ข้อดีของการ อาบน้ำอุ่น

         1. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การอาบน้ำอุ่นเป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้อาบ สายน้ำอุ่น ณ อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตให้สูบฉีดไปทั่วร่างกาย

        2. การอาบน้ำอุ่นช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย และเกิดการตื่นตัว ช่วยรักษาบรรเทาความปวดเมื่อย และความตึงเครียดของกล้ามเนื้อตามร่างกาย

         3. ปราศจากสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขน การอาบน้ำในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จะช่วยรักษาผิวพรรณ ชะล้างไขมันบนผิวหนัง และทำความสะอาดลึกถึงรูขุมขนได้ดีกว่า

          4. เพิ่มความสดชื่น คืนความกระปรี้กระเป่า เพราะสายน้ำอุ่นจะลดประจุบวก และเพิ่มประจุลบรอบข้างในอากาศขณะอาบน้ำช่วยทำให้คุณหายใจได้คล่องขึ้น รู้สึกสดชื่นภายหลังจากอาบน้ำ

ข้อควรระวังของการ อาบน้ำอุ่น

         1. หาก อาบน้ำอุ่น ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม และนานเกินไป จะทำให้ผิวแห้งเสีย แตกลอก และรูขุมขนกว้างขึ้น เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างน้ำมันบนผิวออกไปมาก ทำให้ผิวแห้งเสีย และเกิดการระคายเคืองได้

        2. หาก อาบน้ำอุ่น ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฟองมาก ๆ เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว และไม่ควรเช็ดถูผิวแรงๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลอกมากขึ้นด้วย

        3. การแช่น้ำร้อนนานเกิน 30 นาที จะทำให้เลือดลงมาหล่อเลี้ยงที่ผิวหนัง ส่งผลให้ไปเลี้ยงสมองไม่พอ ทำให้อ่อนเพลีย เวียนศรีษะอาจจะเป็นลมได้

        4. หาก อาบน้ำอุ่น และสระผมด้วยน้ำอุ่นจะทำให้ผมแห้งและเกิดรังแคได้ ยิ่งในหน้าหนาวแบบนี้ทำให้ผมและหนังศีรษะแห้งอยู่แล้ว ยิ่งสระผมด้วยน้ำอุ่นยิ่งเป็นการกระตุ้นให้ผมแห้งชี้ฟู และเกิดรังแคขึ้นได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

คำแนะนำในการ อาบน้ำอุ่น

        1. ในการ อาบน้ำอุ่น ในหน้าหนาว ควรปรับอุณหภูมิร่างกายด้วยการเอาน้ำราดที่เท้าก่อน และค่อยๆไล่ขึ้นมา อย่ารีบร้อนราดทั้งตัวก่อนโดยที่ยังไม่ปรับอุณหภูมิร่างกาย เพราะอาจจะทำให้เราเป็นหวัดได้

        2. หลังจาก อาบน้ำอุ่น ในช่วงท้าย ๆ ให้อาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น เพื่อปิดรูขุมขนและปรับสมดุลของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งเสียน้อยลงได้

        3. ระยะเวลาในการอาบน้ำอุ่นที่ดีต่อสุขภาพคือ 10-15 นาที ไม่ควรนานเกิน 30 นาที

        4. หลังจาก อาบน้ำอุ่น ควรทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่นชื้น ป้องกันผิวแห้งแตกได้อีกทางหนึ่ง

ได้รู้ข้อดี ข้อเสียและคำแนะนำในการ อาบน้ำ อุ่นไปแล้วนะคะ หน้าหนาวนี้ อย่าลืมลองไปทำตามคำแนะนำกันดูนะคะ

เรียบเรียงโดย : health.mthai.com

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก http://health.mthai.com/howto/health-care/9568.html