ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรี

..ไม่ว่ารวยหรือจน ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรีเหมือนกัน.. http://winne.ws/n25387

2.3 พัน ผู้เข้าชม
ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรี

“ไม่ว่ารวยหรือจน  ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรีเหมือนกัน”

     ฉันเป็นครูมัธยมของโรงเรียนดังประจำมณฑล พักอาศัยอยู่ในหอพักของโรงเรียนพร้อมสามีวันนี้มีนักเรียนหญิงพาผู้ปกครองมาเยี่ยม  พ่อเขาอุตส่าห์ถีบรถจักรยานระยะทาง 40 กม. จากบ้านมาเยี่ยมลูกสาวซึ่งเป็นนักเรียนประจำ 

     "ก็เลยถือโอกาสมาสวัสดีคุณครูด้วยครับ"   พ่อเขากล่าวด้วยความสุภาพ

     "บ้านนอกก็ไม่มีอะไรจะมาฝาก มีแต่ไข่ไก่สดๆมาฝากคุณครูครับ"

     พอแกะห่อผ้าที่ประคองมาอย่างทะนุถนอมออก  ในห่อผ้ามีแกลบรองรับไข่ไก่อยู่สิบกว่าฟองมองดูก็รับรู้ได้ว่า ตั้งใจห่อหุ้มมาอย่างระมัดระวัง คงเพราะกลัวไข่ไก่จะแตก

     ฉันน้อมรับด้วยความขอบคุณ  ฉันบอกว่ากำลังจะห่อเกี๊ยวทานกัน  ก็เลยชวนอยู่ช่วยกันห่อเกี๊ยวแล้วทานมื้อเที่ยงด้วยกัน  พ่อลูกตกใจรีบปฏิเสธด้วยความเกรงใจ  ฉันเลยต้องขอร้องให้อยู่ตามคำเชิญชวน

     ตอนทานเกี๊ยวด้วยกัน  ทั้งคู่ก็ยังเคอะเขินและเรียบร้อยแต่ดูรู้ว่าดีอกดีใจเป็นปลื้มมาก หลังจากทั้งคู่กลับไปแล้ว

     สามีแสดงสีหน้าประหลาดใจ  ปกติฉันมักจะปฏิเสธไม่ค่อยยอมรับของฝากจากใครๆแบบง่ายๆ แต่วันนี้มาแปลกถูกสยบด้วยไข่ไก่สิบกว่าฟอง  ซ้ำยังเชิญชวนให้อยู่ทานเกี๊ยวด้วยกัน

ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรี

     มองดูแววตาที่ฉงนของสามี ฉันได้แต่ยิ้ม  แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนให้ฟัง

     ตอนฉันอายุ 10 ขวบ  จีนยุคนั้นยังถือว่าอยู่ในยุคขัดสน  มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อมีธุระด่วนต้องโทรศัพท์ไปหาคุณลุงที่อยู่ต่างถิ่น  สมัยนั้นโทรศัพท์เป็นของหายาก ไปรษณีย์หมู่บ้านแทบจะเป็นที่เดียวที่สามารถใช้บริการนี้ได้  ตอนนั้นมันมืดแล้ว พ่อลูกต้องเดินไปในความมืด ไปรษณีย์อยู่ห่างจากบ้านเราประมาณ 5 กม.บนบ่าฉันแบกลูกสาลี่ที่เพิ่งเด็ดลงมาจากต้นมา 7 ลูก นั่นเป็นต้นสาลี่ที่พ่อตั้งใจปลูกมาเป็นเวลา 5 ปีเต็ม และปีนั้นเป็นปีแรกที่มีลูกสาลี่ติดอยู่ 7 ลูก น้องสาวฉันรดน้ำต้นสาลี่ทุกวัน รอวันรอคืนให้มันออกลูก  และแล้วสาลี่ทั้ง 7 ลูกก็ถูกเด็ดลงมาในชั่วพริบตา

     น้องสาวฉันตาแดงกล่ำร้องไห้ทันทีโวยวายเป็นการใหญ่เมื่อรู้ว่าจะเอาไปฝากคนอื่น พ่อตวาดเสียงดังปรามไปว่า 

     "มีธุระต้องไปไหว้วานเขา จะไปมือไม้เปล่าได้ไง"

     ไปรษณีย์ปิดทำการไปแล้ว เจ้าหน้าที่เป็นญาติห่างๆมีศักดิ์เป็นคุณอาฉัน ตอนเข้าไปในบ้านเขา ครอบครัวเขากำลังกินข้าวอยู่  พ่อบอกวัตถุประสงค์ที่จำต้องมารบกวน คุณอาแค่พยักหน้า ไม่พูดอะไร ไม่เชื้อเชิญให้นั่ง

ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรี

     ฉันกับพ่อยืนรออยู่ที่ประตู เสื้อผ้าเก่าๆของเราพ่อลูกดูหมองไปถนัดตาภายใต้แสงไฟที่สว่างในบ้าน รอจนเขาค่อยๆกินข้าวอย่างใจเย็นจนเสร็จ 

     "เอาเบอร์โทรมา รออยู่นี่แหละ เดี๋ยวจะลองโทรให้"

     ท่าทางยะโส น้ำเสียงเย็นชา ครู่ใหญ่ๆผ่านไป เขาเดินกลับมา

    "โทรให้แล้ว ทางนู้นรับรู้เรียบร้อย ค่าโทร 1 หยวนครึ่ง"

     พ่อรีบควักสตางค์ออกมาจ่ายแล้วให้ฉันเอาสาลี่ส่งมอบให้เขา  พอแกะลูกสาลี่ออกจากห่อผ้าไม่คิดว่าเขาจะรีบสะบัดหลังมือเป็นระวิงให้เราพ่อลูก ท่าทางคล้ายกำลังไล่ขอทานที่มายืนอยู่หน้าบ้าน

     "ไม่ต้อง ไม่เอา ที่นี่มีเยอะแยะ  ไปดูคอกหมูหลังบ้านสิ หมูยังไม่ยอมกินเลย เอาคืนไป"

     แววตาและน้ำเสียงช่างเต็มไปด้วยความดูถูก เหยียดหยัน ศักดิ์ศรีของคนจน ช่างไม่มีราคาเอาเสียเลย

    ระหว่างทางกลับบ้าน ฉันเดินตามหลังพ่อ  กอดห่อสาลี่ไว้แน่น น้ำตาซึมมาตลอดทาง

     เพียงเพราะเราจน ความผูกพันฉันเครือญาติก็จืดจางไปด้วย

     เพียงเพราะเราจน จึงไม่คิดจะช่วยถนอมศักดิ์ศรีให้เราบ้างเลย

     ท่าทีสะบัดหลังมือเป็นระวิงแบบรำคาญในวันนั้นประกอบกับสายตาและน้ำเสียงที่ดูถูก เหยียดหยันเป็นภาพที่ฝังลึกอยู่ในใจของเด็กอายุ 10 ขวบอย่างฉันไม่มีวันลืม

     วันนี้ ฉันจึงไม่มีทางที่จะปฏิบัติแบบเดียวกับที่ฉันเคยได้รับเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เด็กผู้หญิงคนนี้มีภาพติดลบอยู่ในใจเขาไปตลอด

ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรี

     ของบางอย่าง

     ในสายตาของคนบางคน 

     อาจไร้ค่าเหมือนเศษผักเศษหญ้า

     แต่สำหรับคนบางคน 

     มันคือของล้ำค่าที่มาจากความตั้งใจของเขา


     ฉันเชื่อว่า เหตุการณ์ในวันนี้จะมีแต่ความประทับใจจากจิตใจที่เปี่ยมรักของฉันคงสามารถสร้างความรู้สึกดีๆในความตั้งใจของลูกศิษย์และพ่อของเขา

     ไม่ว่ารวยหรือจน 

     ทุกคนล้วนต้องการศักดิ์ศรีเหมือนกัน



"ขจรศักดิ์"

แปลและเรียบเรียง

www.facebook.com/Flintlibrary

แชร์