มหาวิทยาลัยในจีน ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในเอเซีย แซงสิงคโปร์ !!
'มหาวิทยาลัยชิงหัว' ของจีนไต่ขึ้นอันดับ 1 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกประจำปี 2019 แซงหน้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ... http://winne.ws/n24998
'มหาวิทยาลัยชิงหัว' ของจีนไต่ขึ้นอันดับ 1 การจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกประจำปี 2019 แซงหน้ามหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ขณะที่มหาวิทยาลัยในไทยไม่ติดอันดับ 500 มหาวิทยาลัยแรกทั่วโลก
Times Higher Education หน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยประจำปี 2019 ระบุว่า ในปีนี้ 'มหาวิทยาลัยชิงหัว' ของจีนไต่อันดับขึ้นมาแซงหน้า 'มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS)' ขึ้นแท่นเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของเอเชีย และอยู่ในลำดับที่ 22 ของโลก แซงหน้า The London School of Economics and Political Science ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยนิวยอร์กของสหรัฐฯ
ขณะที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ที่ครองอันดับ 1 ของเอเชียเมื่อปีที่ผ่านมาตกลงมาอยู่ในอันดับที่ 23 นอกจากนี้ยังมีมหาวิทยาลัยจากเอเชีย 4 มหาวิทยาลัยที่ติด 1 ใน 50 แรกของการจัดลำดับในครั้งนี้ โดยมหาวิทยาลัยปักกิ่งจากจีนอยู่ในลำดับที่31 มหาวิทยาลัยฮ่องกงอยู่ในลำดับที่ 36 มหาวิทยาลัยโตเกียวอยู่ในลำดับที่ 42 และมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกงอยู่ในลำดับที่ 46
ฟิล บาตี้ บรรณาธิการบริหารของTimes Higher Education กล่าวว่า
'การก้าวขึ้นมาของ 'มหาวิทยาลัยชิงหัว' ของจีนเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ' โดยฟิลชี้ให้เห็นว่า 'ภูมิภาคเอเชียตะวันออกต่างลงทุนกับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยมากขึ้นและมีการสร้างความร่วมมมือในระดับนานาชาติที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้มหาวิทยาลัยในเอเชียหลายแห่งยังกระตือรือร้นในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพทางการแข่งขันในระดับโลก ขณะที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรต่างๆยังคงรักษาเสถียรภาพของตนเองไว้ไม่ให้ตกอันดับเท่านั้น และอีก 10 ปีข้างหน้า มหาวิทยาลัยของสิงคโปร์และจีนอาจจะก้าวขึ้นมาอยู่ในลำดับ 10 แรกของการจัดอันดับก็เป็นไปได้'
-----------
การจัดอันดับดังกล่าวทางผู้จัดเก็บสถิตตัวชี้วัดกว่า 13 รายการทั้งการสอน งานวิจัย ความร่วมมือในเวทีนานาชาติ รวมไปถึงการอ้างอิงผลงานวิจัยและการจัดการทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย โดยในปีนี้มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัยมากกว่า 1,250แห่งจาก 83 ประเทศทั่วโลก
สำหรับมหาวิทยาลัยที่ครองแชมป์อันดับ 1 ของการจัดอันดับนี้ได้แก่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ตามมาด้วยมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของสหรัฐฯ
ข้อมูลจาก : voicetv