ศน.เร่งช่วยผู้แสวงบุญฮัจย์ตกหล่น 22 คน

บริษัทผู้ประกอบการออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุมาจากแซะ หรือผู้นำกลุ่มของกลุ่มผู้แสวงบุญทั้ง 22 คนได้ทิ้งผู้แสวงบุญไปและได้จ่ายเงินให้บริษัทผู้ประกอบการไม่ครบ โดยค้างเงินอยู่อีกเกือบ 2 ล้านบาท http://winne.ws/n6593

423 ผู้เข้าชม
ศน.เร่งช่วยผู้แสวงบุญฮัจย์ตกหล่น 22 คน

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณีมีกลุ่มผู้แสวงบุญในพื้นที่ จ.สงขลาและปัตตานี จำนวน 22 คนถูกลอยแพที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ไม่สามารถเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียได้ ซึ่งทางด้านบริษัทผู้ประกอบการออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุมาจากแซะ หรือผู้นำกลุ่มของกลุ่มผู้แสวงบุญทั้ง 22 คนได้ทิ้งผู้แสวงบุญไปและได้จ่ายเงินให้บริษัทผู้ประกอบการไม่ครบ โดยค้างเงินอยู่อีกเกือบ 2 ล้านบาทนั้นว่า รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว โดยไม่ได้นิ่งนอนใจและได้สั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าช่วยเหลือผู้แสวงบุญโดยเร็วที่สุด

 ในเบื้องต้นทาง ศน.ตรวจสอบข้อมูลแล้วพบข้อเท็จจริงปรากฏ ดังนี้ 1.กลุ่มผู้แสวงบุญกลุ่มนี้ เป็นผู้แสวงบุญของบริษัท เอส.ที. อาราเบียน มีกำหนดเดินทางในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ โดยสายการบินกัลฟ์แอร์ เที่ยวบิน GF 153 เวลา 11.50 น. (ปรากฏตาม สกฮ.5) คือเป็นผู้ที่มีรายชื่อผู้แสวงบุญที่เดินทาง พร้อมวันเวลาเดินทางไปและกลับในระบบฐานข้อมูลของ ศน.

2.เจ้าหน้าที่กองส่งเสริมกิจการฮัจย์ได้ประสานบริษัทผู้ประกอบกิจการฮัจย์ของผู้แสวงบุญกลุ่มนี้แล้ว ได้รับการยืนยันว่า ทางบริษัทผู้ประกอบการจะรับผิดชอบนำพาผู้แสวงบุญเดินทางไปจำนวน 19 คน โดยได้จัดให้เดินทางเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมาจำนวน 3 คนแล้ว ส่วนอีก 16 คนอยู่ระหว่างผู้แสวงบุญตัดสินใจว่าจะเดินทางไปเมื่อใด ส่วนผู้แสวงบุญอีก 3 คนที่เป็นครอบครัวของแซะ คือนายราเมศ อนันทปริพงศ์ (ผู้นำกลุ่ม) ที่ทิ้งผู้แสวงบุญไป ทางบริษัทผู้ประกอบการจะไม่รับผิดชอบที่จะพาเดินทางไป 3.ทาง ศน.ได้แจ้งไปยังคณะทำงานประชาสัมพันธ์กิจการฮัจย์จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา ให้ประสานชี้แจงไปยังผู้ร้องเรียนดังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของ ศน.แล้ว และขอให้ประสานกับผู้ประกอบกิจการฮัจย์นัดหมายในการเดินทางและอำนวยความสะดวกให้ผู้แสวงบุญที่เหลืออย่างใกล้ชิดทั้งหมดแล้ว ซึ่งกรมการศาสนาอยากให้ผู้แสวงบุญมั่นใจ หากลงทะเบียนผ่านระบบอย่างถูกต้อง แม้ผู้นำกลุ่มหรือแซะจะไม่ดูแล ทางบริษัทผู้ประกอบการต้องดูแลแทน และทางกรมการศาสนาจะประสานจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งในเรื่องนี้ได้รายงานข้อมูลในการช่วยเหลือทั้งหมดต่อนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการ วธ.รับทราบแล้ว

“ทั้งนี้ คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยร่วมกับทุกภาคส่วน ได้เตรียมความพร้อมทุกด้านแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยทั้งในประเทศไทยและประเทศซาอุฯ ดังนี้ 1.จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ประจำสนามบินต่างๆ เช่น ที่สุวรรณภูมิ หาดใหญ่ นราธิวาส และภูเก็ต และที่สนามบินเจดดาห์ มะดีนะห์ เพื่อคอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญ ทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ 2.จัดตั้งสำนักงานกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์ เพื่อบริการผู้แสวงบุญชาวไทยและผู้เกี่ยวข้อง 3.จัดส่งคณะเจ้าหน้าที่ไทย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากทุกภาคส่วน รวม 130 คน โดยมีนายอรุณ บุญชุม อะมีรุ้ลฮัจย์ ประจำปี 2559 (หัวหน้าคณะผู้แทนฮัจย์ไทย) เดินทางไปเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยในประเทศซาอุฯ จนสิ้นสุดเทศกาลฮัจย์ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้ประกอบพิธีฮัจย์ได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์ ครบถ้วน ตามหลักศาสนาสมดังเจตนารมณ์ที่มุ่งหวังไว้ 4.จัดตั้งศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ กรมการศาสนา พร้อมเปิดศูนย์ฮอตไลน์ฮัจย์เพื่อให้พี่น้องมุสลิมและผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามตลอด 24 ชั่วโมง ที่โทร 0-2422-8795-6, 09-4952-0668, 09-4915-8257 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765” อธิบดี ศน.กล่าว

ขอบคุณ, http://www.matichon.co.th/news/252250

แชร์