูลแน่ชัดเท่าใดนัก นอกเหนือจากที่ปรากฏในข่าวสารทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพทางกายภาพของถ้ำหลวง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการออกแบบ

ดีที่มี คุณ เจมส์ เย็นบำรุง เจ้าของบริษัทด้านวิศวการก้าวหน้าของไทยรายหนึ่ง ส่งข้อมูลจำเพาะหลายๆอย่างให้ผ่านทวิตเตอร์

กระนั้น มัสก์ ก็เรียกร้องผ่านทวิตเตอร์ขอข้อมูลโดยตรงจากทีมปฏิบัติการกู้ภัย ทั้งยังส่งทีมวิศวกรมายังถ้ำหลวง จนได้รับข้อมูลที่ต้องการในที่สุด

“อีลอน มัสก์” ฉายาไอรอนแมน กู้ภัยทีมหมูป่า เห็นความงดงามอะไรในเมืองไทยFacebook

สุดท้ายแล้วตอนตี 3 ตามเวลาในไทยของวันที่ 8 กรกฎาคม มัสก์ ถึงได้ไอเดีย “เรือดำน้ำจิ๋ว” ออกมา

อาศัยท่อบรรจุออกซิเจนเหลว สำหรับจรวดส่ง “ฟอลคอน9” ซึ่งเป็นจรวดส่งสัมภาระหนักขึ้นสู่ห้วงอวกาศ มาดัดแปลงให้เป็นเรือดำน้ำทรงกระบอก ใช้นักดำน้ำประคองหรือจะใช้เชือกลากโยงเด็กๆ ออกมาครั้งละคน

อีลอน มัสก์ โชว์ศักยภาพคนทำงานของบริษัทของเขาด้วยการระบุชัดไว้ในทวิตเตอร์ว่า เรือดำน้ำขนาดเล็กนี้ “ต้องเสร็จ” ใน 8 ชั่วโมง แล้วใช้เวลาส่งอีก 17 ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือ 13 หมูป่า

มัสก์ ติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดถึงขนาดรู้ชื่อทีม “หมูป่าอะคาเดมี” แล้วตั้งชื่อเรือดำน้ำจิ๋วกู้ภัยว่า “ไวลด์ บอร์” ตามชื่อทีม

เขาใช้เครื่องบินส่วนตัวนำส่ง เรือดำน้ำไวลด์ บอร์ สู่ถ้ำหลวงด้วยตัวเอง ตะลุยเข้าไปจนถึง โถง3 ที่เป็นศูนย์บัญชาการกู้ภัยส่วนหน้า โพสต์ข้อความไว้ในอินสตาแกรม ระบุว่า ถึงจะไม่ได้ใช้ก็ไม่เป็นไร จะทิ้งเรือดำน้ำไวลด์บอร์ไว้ที่เมืองไทย เผื่อมีโอกาสได้ใช้ในอนาคต

ข้อที่น่าสังเกตก็คือ มัสก์ มีกิจการของตัวเองอยู่ 3 บริษัท หนึ่งคือ สเปซเอ็กซ์ เป็นกิจการในห้วงอวกาศ หนึ่งคือ เทสลา กิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ากับแบตเตอรี สุดท้ายคือบอริง คอมพะนี ที่ชำนาญการขุดเจาะอุโมงค์

ทั้ง 3 บริษัทไม่มีธุรกิจอยู่ในไทยเลยในขณะนี้

เขาช่วยเพราะอยากช่วยจริงๆ เท่านั้นเอง

มัสก์ ทิ้งท้ายข้อความอินสตาแกรมของตัวเองไว้ว่า “Thailand is so beautiful” ถอดความเป็นไทยได้ประมาณว่า “เมืองไทยช่างงดงามนัก”

เขาเห็นความงดงามอะไรของเมืองไทย? การเดินทางเพื่อส่งของกู้ภัยชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ไม่น่าจะทำให้เขาได้เห็นความงามของวัดพระแก้ว ความยิ่งใหญ่โอฬารของเมืองเก่าสุโขทัย หรืออยุธยา หรืออะไรอื่น

สิ่งที่ อีลอน มัสก์ ได้พบเห็นกับตา ได้รับรู้ด้วยตัวเอง น่าจะเป็นเพียงสรรพกำลังทั้งหลาย ที่ระดมกันจากทั่วประเทศมาอยู่ที่ถ้ำหลวง ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจสุดขีดแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือชีวิต 13 ชีวิตเท่านั้นเอง

ใครทำงานหนักๆ ได้ ก็ทำไป ใครทำอาหารได้ก็ทำอาหารเลี้ยง ใครซักเสื้อผ้าได้ก็ช่วยกันซัก ฯลฯ ทุกๆ คนกลายเป็นห่วงโซ่พลังงานที่สำแดงอานุภาพยิ่งใหญ่ออกมาให้เห็นกันในการช่วยชีวิตคนครั้งนี้

ไม่รู้ว่า อีลอน มัสก์ รับรู้ด้วยหรือไม่ว่า ชาวนาบางคนที่ไร่นาเสียหายเพราะถูกจากถ้ำหลวงหลากท่วม ถึงกับปฏิเสธที่จะรับความช่วยเหลือชดเชยจากทางการ

ให้เหตุผลว่า ความเสียหายของตนน้อยนักเมื่อเทียบกับคุณค่าของชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง

แต่น่าเชื่อว่าเหล่านี้คือสิ่งที่ อีลอน มัสก์ ได้สัมผัสและได้ตระหนัก จนถึงกับออกปากมาว่า “Thailand is so beautiful

เพราะคนไทยทั่วประเทศก็กำลังคิดเช่นนั้นกับปฏิบัติการครั้งนี้เช่นเดียวกัน

 Cr.ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์


ขอบคุณแหล่งที่มาจาก

https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1037576

แชร์