5 ผู้นำทางความคิด คนติดตามมากที่สุดในโซเชียล

อยากทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น เราก็ต้องรับสื่อดีๆ ติดตามความคิดของคนสำเร็จในแบบที่เราต้องการจะเป็น โดยเฉพาะ 5 นักคิด ที่มีคนติดตามมากที่สุดบนโลกโซเชียล http://winne.ws/n3433

2.8 พัน ผู้เข้าชม
5 ผู้นำทางความคิด คนติดตามมากที่สุดในโซเชียล

“เราจะเป็นอะไรในอนาคต ขึ้นอยู่กับเพื่อนที่เราคบ หนังสือที่เราอ่าน” วลีนี้มีมานานแล้วครับ และยังคงเป็นจริงต่อไปทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าเราจะเป็นใคร สังคมที่เราอยู่ สื่อที่เรารับ มีผลต่อชีวิตเราอย่างชัดเจน

ดังนั้น ถ้าอยากทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้น เราก็ต้องรับสื่อดีๆ ติดตามความคิดของคนสำเร็จในแบบที่เราต้องการจะเป็น แต่เพื่อนๆ คงมีคำถามว่า แล้วถ้าอยากจะเริ่มติดตามความคิดดีๆ จะหาได้จากที่ไหนกันล่ะ

วันนี้ Learning Hub เลยขอเสนอ “5 นักคิด ที่มีคนติดตามมากที่สุดบนโลกโซเชียล” เผื่อว่าคุณจะมีพลังฮึดอยากลุกมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเปลี่ยนโลกเหมือนนักคิด 5 ท่านนี้ มาเริ่มกันเลยครับ

1. Mark Zuckerberg – มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก

“Some people dream of success… while others wake up and work hard at it.”“คนบางคนได้แต่ฝันที่จะประสบความสำเร็จ ขณะที่คนอื่นลุกขึ้นมาทำงานหนักเพื่อความฝันนั้น”

ชื่อนี้ในยุคนี้คงยากที่จะมีคนไม่รู้จัก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ facebook เว็บไซต์เครือข่ายสังคม (Social Network) ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก  สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นคือ เขาเป็นมหาเศรษฐีพันล้านที่อายุน้อยที่สุดคนหนึ่งของโลก (ปัจจุบันอายุ 31 ปี) และทำให้การใช้ Social Network แพร่กระจายไปทั่วโลก

ส่งผลให้วิถีชีวิตของคนในยุคนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงครับ แค่นี้ ก็รู้สึกถึงความโดดเด่นของผู้ชายคนนี้แล้วใช่ไหมครับ แต่ยังไม่พอครับ… สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มผู้นี้มีคนติดตามทั่วโลก คือ ปณิธานอันแรงกล้าที่จะทำให้โลกนี้เชื่อมโยงกันและเปิดเผยกันมากที่สุด

มาร์ค มีวิสัยทัศน์เพื่อสร้างผลกระทบที่ดีต่อโลก โดยไม่ได้สนใจความมั่งคั่งของตัวเองเลย (เงินเป็นเพียงของแถมในชีวิตเขา) ซึ่งนี่ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู แต่มาร์คทำจริงครับ ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตที่พอเพียง น้อยครั้งนักที่เราจะเห็นชีวิตหรูหราของชายผู้นี้ ทั้งที่ติดอันดับต้นๆ ของมหาเศรษฐีโลก

เขาพูดเสมอว่า “ผมไม่ได้ทำ Facebook เพื่อเงิน แต่เงินเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้น”

นอกจากความคิดดีๆ แบบนี้ หนุ่มคนนี้ยังเป็นคนใจบุญเอามากๆ เพราะมาร์คตัดสินใจบริจาคหุ้น 99% ของหุ้นที่เขามีอยู่ใน facebook ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เขาก่อตั้งขึ้นร่วมกับภรรยาครับ องค์กรที่ว่านี้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ในด้านต่างๆ

เช่น สุขภาพ การศึกษา งานวิจัยและพลังงาน ทั้งหมดที่เขาทำก็เพื่อทำให้โลกนี้ดีขึ้น เราจึงไม่แปลกใจเลยที่ มาร์ค จะถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกโดยเขามีผู้ติดตามเขาผ่าน facebook กว่า 53 ล้านคน

ซึ่งนอกเหนือจากข่าว และบทความต่างๆ เกี่ยวกับเขา เราสามารถติดตามความคิดของมาร์คได้ใน facebook ส่วนตัวของเขาได้เลยที่https://www.facebook.com/zuck ลองติดตามกันดูนะครับ

2. Oprah Winfrey – โอปราห์ วินฟรีย์

“Be thankful for what you have; you’ll end up having more. If you concentrate on what you don’t have, you will never, ever have enough.”“จงมองเห็นคุณค่าในสิ่งที่คุณมี แล้วคุณจะได้รับสิ่งนั้นเพิ่มมากขึ้น  แต่ถ้าคุณหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่คุณไม่มี คุณจะไม่มีวันได้รับสิ่งไหนพอเลย”

หากพูดถึงหญิงเก่งระดับโลก เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง โอปราห์ วินฟรีย์ ด้วยแน่นอนครับ เธอเป็นพิธีกรชื่อดัง ของรายการ “The Oprah Winfrey Show” ซึ่งเป็นทอล์คโชว์ที่มีเรทติ้งการชมสูงสุดในประวัติศาสตร์   และเป็นหญิงแอฟริกันอเมริกัน ที่รวยที่สุดในศตวรรษที่ 20   

มีผู้ติดตามเธอผ่าน twitter กว่า 31 ล้านคนและผ่าน facebook page กว่า 11 ล้านคน แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้มีคนติดตามเธอทั่วโลกขนาดนี้ ส่วนหนึ่งคือความเป็นเซเลปของเธอ แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่า นั่นคือความคิดและชีวิตของเธอครับ

ผู้หญิงคนนี้เติบโตมาด้วยวัยเด็กที่โหดร้าย เธอถูกเหยียดผิว โดนคำดูหมิ่นดูแคลนจากคนอื่นและยังถูกข่มขืนถึง 2 ครั้งมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ แต่เธอก็สามารถเปลี่ยนความเจ็บปวดในอดีต ให้กลายเป็นการเห็นคุณค่าในตัวเองอย่างแรงกล้า ลุกขึ้นมาทำชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด

จนกลายเป็นหนึ่งในบุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของโลก ทั้งหมดนี้ก็ด้วยจิตใจที่แกร่ง ทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ จนตกผลึกมาเป็นความคิดดีๆ ให้ผู้คนทั่วโลกได้เรียนรู้ครับ  เช่น

“ไม่ว่าใครจะทำอะไรคุณไว้ในอดีต มันไม่มีอำนาจในปัจจุบันเลย คุณนั่นแหละ ที่ให้อำนาจมัน”“รักตนเอง และเรียนรู้ที่จะเผยแผ่ความรักนั้น ไปยังคนอื่นๆ”

ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้รายการของเธอเน้นให้กำลังใจผู้คนและชักจูงให้ผู้ชมดำเนินชีวิตในแง่บวก ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคง่ายๆ และยังใช้อำนาจของความเป็นสื่อมวลชนผลักดันสิ่งดีๆสู่สังคมอีกด้วย

นอกจากนี้ เธอยังทำการกุศลมากมาย ตั้งมูลนิธิเพื่อเด็กและสตรีทั่วโลก มูลนิธิช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ปัญหาสังคม จนนิตยสารฟอร์บส์ ยกย่องให้เธอเป็น 1 ใน 3 คนบันเทิง ที่บริจาคเงินเพื่อการกุศลมากที่สุดในโลก

ใครอยากติดตามความคิดของเธอ นอกเหนือจากติดตามรายการของเธอ ซึ่งแทรกแนวคิดดีๆ อยู่ตลอดแล้ว เราก็สามารถติดตามเธอ ผ่านข่าว บทความต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วไป หรือโซเชียลมีเดียที่เธอใช้อยู่คือ Facebook page: https://www.facebook.com/oprahwinfreyหรือ Twitter: https://www.facebook.com/oprahwinfrey  ครับ

3. Tenzin Gyatso – องค์ทะไลลามะ (The 14th Dalai Lama)

“Happiness is not something ready made.  It comes from your own actions.”“ความสุข ไม่ใช่ของสำเร็จรูป แต่มันเกิดจากการกระทำของคุณเอง” 

ท่านผู้นี้ คือ องค์ทะไลลามะ องค์ที่ 14 แห่งทิเบต ซึ่งถือเป็นตำแหน่งผู้นำสูงสุดของชาวทิเบต ถ้าใครชอบอ่านแง่คิด คำคมหรือปรัชญาชีวิต เชื่อว่าคำพูดของท่าน ต้องเคยผ่านตาเราอย่างแน่นอนครับ เพราะในโลกโซเชียลมีการยกคำพูดหรือข้อเขียนของท่าน มาแชร์ต่อกันมากมาย 

ท่านมีผู้ติดตามผ่านทาง twitter กว่า 12 ล้านคน และผ่าน Facebook page กว่า 13 ล้านคน แค่นั้นเอง !!! และสิ่งที่ทำให้ท่านเป็นที่ติดตามขนาดนี้ เพราะแนวคิดและปรัชญาที่ท่านได้เผยแพร่ออกไปนั้น เป็นประโยชน์ต่อคนทุกคนบนโลก 

โดยท่านมักกล่าวเสมอว่า “คนเราอยากได้ความสุข แต่กลับให้คุณค่ามันเป็นสิ่งสุดท้าย 

เพราะมัวแต่หาเงินจนลืมดูแล ลืมใส่ใจตัวเอง ไม่เคยคิดว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่คนเราต้องการจริงๆ คืออะไร สุดท้ายก็เลยไม่มีความสุข”

นอกจากนี้งานของท่าน ยังช่วยสร้างประโยชน์ต่อโลกนี้มากมาย จนทำให้ท่านได้รับรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพ ในปี ค.ศ. 1989 และได้รับการยกย่องเชิดชู ว่าเป็น “ผู้นำทางจิตวิญญาณคนสำคัญของโลก” อีกด้วยครับ

ไม่ว่าเราจะเป็นใคร ประกอบอาชีพไหน ก็สามารถนำแนวคิดของท่านไปใช้ในชีวิตได้อย่างแน่นอน โดยถ้าใครอยากได้ปรัชญาชีวิตแบบถึงแก่น ตรงไปตรงมา นำไปใช้ได้ทันที สามารถติดตามแนวคิดของท่านผ่านทาง Twitter: https://twitter.com/dalailama หรือ Facebook page: https://www.facebook.com/DalaiLama ได้เลยครับ

4. Warren Buffet  – วอร์เรน บัฟเฟตต์

“If you buy things you do not need, soon you will have to sell things you need.”“ถ้าคุณซื้อสิ่งที่ไม่จำเป็น สักวันหนึ่งคุณจะต้องขายสิ่งที่จำเป็น”

หากพูดถึงนักลงทุนที่ได้ชื่อว่า ประสบความสำเร็จ มากที่สุดในโลก ต้องมีชื่อของคนคนนี้อยู่แน่ๆ ครับ

วอร์เรน บัฟเฟตต์ หรือ ปู่บัฟเฟตต์ ที่วงการนักลงทุนชอบเรียกกัน คือชายอายุ 85 ปี ผู้ได้รับฉายาว่า “เทพพยากรณ์แห่งโอมาฮา” และเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่ได้ชื่อว่า “รวยที่สุดในโลก”

สิ่งที่น่าสนใจคือ บัฟเฟตต์ เป็นคนไม่ค่อยออกสื่อ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่มี facebook page ของตัวเอง และเพิ่งจะเปิดบัญชี twitter ของตัวเองเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้เอง แต่กลับมีผู้ติดตามทั่วโลกโซเชียล โดยคำพูดทุกคำพูดของเขา ไม่ว่าจะพูดอะไรออกมา คนทั่วโลกจะสนใจและนำไปตีความอย่างลึกซึ้งอยู่เสมอครับ

แน่นอนว่าที่เขามีคนติดตามขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เพราะความร่ำรวยอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เพราะเป็นคนยึดมั่นในปรัชญาการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ที่ต้องใช้ความอดทนสูงมากและยังมีปรัชญาชีวิตที่น่าสนใจ เช่น

“เราใช้เวลาสร้างชื่อเสียงถึง 20 ปี แต่ใช้เวลาแค่ 5 นาทีก็ทำลายมันได้”“ชีวิตเรา ต้องการแค่การทำเรื่องไม่กี่เรื่องให้ถูกต้อง”

เห็นไหมครับ ว่าไม่ใช่แค่เรื่องลงทุนนะ เราสามารถติดตามแนวคิดอื่นของเขา เพื่อนำไปใช้ในชีวิตตัวเองได้มากมาย โดยเฉพาะความเป็นอยู่อย่างประหยัด พอเพียง

ที่แม้เขาจะรวยล้นฟ้า แต่กลับใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะแบบสุดๆครับ เขายังขับรถเก่าๆ และอยู่บ้านหลังเดิมมานาน ไม่ยึดติดความหรูหรา มีชีวิตที่เรียบง่าย แต่ไร้กังวล และมีความสุขมาก นอกจากนี้เขายังบริจาคทรัพย์สินเกิน 85% และบริจาคมากขึ้นเรื่อยๆ ในมูลนิธิของบิล เกตส์ เพื่อช่วยเหลือโลกใบนี้อีกต่างหาก

เห็นแบบนี้แล้ว หลายคนคงอยากติดตามความคิดของบัฟเฟตต์ เราแนะนำว่าให้ติดตามผ่านข่าว หรือบทความต่างประเทศเอาครับ เพราะ Twitter ของเขา (https://twitter.com/warrenbuffett) ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่ ลองหาอ่านกันดูนะครับ

5. Jack Ma – แจ๊ค หม่า

“Don’t Complain. You can find opportunities.”“จงอย่าบ่น โอกาสมีอยู่เสมอถ้าคุณมองหา”

วินาทีนี้ โลกธุรกิจออนไลน์ต้องพูดถึงชายคนหนึ่ง เขาคือ แจ๊ค หม่า มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของจีนนั่นเอง ผู้ก่อตั้ง Alibaba Group กลุ่มเว็บไซต์ e-commerce ที่ใหญ่ที่สุดของจีน

ชายผู้นี้มีคนติดตามความคิดทั่วโลก ด้วยเรื่องราวชีวิตที่พลิกสุดขั้ว จากครูสอนภาษาอังกฤษ กลายเป็นนักธุรกิจผู้ครองอาณาจักร e-commerce ระดับโลก ทำให้ความคิด ปรัชญาความสำเร็จของเขา คือสิ่งที่ตกผลึกมาจากประสบการณ์จริงๆ มีความตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม

ทุกครั้งที่พูด จึงมีคนทั่วโลกฟังเขาเสมอ และสิ่งที่เขาพูดไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจนะครับ แต่เป็นปรัชญาชีวิตแบบถึงลูกถึงคนเลยทีเดียว สไตล์ของเขาคือ คมคาย ไม่ต้องตีความ เอาไปใช้ได้ทันที โดยตัวอย่างแนวคิดดีๆจากแจ๊ค หม่า เช่น

“คุณไม่สามารถที่จะทำให้คนทุกคนนั้นคิดเหมือนกันได้หรอก แต่คุณสามารถที่จะทำให้ทุกคนก้าวไปทางเดียวกันได้ด้วยเป้าหมายเดียวกัน”“โลกนี้จำไม่ได้หรอก ว่าคุณพูดอะไรไปบ้าง แต่จะไม่ลืมสิ่งที่คุณทำ”

หากใครจะติดตามความคิดของมหาเศรษฐี e-commerce ท่านนี้เห็นทีต้องหาอ่านตามบทความและหนังสือที่พูดถึงเขาครับ เพราะเขาไม่มีบัญชี twitter และ facebook อย่างเป็นทางการเลย (มีแต่ที่คนอื่นพูดถึง) ลองติดตามกันดูนะครับ

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวและความน่าสนใจของเหล่านักคิด ที่แม้จะมาจากต่างสาขาอาชีพ มีเรื่องราวชีวิตที่ไม่เหมือนกัน แต่เราทุกคนสามารถเรียนรู้จากนักคิดเหล่านี้ได้ครับ เพียงเปลี่ยนมุมมองความคิด ชีวิตก็เปลี่ยนแล้วครับ

เรียบเรียงโดย Pump – Learning Hub Team

Credit : learninghubthailand

แชร์