ทำไมสุคติของเทวดาคือภพมนุษย์ ?
สุคติของเทวดา คือภพมนุษย์ เพราะถึงอย่างไรก็อยู่เป็นเทวดาไม่ได้แล้วเพราะหมดบุญที่จะได้เป็นเทวดาแล้ว ส่วนว่าจะไปเกิดต่อในร่างใด มนุษย์หรือถ้าบาปเข้าแทรก ก็อาจได้ไปเกิดเป็นเดรัจฉานก็ได้ http://winne.ws/n24676
ข้อคิดธรรมะดี ๆ จากงานเผาศพ..อยากให้อ่านให้จบ เพราะดีมากครับ
วันนี้ได้ไปร่วมฌาปนกิจศพคุณอาท่านหนึ่ง ท่านตั้งใจทำความดีมากตลอดชีวิตท่าน น่าชื่นชมมาก แต่ท่านมาเสียชีวิตเพราะโรคร้ายที่คนไทยเป็นกันมาก นั่นคือ มะเร็งตับ เป็นทั้งที่ไม่ได้ดื่มเหล่า สูบบุหรี่ เพราะท่านรักษาศีล ๘ มาเกือบตลอดชีวิต (คงเป็นวิบากกรรมเก่าในอดีตมาส่งผล)
ข้อคิดที่ได้จากการฟังธรรมพระอาจารย์ที่มาเทศน์หน้าศพก็กินใจมาก กลับมามองตนเอง ว่าเราได้เตรียมตัวไว้แค่ไหน ถูกวิธีหรือไม่ ?
พระอาจารย์บอกว่า ชีวิตคนเรามีความเสี่ยงสูงมากอยู่ ๓ ครั้ง และทุกคนต้องเสี่ยงไม่ว่าจะอยู่มุมใดของโลก คือ
๑. เมื่อมาปฏิสนธิในครรภ์
๒. เมื่อคลอดออกจากครรภ์มารดา
๓. เมื่อต้องละสังขารนี้ (ตาย)
๑. เมื่อมาปฏิสนธิในครรภ์มารดา นี้สำคัญมากเพราะเวลานั้นไม่สามารถใช้ความรู้ใด ๆ มาช่วยได้เลย สิ่งที่ใช้คือ กำลังบุญที่เราสั่งสมมาเท่านั้น ที่จะเป็นตัวบ่งบอกหรือกำหนดมารดา บิดาได้ ถ้ากำลังบุญน้อยก็อาจจะไปปฏิสนธิในครรภ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ แต่อาจเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรืออย่างอื่นได้
๒. เมื่อขณะคลอดออกมาจากครรภ์มารดา ก็เสี่ยงมาก เพราะบางคนคลอดก่อนกำหนด คลอดตามกำหนด คลอดเกินกำหนด หรือบางคนแท้งคือตายตั้งแต่ในครรภ์ และเมื่อเป็นทารกนั้นก็ไม่สามารถช่วยตัวเองได้เลย สิ่งที่ช่วยคือกำลังบุญที่สั่งสมมาเท่านั้น ที่จะดึงดูดสิ่งที่ดีมาสนับสนุนชีวิตของเรา
๓. เมื่อต้องละสังขาร (ตาย) จากกายนี้ มี ๔ ข้อที่ต้องคำนึงคือ
๓.๑ อาการที่ละสังขารนั้นเป็นอย่างไร บางคนไปอย่างสงบ บางคนทุกข์ทรมาน บางคนทุกข์บ้างแต่ไม่มาก
๓.๒ สภาพใจขณะออกจากกายนี้เป็นอย่างไร (หมองหรือผ่องใส หรือไม่เศร้าหมองและไม่ผ่องใส รอบุญบาปส่งผล)
๓.๓ รูปกายใหม่ที่ได้เมื่อละสังขารนี้ไปแล้ว เป็นอย่างไร
๓.๔ สถานที่ใหม่อยู่ที่ไหน มีสภาพเป็นอย่างไร
ดังเรื่องเล่าว่า เทวดาเมื่อหมดบุญและจะต้องจุติ(ตาย) เหล่าเพื่อน ๆ เทวดาจะมาห้อมล้อมและให้พรว่า ขอให้ไปสุคติ ขอให้มีลาภ ให้มีชีวิตที่ดี สุคติของเทวดา คือภพมนุษย์ เพราะถึงอย่างไรก็อยู่เป็นเทวดาไม่ได้แล้วเพราะหมดบุญที่จะได้เป็นเทวดาแล้ว ส่วนว่าจะไปเกิดต่อในร่างใด มนุษย์หรือถ้าบาปเข้าแทรก ก็อาจได้ไปเกิดเป็นเดรัจฉานก็ได้
พระธรรมเทศนาโดย พระครูวิบูลนิติธรรม (ไพบูลย์ ธมมวิปุโล)