อบรมสั่งสอน กับด่า ต่างกันอย่างไร

อบรมสั่งสอน กับด่า ไม่เหมือนกัน อบรมสั่งสอน ใช้กับ พ่อแม่ ครูอาจารย์ที่รักลูก หรือมิตรแท้ ที่จะตักเตือน พร่ำสอน เวลาคนที่ตนเองรัก ทำผิด ทำชั่ว ให้หลาบจำ http://winne.ws/n25113

4.1 พัน ผู้เข้าชม
อบรมสั่งสอน กับด่า ต่างกันอย่างไรdepositphotos.com

อบรมสั่งสอน กับด่า ไม่เหมือนกัน

อบรมสั่งสอน  ใช้กับ พ่อแม่  ครูอาจารย์ที่รักลูก

หรือมิตรแท้  ที่จะตักเตือน  พร่ำสอน

เวลาคนที่ตนเองรัก ทำผิด ทำชั่ว  ให้หลาบจำ

เริ่มจาก พูดดีดี  ยังดื้อ ก็จะว่ากล่าว  ตักเตือน  

ตำหนิ ติเตียน   วัตถุประสงค์ เพื่อให้ชีวิตเขาดีขึ้น    เวลาที่เขาประมาท หลงผิด

จะใช้  ตอนที่ดิ้อรั้น  ดื้อดึง ดื้อด้าน

เหมือนฝึกม้า  ถ้าม้าอาชาไนยจะรักการฝึกตัว

ช่างสังเกต  กลัวการถูกดุ ถูกลงโทษ  เห็นม้าตัวอื่นถูกดุ ถูกลงโทษ  จะระวังไม่ไปทำสิ่งนั้น

ม้าพยศก็จะเหนื่อยมาก มีนิสัยดื้อ  ก็ต้องดุ ต้องเฆี่ยนตี ถึงจะ

ปราบพยศได้  ถึงจะเป็นม้าดีได้  ทั้ง ๆ ที่มีความแกร่งในตัว  ความดีในตัว

แต่เก็บเอาไว้  ไม่เอาออกมาใช้เต็มที่  เพราะมีความขี้เกียจ  

พอมีบุญเก่า ได้ครูดี  มีเมตตา เห็นแววเอามาชุบเลี้ยงฝึกฝน  จนเป็นม้าชั้นดี  ที่สง่างาม

พอพระราชามาเห็น  หรือมีแมวมองมาเห็น ว่า ม้าตัวนี้ ช่างคู่ควรแก่พระราชา

หาได้ยาก

ก็จะนำไปถวายพระราชาให้ทรงเลี้ยง    เป็นม้าแก้ว  ประจำพระองค์

( แก้ว ซึ่งหมายถึงสิ่งที่ใครได้ครอบครอง

แล้วมีแต่ความปลื้มใจ

เช่น ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว  ขุนคลังแก้ว  ลูกแก้ว แม่แก้ว )

เวลาพระราชา  มีม้าตัวนี้

อยู่ใกล้ ก็จะมีแต่ความปลื้มปีติใจ สุขใจทั้งต่อตัวท่านและพสกนิกร

ส่วนรางวัลของครูผู้ฝึกม้า

คือ  บุญบารมีทั้ง 30 ทัศที่จะแก่รอบขึ้นมหาศาล

มีบุญบารมีแก่รอบมากก็จะแข็งแกร่งมากทั้ง

ร่างกายและจิตใจ  มีคนรักมาก  มีทีมที่ดีที่แข็งแกร่ง  มีทรัพย์มาก

มีดวงปัญญามาก  จะทำให้เป็นที่พึงของตนเอง

และหมู่คณะ รวมถึงชาวโลกได้มาก

ส่วนด่า  หมายถึง การใช้คำพูด  เพื่อให้ เขาตกต่ำลง  จากที่เป็นจริง

เช่น  ไอ้หมา  ไอ้เหี้ย  ไอ้สัตว์  ไอ้เลว  ไอ้ระยำ

อบรมสั่งสอน ใช้กับ พ่อแม่ ครูอาจารย์ที่รักลูกรักศิษย์

อบรมสั่งสอน กับด่า ต่างกันอย่างไรwww.artel.cl

ว่ากล่าว ตักเตือน ใช้เวลาทำที่เขาทำผิดศีล ผิดธรรม (การกกระทำทางกาย วาจา ใจ ที่เบียดเบียนตัวเอง  เยียดเบียนคนอื่น ไม่ก่อให้เกิดสุข เกิดกุศล ประมาทเลินเล่อ )ผิดกฏหมาย ผิดจารีตประเพณี  

เช่น  ขับรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวก  ตำรวจก็ว่ากล่าวตักเตือน

ลูกตื่นสาย เป็นประจำ พ่อแม่ก็ต้อง  ว่ากล่าวตักเตือน  ด้วยความปราถนาดี ว่ากลัวลูกจะติดเป็นนิสัย  ไม่ปล่อยปล่ะ ละเลย จนเป็นนิสัย ไม่งั้นจะเป็นคนที่ดื้อ  ว่ายากสอนยาก  พ่อแม่ยัง ตักเตือนสั่งสอนไม่ได้  คนอื่นยิ่งยากมาก  ยกเว้นต้องมาเจอพระโพธิสัตว์

ที่ต้องอดทน  ใช้เหตุใช้ผล  ใช้กุศโลบาย  ถ้าใฝ่ดีอยู่บ้าง  ไม่ใช่ดื้อด้านซะทีเดียว  แต่เพราะขาดพ่อแม่ ครูอาจารย์อบรมสั่งสอน  ด้วยวิบากกรรม

ที่เบื่อหน่ายคำสั่งสอน จากท่านมาข้ามชาติ

  ถ้าเจอกัลยาณมิตร  ก็จะพลิกชีวิตเป็นบุคคลอาชาไนยได้เหมือนกัน

เชื้อดื้อ  เป็นสนิมในใจ

ที่ทำลายใจคนที่แข็งแกร่ง ให้อ่อนแอลง

เป็นเหมือน วัชพืชในนา

ที่จะปลูกพืชพันธ์ดี  ยังไงก็ได้ผลผลิตน้อย

อบรมสั่งสอน กับด่า ต่างกันอย่างไร

ดังนั้น ใกล้ถึงวันมหาปวารณา 24 ต.ค. นี้

ใครมีเชื้อดื้ออยู่  ก็ขอให้สามารถ กำจัดให้หมดไปจากใจ  และไปขอขมา กับพ่อแม่ ครูอาจารย์ และกัลยาณมิตร  ที่เราเคย  ดื้อต่อท่าน  ขาดความเคารพ ความกตัญญูต่อท่าน  บางทีก็ถึงกับลบหลู่คุณท่าน   ไม่มองคุณความดี ความเมตตาของท่าน  กลับเป็นมิจฉาทิฏฐิ

มองว่า  ท่านด่า  ท่านเกลียด   ท่านหวังร้าย มองลบไปจากความจริง

ท่านอยากให้สูงเสียดฟ้า

กลับมองว่า  ท่านอยากให้ลงนรก  เช่น  พ่อแม่ที่ไม่รู้จะห้ามลูกดื้อ ยังไง

เวลา ลูกที่ชอบไปเล่นน้ำลึก ๆ กลัวลูกตาย

ก็อาจใช้คำพูดแรง  ใช้ยาแรง แต่ลูกกลับคิดว่า

ท่านเกลียด   เราต้องมองว่า  ท่านกลัวเราตายจากท่าน

ท่านจึงพูดอย่างนั้น  ไม่ใช่เพราะเกลียดเรา   ที่ท่านเกลียด และอยากกำจัด คือ เชื้อดื้อ ที่เป็นสนิมเกาะกินใจของลูกท่าน

คือ วัชพืชในชิวิตของเราต่างหาก    ที่ท่านพยายามกำจัดออก  เพื่อให้สิ่งที่ดีงาม  เจริญขึ้นในชีวิตของเรา

ดังนั้น จงเป็นคนว่าง่าย สอนง่าย  เพราะจะมีแต่ศิริมงคลเกิดขึ้นในชีวิต

ตรงกับคำสอนของ พระพุทธองค์ ที่ว่า ความเป็นคนว่า(กล่าวตักเตือนเวลาทำผิด) ง่ายเป็นมงคลของชีวิต

ขอจงมีความสุขทุกท่านนะ

จากแดนหิมาลัย  เนปาล

13 ต.ค 61 

http://www.kalyanamitra.org/th/mngkhlchiwit38_detail.php?page=117

ขอบคุณเนื้อหาจาก 

เฟซบุ๊กพระถาวร วรรณพงษ์

แชร์