ลักษณะน้อยหน่าที่แก่จัดตาจะห่าง นอกจากอร่อยยังดีต่อสุขภาพมากมาย

น้อยหน่า ผลไม้ข้างรั้วบ้าน กินช่วยลดความเสี่ยงหอบหืด โลหิตจาง และลดคอเลสเตอรอล

น้อยหน่า เป็นแหล่งรวมของวิตามิน C, วิตามินบี 6 และแร่ธาตุ เช่น โพแทสเซียมและแมกนีเซียม วิตามินซี ถือเป็นตัวแทนในการต้านอาการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพมากจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหอบหืด

ลูกน้อยหน่าบนต้น

นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 6 จะช่วยป้องกันการอักเสบของหลอดลม โพแทสเซียมและแมกนีเซียมยังมีประโยชน์มากและป้องกันรักษาโรคหอบหืด แมกนีเซียมช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลอดลมและหลอดอาหาร ผู้ป่วยโรคหอบหืดจะมีสารเหล่านี้ในระดับต่ำ

ดูแลรักษาต่อมไทรอยด์

แร่ธาตุ เช่น ทองแดงมีความสำคัญมากสำหรับการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ ที่เรียกว่า ไทรอกซีน ฮอร์โมนมีหน้าที่ดูแลสุขภาพของต่อมไทรอยด์ น้อยหน่ามีแร่ธาตุชนิดนี้เป็นจำนวนมาก

ช่วยสร้างพลังงานให้กับร่างกาย

วิตามินบีเป็นสารอาหารที่สามารถช่วยเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน การกินน้อยหน่าเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยเป็นความคิดที่ดีเพราะมันเป็นแหล่งรวมของวิตามินบี

สร้างความแข็งแรงให้กระดูก

ได้รับการพิสูนจ์แล้วว่าเมื่อแมกนีเซียมมาผนึกกำลังกับแคลเซียมจะมีประสิทธิภาพมากในการเพิ่มมวลกระดูกให้หนาแน่นและแข็งแรง น้อยหน่ามีแร่ธาตุเหล่านี้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมซึ่งดีเยี่ยมสำหรับดูแลสุขภาพกระดูกของคุณ

น้อยหน่าเนื้อ

ลดระดับคอเลสเตอรอล

ผลไม้ชนิดนี้มีไนอาซิน (วิตามินบี) ซึ่งมีความสามารถในการปรับลดระดับคอเลสเตอรอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ป้องกันปัญหาจากการตั้งครรภ์

กรดโฟลิก หรือที่เรียกกันว่า วิตามิน B9 เป็นที่รู้กันดีว่ามีบทบาทสำคัญในภาวะตั้งครรภ์ มันยอดเยี่ยมมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันช่วยป้องกันปัญหาท่อเส้นประสาทสำหรับทารก

สุขภาพผมและผิว

น้อยหน่าเป็นแหล่งรวมที่ดีของวิตามิน A จะช่วยดูแลรักษาให้ผมนุ่มสลวยและมีผิวอ่อนเยาว์ คนโบราญนำเนื้อผลไม้ชนิดนี้มาทำเป็นครีมและใช้ทาบริเวณผิวหนังเพื่อใช้ฟื้นฟูรักษาสำหรับพวกเขา

บำรุงสายตา

วิตามินเอมีอยู่ในน้อยหน่าสามารถช่วยดูแลรักษาสุขภาพตาให้คุณ เพราะมีคุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันจอประสาทตาและกระจกตาจากอนุมูลอิสระที่เป็นอันตราย

ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง

น้อยหน่าอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญสำหรับการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง หากคุณกินน้อยหน่าเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคโลหิตจาง

ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก

http://www.rak-sukapap.com/2016/09/blog-post_952.html?m=1

www.google. co.th