พระพุทธศาสนา ตอนที่ 09 : อนัตตา ???

อนัตตา คือ ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ฉัน หมายถึง ตน หรือ ฉัน เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง ไม่เป็นอิสระ และไม่มั่นคงมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่ไม่เที่ยงและเป็นทุกข์ไม่ใช่ตน เป็นอนัตตา http://winne.ws/n24873

3.5 พัน ผู้เข้าชม

เรามาศึกษาพระพุทธศาสนา ผ่านการพูดคุยของคนที่อยากรู้ตัวจริง

พระพุทธศาสนา ตอนที่ 09 : อนัตตา ???

ทอม :  เมื่อพูดถึงไตรลักษณ์  ผมคิดว่า

              2 เรื่องแรกไม่ยากเกินไปสำหรับผม

              แต่เรื่องที่ 3 เข้าใจยากมากทีเดียว

พิม :    ค่ะ   2 เรื่องแรกเป็นสิ่งที่เราได้เห็น

             ได้ประสบกันในชีวิตประจำวัน 

             ศาสนาอื่นก็มีการสอนกัน

              แต่เรื่องที่ 3 คือ อนัตตา จะมีแต่ใน

              พระพุทธศาสนาเท่านั้น  และเป็น

              คำสอนที่โดดเด่นของพระสัมมา-

              สัมพุทธเจ้า

ทอม :  “อนัตตา”มีความหมายอย่างไรครับ ?

พิม :     เพื่อที่จะให้เข้าใจความหมายของ

               “อนัตตา” (ไม่ใช่ตน)  เราควรกลับไป

               ดูความหมายของคำว่า “ตน” เสียก่อน

               ในทางศาสนา คำว่า “ตน” หมายถึง

               สิ่งที่มีอยู่จริง เป็นอิสระ ไม่เปลี่ยนแปลง

               ซึ่งแสดงได้ด้วยคำว่า “ฉัน”

ทอม :  เพราะฉะนั้น “ไม่ใช่ตน” ก็หมายความ

               ว่า คำว่า “ฉัน” เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง

               ไม่เป็นอิสระ และเปลี่ยนแปลง

              ใช่ไหมครับ ?

พิม :    ใช่ค่ะพูดง่าย ๆ ก็คือ “ฉัน” ไม่ใช่ตน

ทอม :  ตามธรรมดาเราก็พูดว่า “ฉันเป็น

              ผู้ชาย” หรือ “ฉันกำลังนั่ง” หรือ

              “ฉันกำลังทำนั่นทำนี่” ผมประหลาดใจ

              ว่าทำไมพระพุทธศาสนาจึงปฏิเสธ

              ความจริงของคำว่า “ฉัน”

พิม :    ฉันคิดว่าการปฏิเสธคำว่า “ฉัน”

             ตามหลักพระพุทธศาสนาไม่ได้เป็น

             การปฏิเสธการใช้สรรพนามคำว่า

             “ฉัน” แต่ปฏิเสธแนวคิดของคำว่า

             “ฉัน” ที่มีความหมายว่าเป็นสิ่งถาวร

             ไม่เปลี่ยนแปลง  ทั้งนี้ก็เพราะจาก

             การวิเคราะห์องค์ประกอบของบุคคล

             ตามหลักพระพุทธศาสนานั้น  มนุษย์

             ประกอบด้วยขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา

             สัญญา สังขาร และวิญญาณ

             จากการวิเคราะห์นี้ไม่ได้พบ“ตน”

             นั่นคือทั้งกายทั้งใจไม่ใช่ตน 

             พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้รถและ

             ป่า เป็นตัวอย่างประกอบการอธิบาย

             ความสัมพันธ์ระหว่างคำว่า “ฉัน”

             กับองค์ประกอบของบุคคล  ทรง

             อธิบายว่ารถนั้นประกอบขึ้นมาจาก

             ชิ้นส่วนต่าง ๆ ซึ่งประสานกันอย่าง

             พอเหมาะ  ตัวรถไม่ใช่รถ เพลาและ

              ล้อก็ไม่ใช่รถ  ในทำนองเดียวกัน

              ต้นไม้แต่ละต้นก็ไม่ใช่ป่า

              ต้นไม้จำนวนมามายมหาศาลที่ขึ้น

              อยู่ในป่าก็ไม่ใช่ป่า  คำว่า “ป่า” เป็น

              เพียงชื่อที่บัญญัติขึ้นสำหรับเรียก

              ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก

              พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้การ

              วิเคราะห์เดียวกันนี้กับร่างกายและใจ

              ของคนเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนไม่มีอยู่

              ในกายหรือจิต  ถ้ากายและจิตเป็นตน

              กายและจิตก็ต้องมั่นคงถาวรอยู่นิรันดร์

ทอม :  กายกับใจไม่ใช่ตน ใช่ไหมครับ ?

พิม :    ไม่ใช่แน่นอนค่ะ

ทอม :  เพราะฉะนั้น ฉัน” ก็ไม่ใช่ตน

               เพราะ เปลี่ยนแปลง  ชรา

              แตกสลาย และ ตาย

พิม :    ตอนนี้คุณเห็นหรือยังว่า

             สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง

             สิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์

             สิ่งที่ไม่เที่ยงและเป็นทุกข์ไม่ใช่ตน

              (เป็นอนัตตา)

ทอม :  ครับ  ผมเข้าใจเรื่องไตรลักษณ์ดีขึ้น

              แล้วครับ  ขออนุโมทนาด้วย

พิม :    สาธุ

 

ขอขอบคุณข้อมูลดี ๆ : อ. สุวณีย์ ศรีโสภา (Cr. ครูบาอาจารย์ผู้ทุ่มเท)

ขอขอบคุณรูปภาพ :  Bua loy

แชร์