เล่ห์เหลี่ยมของคนโกง

คนโกงย่อมเป็นคนเจ้าเล่ห์ทำเล่ห์กลให้ผู้อื่นตายใจว่าตนเป็นคนดีมีศีลมีสัตย์ จนผู้อื่นตายใจเเล้วก็โกงเอาทรัพย์สินของผู้อื่น โดยเจ้าของทรัพย์คิดไม่ถึงว่าเมื่อมองดูภายนอกก็พอเชื่อได้ว่าเป็นคนดีมีศีลมีสัตย์เเต่ภายในจิตใจเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม http://winne.ws/n24601

3.5 พัน ผู้เข้าชม
เล่ห์เหลี่ยมของคนโกง

         ในอดีตกาลนานไกลโพ้นในกรุงพาราณสี มีดาบสผู้หนึ่งอาศัยอยู่ ณ บรรณศาลาของผู้มีอันจะกินคนหนึ่งที่่สร้างถวายไว้ในป่าดาบสผู้นั้นรับอาราธนาฉันภัตตาหารของผู้มีอันจะกินคนนั้นเป็นประจำเพราะความที่ผู้มีอันจะกินคนนั้นเกรงกลัวต่อโจรภัย จึงคิดว่า"ฤาษีท่านนี้เป็นผู้มีศีล มีธรรม คงจะไว้ใจได้ เราจะฝากทองคำมีน้ำหนักเป็นร้อย โดยฝังไว้ใต้บรรณศาลานั้น" พร้อมกับกล่าวกับฤาษีว่า"ขอท่านได้โปรดช่วยดูเเลทรัพย์นี้ด้วย"  ดาบสเจ้าเล่ห์ กล่าวเเก่ผู้มีอันจะกินผู้นั้นว่า"พ่อมหาจำเริญ!อันธรรมดาบรรพชิตผู้พยายามละกิเลสนั้นย่อมไม่เหมาะเเก่การทำหน้าที่รักษาทรัพย์สมบัติให้ผู้ใดเเละบรรพชิตนั้นย่อมปราศจากความโลภในทรัพย์สินของผู้ใด"ผู้มีอันจะกินคนนั้นได้ฟังคำกล่าวของฤาษีก็ยิ่งเลื่อมใสเเละปักใจว่าทองคำของอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นเเน่เเท้เเล้วก็ลากลับไป  

         ดาบสผู้นั้นนั่งใคร่ครวญรำพึงในใจว่า"ทองคำมีน้ำหนักตั้งร้อยคงจะพอเลี้ยงชีวิตเราได้เเล้วทอดเวลาให้เนิ่นนานไปพอสมควร ได้ลักเอาทองคำย้ายที่ไปฝังไว้ ณ ที่อื่น"วันรุ่งขึ้น เมื่อฉันภัตตาหารเสร็จเเล้วก็บอกผู้มีอันจะกินคนนั้นว่า "พ่อมหาจำเริญ!อาตมภาพอยู่ที่นี่มาก็นานเเล้ว บรรพชิตนั้นอยู่ในที่เดียวนานๆย่อมพัวพันคลุกคลีกับหมู่มนุษย์ เพราะการเกี่ยวข้องกันกับหมู่มนุษย์นั้นเป็นโทษเป็นมลทิน ของพวกฤาษี ฉะนั้น    อาตมภาพขอลาไปก่อนละ"เเม้ผู้มีอันจะกินคนอ้อนวอนเเล้วๆเล่าๆก็ไม่ยอมอยู่ พอเดินจากไปสักเล็กน้อยก็เเสร้งทำกลลวงผู้มีอันจะกินคนนั้น โดยวางหญ้าเส้นหนึ่งไว้ที่ชฎาของตนเเล้วเดินกลับไปหาผู้มีอันจะกินผู้นั้น ผู้มีอันจะกินถามว่า"ท่านกลับมาทำไมหรือขอรับ"ฤาษีผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงรูปนั้นเเกล้งตอบว่า "พ่อมหาจำเริญหญ้าเส้นหนึ่งบนหลังคาเรือนของท่านได้ตกลงมาติดที่ชฎาของอาตมาภาพๆจึงกลับมาโดยคิดว่าการกระทำอทินนาทาน(การถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้)บรรพชิตไม่สมควรประพฤติเป็นอย่างยิ่ง" ผู้มีอันจะกินคนนั้นเรียนว่า"พุทโธ่ หญ้าเส้นเดียวทิ้งมันไปเถิดขอรับ" 
          เเล้วยิ่งเลื่อมใสศรัทธาฤาษีขี้โกงรูปนั้นมากขึ้นโดยหลงเชื่อหลงศรัทธาว่า "ท่านดีจริง ไม่ลักไม่ขโมยทรัพย์สินของผู้ใดท่านซื่อจริง เเม้เเต่หญ้าเส้นเดียวที่ติดชฎาไป ท่านยังเอามาคืน"เเล้วเดินไปส่งฤาษีรูปนั้น
          พระโพธิสัตว์เดินทางไปถึงณ ที่นั้น เพื่อต้องการซื้อสินค้าไปขาย ได้ไปซื้ออาหารบริโภค ณบ้านของผู้มีอันจะกินผู้นั้นเเละฟังคำบอกเล่าของเขาเกี่ยวกับเรื่องดาบสที่ตนหลงว่าเป็นคนดี

          พระโพธิสัตว์เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าก็คิดว่า"ผู้มีอันจะกินคนนี้จะถูกฤาษีขี้โกงคนนี้ลักเอาทรัพย์สินไปเป็นเเน่"จึงถามผู้มีอันจะกินคนนั้นเเละได้รับฟังความจริงว่าเขาได้ฝังทองคำไว้ใต้บรรณศาลาของฤาษีรูปนั้นจึงบอกเขาว่าให้รีบไปตรวจดูทองคำที่ฝังไว้ว่าจะอยู่หรือไม่ ปรากฎว่าทองคำหายไปผู้มีอันจะกินคนนั้นรีบกลับมาบอกพระโพธิสัตว์ว่า"ทองคำหายไปเเล้ว"
          ทั้ง 2คนจึงรีบติดตามฤาษีไปโดยเร็ว พอทันกันก็จับไว้ให้เอาทองคำมาคืนเมื่อได้รับทองคำคืนมา พระโพธิสัตว์ได้ติเตียนฤาษีรูปนั้นว่า"ฤาษีขี้โกงท่านทำตัวเหมือนฉันบนเรือนเเล้วถ่ายบนหลังคาท่านเเสร้งทำเป็นรังเกียจเส้นหญ้าเพียงเส้นเดียว เเต่
ลักทองคำของเขาไปตั้งร้อย ท่านไม่ละอายใจบ้างเลยหรือ"พร้อมกับสอนสำทับว่า "คราวหน้าคราวหลังอย่าประพฤติเช่นนี้นะ"เเล้วปล่อยฤาษีผู้เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงรูปนั้นไป
           ตามเรื่องนี้จะให้คติสอนใจว่า"อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง" ไว้ใจได้เสียเมื่อไรทำตัวเป็นคนมีศีลธรรม เเต่
ซ่อนเล่ห์เหลี่ยมกลโกงไว้ภายในใจของตน คติที่ว่า"คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ" จงพิจารณาไว้ให้จงหนักอย่าไปหลงกลใครง่ายๆ เพราะดูเเต่กิริยาท่าทางภายนอกว่า "ไว้ใจได้เเล้วเชื่อง่าย จะเจ็บช้ำปวดร้าวใจในภายหลัง

ขอบคุณธรรมะจากเว็บ http://www.kalyanamitra.org

แชร์